วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ตร.เผย มือฉีกบัญชีผู้มีสิทธิลงประชามติ เป็นเด็ก 8 ขวบ ดำเนินคดีต่อ แต่ไม่ต้องรับโทษ


18 ก.ค.2559 กรณีมีมือมืดฉีกบัญชีผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หน่วยที่ 5 โรงเรียนวชิรสารศึกษา หมู่ที่ 5 บ้านเหนือ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เมื่อวันนี้ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า จากการสืบสวนในเบื้องต้น วันเกิดเหตุมีพิธีอุปสมบทวัดหงษ์ทอง ภายในพื้นที่เดียวกันกับโรงเรียน และอาคารหน่วยออกเสียงประชามติ มีทั้งคนเมา เด็ก และเยาวชนมาร่วมงานจำนวนมาก 
ล่าสุด พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.สภ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า คดีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ และได้กำชับให้ทำการสืบสวนคดีให้กระจ่างชัด ปรากฏข้อเท็จจริงโดยเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 5 พบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงนั้นถูกฉีกขาดและนำไปทิ้งไว้ที่ข้างศาลาตั้งกระดานติดบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
      
จากการสืบสวนพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติที่ฉีกขาดไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง แต่เกิดจากความซุกซนของเด็กหญิง 2 คน อายุเพียง 8 ขวบไปวิ่งเล่นกันที่บริเวณกระดานติดรายชื่อ และจากรูปคดีได้ทำการสืบสวนอย่างครบถ้วนแล้ว ภายใต้บรรยากาศแบบสบายๆ ยิ้มแย้ม เด็กก็เดินเล่นในห้องสอบสวนกันตามปกติ ไม่ตึงเครียด โดยมีผู้ปกครองของเด็ก เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมรับฟังการบันทึกถ้อยคำของพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ไม่ได้สร้างความกดดันให้แก่เด็ก และผู้ปกครอง
      
ซึ่งเด็กหญิงทั้งสองที่เป็นผู้ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 อายุ 8 ขวบ และเป็นเพื่อนสนิทเรียนอยู่ห้องเดียวกัน โดยจะมาเล่นกันที่บริเวณนี้เป็นประจำทุกวัน ก็ได้ให้การเล่าถึงเหตุการณ์ที่เข้าไปในเขตติดตั้งบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ หน่วยที่ 5 ภายในโรงเรียนวชิรสารศึกษา ว่า ก่อนเกิดเหตุภายในวัดมีงานบวชพระ และบ้านของเด็กทั้งสองก็อยู่หลังโรงเรียนไม่ไกลจากกันมากนัก และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำบัญชีรายชื่อมาติดตั้งเสร็จก็กลับไปในเวลา 11.30 น.ของวันเสาร์ที่ 16 ก.ค.59 เด็กทั้งสองคนได้ขึ้นไปวิ่งเล่นบนอาคารศาลาตามประสาโดยมีเด็กอื่นอยู่ด้วย ทั้งสองคนสะดุดตากระดาษสีชมพูที่ติดบัญชีรายชื่อ โดยไม่ทราบว่าเป็นบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ จากนั้นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก็ได้ตรงไปที่แผ่นกระดาน แล้วต่างก็กระโดดเอื้อมมือไปคว้ากระดาษจนฉีกขาดตกลงมาเกลื่อนพื้น ก่อนที่จะช่วยกันเก็บเศษกระดาษไปกองทิ้งไว้ที่ข้างศาลา พอเล่นกันจนเหนื่อยต่างก็กลับบ้านกันไป จนเจ้าหน้าที่มาพบดังกล่าว
หลังเกิดเหตุก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 สถานี 11 อำเภอภายในจังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดชุดสายตรวจป้องกันและรักษาความสงบเรียนร้อยในพื้นที่ และหน่วยออกเสียงประชามติในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันความเสียหายอย่างเข้มงวด
 
ทางคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย แต่ผู้กระทำความผิดยังเป็นเด็กที่ก่อเหตุโดยไม่มีความเจตนา และอายุยังไม่ถึง 10 ขวบตามที่กฎหมายกำหนด แม้จะมีความผิด แต่เด็กก็ไม่ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด โดยทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานบุคคลทั้งผู้ใหญ่ และเด็ก พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบผลของคดีนี้ต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น