ประยุทธ์ ยันไม่เลิก '30 บาท' เพียงหาวิธีการให้มันดีขึ้น ขู่ใครพูดอีก มีเรื่องแน่ ชี้ไทยมีคน 70 ล้าน อยู่ในระบบภาษี 10 ล้าน เสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน อีก 6 ล้านคน ลดหย่อน ดังนั้น 4 ล้าน ถือเป็นหลักของประเทศ เพื่อนำมาขับเคลื่อนประเทศ
28 ธ.ค. 2558 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงการเสียภาษีและระบบสวัสดิการ ว่า วันนี้ ประเทศไทยมีคน 70 ล้านคน อยู่ในระบบภาษี 10 ล้านคน เหลือเสียภาษีประมาณ 4 ล้านคน อีก 6 ล้านคน ลดหย่อนตรงนั้น ตรงนี้ ดังนั้น 4 ล้านคน คือ ถือเป็นหลักของประเทศ เพื่อนำมาขับเคลื่อนประเทศ และอีกส่วนหนึ่งของการเสียภาษี คือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ vat โดยบวกไปกับราคาสินค้า ซึ่งเก็บ 7% มาหลายปีแล้ว ยังไม่สามารถขึ้นได้ เพราะบ้านเมืองเรายังไม่เข้มแข็ง ทั้งนี้ ทุกวันนี้ประเทศไทยงบประมาณขาดดุล เป็นอย่างนี้มาทุกปี เพราะรายจ่ายมากกว่ารายได้ จึงเป็นปัญหาที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ดังนั้น จะยกเลิกเรื่องรัฐสวัสดิการไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี การศึกษาฟรี การรักษาพยาบาลฟรี
“อย่าไปฟังใครบิดเบือน ผมยืนยันว่า ไม่เคยคิดที่จะเลิก มีแต่จะคิดว่าหาเงินมาจากไหน แล้วทำให้ดีขึ้นอย่างไร ดังนั้น อย่าออกมาเดินขบวนต่อต้านเรื่อง 30 บาทกับผมอีก ได้ยินกันทุกคนแล้วนะ ขอถือโอกาสชี้แจงเลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีเวลาเหลืออีกแค่ 1 ปี 6 เดือน ทำงานตามโรดแมป ทำงานตามรัฐธรรมนูญกำหนด ต้องการทำให้ประเทศชาติเข้มแข็ง เพื่อให้ทุกคนสามารถ กำหนดชะตาชีวิต หรืออนาคตของประเทศได้ด้วยตัวของทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนทุกคนก็ทำอยู่แล้ว เพราะทุกคนเป็นคนลงคะแนนเลือกตั้งใช่หรือไม่ ดังนั้น พวกท่านเป็นคนเลือกตั้ง เป็นคนลงประชามติ ต้องดูสาระข้างในว่ามันคืออะไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้คือการเริ่มต้นในช่วงที่หนึ่งของการปฏิรูปเท่านั้น รัฐบาลจะต้องปฏิรูปให้ได้ ใน 1 ปี 6 เดือน ถึงกรกฎาคมปี 60 ทุกอย่างต้องเริ่มต้นได้หมด ก่อนที่จะส่งไปยังรัฐบาลหน้า จากนั้น จะส่งแผนปฏิรูปไปให้รัฐบาลต่อไป ซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องเลือกมาให้ดีๆ แต่ถ้าทุกคน ทุกพรรคยังพูดแบบเดิมๆ อยู่ คงไม่มีทางทำได้
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในระหว่างไปเป็นประธานเปิดอาคารด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลาโดยกล่าวถึงโครงการบัตรทอง 30 บาทว่า ใครพูดว่าจะเลิกโครงการ ใคร พูดมาสิว่าใครพูด จะได้ไปด่าถูก ใครเขาจะเลิก อะไรที่เกี่ยวข้องกับคน ถามว่าเลิกได้หรือไม่ มันจะมีปัญหาอะไรก็ต้องสู้ต่อ ตนเพียงต้องหาวิธีการว่า ทำอย่างไร ให้มันดีขึ้น 30 บาทรักษาทุกโรค จากเดิมได้รายหัวคนละพันกว่าบาท จากนั้นขึ้นมา 3 พันกว่าบาท แล้วคนไปเข้าโรงพยาบาลทีหนึ่ง ใครเดือดร้อน โรงพยาบาลขาดทุน ต้องปิดโรงพยาบาล แต่ตนให้เลิกโครงการไม่ได้ จึงต้องให้ไปหาวิธีการ อย่างน้อยทุกคนต้องได้สิทธิ์เท่าเดิม แต่หาวิธีการให้มันดีขึ้น
"ผมจะไปเลิกได้ไง อย่ามาหาเรื่องให้ผมทะเลาะกับท่าน อะไรที่อยากให้ผมเลิก อยากได้อะไรอีก จำนงจำนำเอาอีกไหม อันนี้ให้ไม่ได้ อะไรที่ให้ได้ก็จะให้ มันต้องมีกติกา ถ้าท่านคิดจะมีรัฐสวัสดิการดีๆ ประชาชนรักมากๆ ท่านต้องหาเงินให้กับประเทศได้เก่งกว่านี้ อย่าทำโครงสร้างเศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ประเทศที่เขารวยกว่านี้ยังทำไม่ได้เลย คิดสิว่าเพราะอะไร เขามองปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่ของเราเมื่อทำไปแล้วก็ทำไป แต่ผมจะหาเงินเพื่อให้มันทำได้และดีกว่าเดิม และจะเอาจากไหน ใครช่วยได้ก็ช่วยมา ใครรวยก็ช่วยมา จนก็ไม่ต้องช่วย งบประมาณเราก็ให้ได้เท่าเดิม ประกาศครั้งสุดท้าย ผมไม่พูดอีกแล้ว ใครก็อย่ามาพูดอีก ขอพุดให้กระจ่าง ผมจะไม่ยกเลิกนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเป็นของใครไม่รู้ และอย่าพูดอีก ใครพูดจะโดน มีเรื่องแน่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น