เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การที่สถานเอกอัครราชฑูต 4 ประเทศออกแถลงการณ์เตือนประชาชนของตัวเองต่อสถานการณ์วันที่ 7 สิงหาคมนั้นสะท้อนว่า นานาชาติติดตามความเป็นไปในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และประเมินได้ว่าผลการลงประชามติอาจไม่เป็นอย่างที่ผู้มีอำนาจต้องการ จึงแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยืนยันว่าจากที่ได้มีโอกาสนทนาแลกเปลี่ยนกับฝ่ายไม่รับร่างบางส่วนนั้น ยังไม่ปรากฏว่ามีกลุ่มไหนเตรียมการเคลื่อนไหวมวลชน แม้ผลประชามติจะไม่ผ่านก็คงเป็นเรื่องการแสดงความเห็นเพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่าฝ่ายรับร่างก็คงมีข้อเสนอเช่นกัน แตสิ่งที่น่าห่วงจริงๆ คือ ความโปร่งใสในขั้นตอนการลงคะแนน นับคะแนน และประกาศผล เพราะได้ยินมานานแล้วว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผลตามต้องการ
“วันที่ 7 สิงหาคมได้ประสานงานกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ ให้ทำหน้าที่สายสืบประชามติ คอยสังเกตุการณ์ทุกขั้นตอนให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส หากพบเห็นความไม่ชอบมาพากลให้บันทึกหลักฐานและส่งมาที่ส่วนกลางทันที โดยจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดี ประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงจะมีการโกงเกิดขึ้นไม่ได้ และถ้าเกิดการโกงโดยมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้อง รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้” ณัฐวุฒิ กล่าว
ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับไปยังสายสืบประชามติทุกคนให้ปฏิบัติการภายใต้กรอบกฎหมาย และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าพบเห็นการโกงก็ไม่ต้องกลัวใคร เพราะถ้าปล่อยไปจะเกิดความเสียหายร้ายแรงกับบ้านเมือง และตั้งแต่เวลา 16.00 น.พีซทีวีจะจัดรายการพิเศษออกอากาศทางอินเตอร์เน็ต รายงานผลการนับคะแนนทั่วประเทศ รวมทั้งบรรยากาศต่างๆ จากผู้สื่อข่าวภาคประชาชน เราจะทำทุกวิถีทางให้การลงประชามติคราวนี้เป็นไปด้วยความสุจริตโปร่งใส
ขณะที่วันนี้ (5 ส.ค.59) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า ไปสืบได้เลย เพราะเรื่องนี้เราทำชัดเจน ไม่มีปัญหา ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย คสช. และเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมดำเนินการด้วย เพราะฉะนั้นไว้ใจได้ว่าไม่มีทุจริต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น