วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

'ประยุทธ์' ขอ ‘ปวีณ' กลับไทยแจ้งตามขั้นตอน รับจัดการเรื่องข่มขู่ให้ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน


'ประยุทธ์' ขอ ‘ปวีณ' ผู้นำสืบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาที่ขอลี้ภัยหลังเกรงจะถูกหมายเอาชีวิต กลับไทยมาแจ้งความตามขั้นตอน รับประกันจะจัดการให้ในเรื่องของการข่มขู่  ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม
14 ธ.ค.2558 จากกรณีที่ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้นำการสืบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ยื่นขอลี้ภัยในออสเตรเลีย โดยกล่าวว่าเพราะคดีของเขาสืบสาวไปถึงผู้มีอิทธิพลรวมถึงนักการเมืองและคนในเครื่องแบบ ทำให้เขาต้องการลี้ภัยเพราะเกรงจะถูกหมายเอาชีวิต (อ่านรายละเอียด) นั้น
ล่าสุดวันนี้(14 ธ.ค.58) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอให้ พล.ต.ต.ปวีณกลับมาประเทศไทย และดำเนินการแจ้งความตามขั้นตอน
“ผมจะสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ เพราะจะผิดจะถูกอย่างไร ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ตำรวจก็มีการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอยู่ ผมยืนยันว่า หากกลับมาและแจ้งข้อมูลทั้งหมด จะจัดการให้ในเรื่องของการข่มขู่  ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนก็ตาม เพราะผมเป็นคนสั่งการให้ดำเนินการในเรื่องของการค้ามนุษย์ แต่ไม่ได้หมายความว่า หากสั่งการให้ใครทำงาน แล้วจะมีความเติบโตในหน้าที่ทันที” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีตั้งคำถามว่า การกระทำของ พล.ต.ต.ปวีณ ยังมีความรักชาติเหลืออยู่หรือไม่ หรือทำตัวเหมือนคนบางประเภท พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นศัตรูกับ พล.ต.ต.ปวีณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของ พล.ต.ต.ปวีณ จะมีผลต่อการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย ที่ขณะนี้ถูกจัดอันดับอยู่ใน เทียร์ 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของคนเพียงคนเดียว  ทุกคนจะต้องช่วยกันชี้แจง และว่า ตนพูดเพื่อคนทั้งประเทศ ในขณะที่บางคนพูดเพื่อตัวเอง
ต่อกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานการใช้แรงงานทาสในโรงงานแปรรูปกุ้งที่ จ.สมุทรสาคร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว โดยจะดำเนินการตามกฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“หากผู้ที่มีหน้าที่ไม่ดำเนินการ  ผมก็จะจัดการ  ถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่การทำเพื่อหวังเรื่องของตำแหน่งหน้าที่ การพิจารณาตำแหน่งหน้าที่เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว พร้อมย้ำว่า แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และไม่มีการปกปิดข้อมูล
เกรงเป็นเหมือน พล.ต.อ.สมเพียร
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปวีณ ได้ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า “เราคิดว่ามันวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประชาคมโลกต้องการให้ดำเนินการ และเชื่อมั่นว่ารัฐนี่จะคุ้มครองผู้ทำหน้าที่ แต่ปรากฏว่าเมื่อดำเนินการส่งสำนวนการสอบสวนไปแล้วนั้น ผมนี่ถูกย้ายไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าหากเป็นภาวะการณ์ปกติที่ผมไม่เคยไปจับกุมผู้ต้องหาจำนวนมากขนาดนี้ทำให้ผมมีศตรูจำนวนมาก และใน3 จังหวัดเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ขบวนการค้ามนุษย์อยู่ตรงนั้น รวมทั้งกลุ่มของทหารที่กระทำผิดก็อยู่ในนั้นด้วย จึงเป็นอันตราย ผมได้ร้องขอผู้บังคับบัญชาทบทวนทุกระดับไม่มีใครให้ความเห็นใจ ไม่มีการปกป้อคุ้มครอง ผมเห็นว่าถ้าไปที่นั่นมันอันตรายแน่นอน และมีกรณีตัวอย่างของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา" พร้อมระบุด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทราบเรื่องดี แต่ไม่มีการทบทวนคำสั่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น