เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้ศึกษากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติจะให้คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจากการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57 เป็นโมฆะ เป็นเงิน 2,400 ล้านบาท แต่หลังจากศึกษาข้อมูลในรายงานประจำปี 2557 ของ กกต.ที่เสนอให้ สนช.พิจารณาตามวาระการประชุม เมื่อวันที่ 14 ม.ค.59 พบว่า กกต.ระบุ ไว้ชัดว่าอำนาจในการจัดเลือกตั้ง ส.ส.เป็นของ กกต.โดยตรง และไม่มีข้อความใดที่ ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบด้วย แต่ปัญหาและอุปสรรคมาจาก กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้ง ผู้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายจึงควรอยู่กับ กกต.และ กปปส.
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เมื่อศึกษาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2549 หน้าที่ 21-22 แล้ว จะเห็นได้ว่าอำนาจในการจัดเลือกตั้งตามพระราชกฤษฎีกายุบสภา พ.ศ.2556 มาตรา 4 ต้องเป็นอำนาจของ กกต. โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีมีเพียงอำนาจในการยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 3 เท่านั้น นอกจากนี้ ในรายงานประจำปี 2557 ของ กกต.ยังระบุถึงเงินงบประมาณที่ได้รับอุดหนุนเพื่อใช้ในการเลือกตั้ง ส.ส. มีทั้งสิ้น 3,163,708,300 บาท และใช้ไป 2,037,493,073.38 บาท ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่ กกต.ระบุออกมา 2,400 ล้านบาท จึงสูงกว่าที่ใช้ไปจริง 363 ล้านบาท
จากตัวเลขรับจ่ายดังกล่าว แสดงว่า มีเงินเหลือจากการเลือกตั้งจำนวน 1,126,215,226.62 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ต้องถูกส่งคืนเป็นเงินแผ่นดิน จะถูกนำใช้ในทางอื่นโดยพลการไม่ได้ แต่จากการตรวจสอบในงบการเงินของ กกต.ซึ่งยังไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทั้งที่เลยเวลามานานแล้ว อาจทำให้เข้าใจว่างบบัญชีปี 2557 ของ กกต.มีปัญหาใช่หรือไม่ และ กกต.อาจนำส่วนเงินนี้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะถ้าไม่ได้เอาไปใช้ แล้วทำไม กกต.ไม่ส่งคืนเงินแผ่นดิน เรื่องนี้ สตง.ต้องรีบไปตรวจสอบโดยเร็ว ดังนั้นตนจะนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เพื่อให้พิจารณาเรียกค่าเสียหายจากการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2557 จำนวนกว่า 2,037 ล้านบาท จาก กกต.และ กปปส. อีกทั้งเรียกเงินงบประมาณที่คงเหลือจากการไม่ได้ใช้ไปในการเลือกตั้ง ส.ส. คืนจาก กกต.จำนวนกว่า 1,126 ล้านบาทโดยเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น