วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ประยุทธ์ยัน 'เปรม' ไม่เกี่ยวโผทหาร ประวิตรปัดเปิดอัตราจอมพลรับบิ๊กทหารพลาดเก้าอี้ผู้นำเหล่าทัพ

ภาพ 3 ป. พล.อ.ประยุทธ์นำคณะรัฐมนตรีเข้าอวยพร พล.อ.เปรม เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ณ บ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา (ที่มาภาพ เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล)

พล.อ.ประยุทธ์ยัน 'พล.อ.เปรม' ไม่เกี่ยวโผแต่งตั้ง "บิ๊กทหาร" ในกองทัพ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ปัดเปิดอัตราจอมพลรับบิ๊กทหารพลาดเก้าอี้ผู้นำเหล่าทัพ 
31 ส.ค. 2559 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงกลาโหมได้เสนอขอเปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า ไม่มีอะไร เป็นของเก่า ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะของเดิมมีอยู่แล้ว พอเกษียณอายุราชการพร้อมกับตำแหน่ง  ก็ต้องแต่งตั้งคนใหม่ เพียงแต่ว่าถ้าจะแต่งตั้งตำแหน่งดังกล่าวต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่ง
ต่อกรณีคำถามมีข่าวว่าตำแหน่งนี้ที่แต่งตั้งขึ้นมาก็เพื่อให้ไปผูกมัดกับใครคนใดคนหนึ่ง เวลาเกษียณก็หมดไป พล.อ.ประวิตร  กล่าวว่า ก็ถูกแล้ว พอเกษียณอายุ ก็หมดไป เราขอเปิดมา 1 ตำแหน่งให้กับคนคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งพล.อ. พล.อ.อ. และพล.ร.อ. เมื่ออายุราชการหมดไปก็ต้องแต่งตั้งใหม่
ต่อข้อถามที่ว่า ใช่บุคคลที่ก่อนหน้านี้เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพแล้วพลาดหวังใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่  ไม่มี อย่าไปคิดมาก คิดมาก็ผิดทั้งหมด
 

ประยุทธ์ยัน 'เปรม' ไม่เกี่ยวโผทหาร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหมในอัตราจอมพล เพื่อรองรับบุคคลมาดำรงตำแหน่งในอัตราดังกล่าว โดยถูกมองว่าเพื่อให้พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ) เป็นตำแหน่งปลอบใจ หลังพลาดผู้บัญชาการทหารบก ว่า ตำแหน่งประธานที่ปรึกษา ซึ่งมันไม่มี แต่เดิมเคยมี แต่ถูกปรับลดไป ซึ่งความจริงไม่ควรถูกปรับลด แต่ด้วยวิธีต่างๆ ที่ผ่านมา ในทุกๆ ปี เราจะต้องให้คนที่เขาทำงาน อย่าไปคิดว่าเป็นการตอบแทนให้คิดว่าเขาทำงานมาทั้งชีวิต แล้วประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่ตำแหน่งมีจำกัด แต่ขอให้คิดว่าเขาทำงานเพื่อประเทศชาติ ก็ต้องให้เขามีความสุขในบันปลายชีวิต รวมถึงครอบครัวได้ภูมิใจ ทำไมสื่อไม่คิดแบบนั้น

"ขอถามว่า ถ้าคนห่วยๆ จะเป็นได้หรือเปล่า ก็เป็นไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้มากมายอะไร ส่วนข้างบนเขาก็ทำงานจริงๆ ข้างล่างลงมาก็มีตำแหน่งจำกัด ส่วนที่เกินมาก็ตั้งคนมาช่วยเป็นคณะทำงาน เพราะกองบกมีถึง 6 สาย ไม่ว่าจะกำลังพล การข่าว ยุทธการ การศึกษา กำลังบำรุง เขามีกลุ่มงานของเขา มีคณะกรรมการต่างๆ คนเหล่านี้จะมาช่วยกันทำงานทั้งหมด ไม่ใช่แค่ผู้บัญชาการทหารบกอย่างเดียว ต้องมีการมอบนโยบายลงไปให้ 5 เสือไปพิจารณาทั้งหมด รวมถึงให้คณะทำงานไปทำงานในแต่ละสายงาน ถึงจะสรุปข้อมูลทั้งหมดมาให้ผบ.ทบ. โดยผ่านกระบวนการของ 5 เสือ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุกองทัพมีการทำงานแบบนี้ทุกเหล่าทัพ ยืนยันว่าการแต่งตั้งทั้งหมด มีการประชุมกัน ซึ่งตนจะแต่งใครก็ต้องมีการประชุม 5 เสือ จากนั้นก็เสนอให้ที่ประชุมกลาโหม หากจะตั้งนายทหารพันเอกพิเศษ ผบ.ทบ.เป็นคนตัดสินใจ แต่ตนต้องประชุม 5 เสืออีก โดยเอาคำสั่งการปรับย้าย ที่ทุกกองทัพและหน่วยงานเสนอเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมว่า คนในตำแหน่งดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ เพราะเราก็รู้ดีว่าใครดี ไม่ดีอย่างไร แต่ถ้าเขาโอเคอยู่แล้ว ก็ไม่แตะต้อง แทบจะส่วนน้อยมากที่ไปยุ่ง ส่วนการปรับย้ายครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีการบีบบังคับใครทั้งสิ้น ยืนยันว่าก่อนจะมีการออกคำสั่งได้มีการประชุมเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนวิเคราะห์กันมาว่าจะอยู่ข้างใคร รวมถึงการไปเข้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มันเป็นคนละเรื่องกัน จะเอามาโยงกันได้อย่างไร ตนก็ตั้งของผมเอง กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รวมกับการพิจารณาของผบ.เหล่าทัพเท่านั้น ทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้ว ไม่มีใครเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

"ผมขอยืนยัน ผมบอกแล้วไง ไม่มีใครมาสั่งผม เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และผมเป็นผู้นำเสนอและพิจารณา ขั้นสุดท้ายก่อนจะลงนามกราบบังคมทูล เราทำงานกันแบบนี้ อย่าไปคิดว่าจะต้องตั้งคนโน้น คนนี้ ข้างของคนนู้น คนนี้ มันต้องคนเดียว ยิ่งทำอะไรไม่ได้ เพราะจะเกิดความไม่เป็นธรรมในกองทัพสุดท้ายแตกแยก แต่ทหารไม่มีเรื่องเหล่านี้ ไม่มีแน่นอน คนส่วนใหญ่เขายอมรับ ส่วนคนผิดหวังก็เป็นคนส่วนน้อย เป็นคนธรรมดาเขาทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองไม่ทำให้เขายอมรับ การทำงานต้องไต่เต้ามาตั้งแต่เล็กจนโต และระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาด พอถึงเเวลาที่เหมาะสมก็เอาเรื่องเหล่านี้มาพิจารณา ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้านพิจารณาหมด ไม่ใช่จะพิจารณาส่งเดช รักผม หรือไม่รักผม มันไม่ใช่ เพราะถึงไม่รักผม ผมก็รักเขา นึกถึงเขาสิ เพราะฉะนั้นอย่าเอา พล.อ.เปรม มาเกี่ยว ต้องให้เกียรติท่าน  อย่าเอาท่านมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เพราะท่านเป็นที่เคารพนับถือของกองทัพ และท่านเองก็บอกว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น แต่สื่อก็เขียนอยู่ได้ เอาท่านมาเกี่ยวทำไม เอามาเกี่ยวให้ทะเลาะเบาะแว้ง ผมยืนยันว่าผู้ใหญ่ทุกคนไม่มีอะไรซึ่งกันและกัน ฉะนั้นอย่าไปเขียนให้ปัญหามันมากขึ้น เพราะปัญหามันเยอะอยู่แล้ว ขอให้ผมได้ทำงานแก้ปัญหา เดินตามอนาคต วันนี้ถามว่าผมทำเพื่อพวกพ้องหรือ” พล.องประยุทธ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น