12 ก.ย. 2559 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปอ.สปท.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตั้ง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช น้องชาย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่มาดูงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า คงไม่เป็นอะไร เรื่องการทำงานต่างๆ พล.ท.ปิยวัฒน์ก็ทราบดี เพราะเคยทำงานด้านการข่าวมาก่อน และทาง พล.อ.ธีรชัยรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร การแต่งตั้งครั้งนี้ได้พิจารณาแล้วโดยการเรียก พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพภาคที่ 4 มาช่วยกันดู ซึ่งไม่ใช่ พล.อ.ธีรชัย พิจารณาเพียงคนเดียว หรือตนเป็นคนเลือก มันไม่ใช่ แต่เป็นการพิจารณาตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นเชื่อว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ทำงานได้ ถ้าทำงานไม่ได้ก็คงไม่ตั้งขึ้นมา ไม่ต้องเป็นห่วง
"ท่าน ผบ.ทบ. ท่านก็รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ท่านต้องดูอยู่แล้วนะครับ ท่านก็พิจารณาว่าทั้งหมด" พล.อ.ประวิตร กล่าว
"ไม่ใช่ท่าน ผบ.ทบ. จะมาเลือกเอง ว่าผมจะเลือกเอง ไม่ใช่ เขาพิจารณามาตามขั้นตอน เพราะฉะนั้นต้องทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็คงไม่ได้ตั้งแล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับ เขาทำได้อยู่แล้วครับ" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ต่อกรณีความคืบหน้าการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างภายหลังจากที่รัฐบาลพบกับ นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าทางประเทศมาเลเซียให้ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกให้อยู่แล้ว ทางคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของไทยได้ขอให้มาเลเซียช่วยประสานกลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อทำให้เกิดความสงบในพื้นที่จังหวัดชายภาคใต้ก่อนถึงจะเดินหน้าพูดคุย พร้อมกับกำหนดขอบเขตและรายละเอียดทีโออาร์ร่วมกันต่อไปในอนาคต หากยังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงแบบนี้จะก็คุยไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม ทางไทยไม่ได้กำหนดกรอบเวลาว่าจะให้เกิดความสงบเมื่อใด แต่จะพิจารณาเป็นเหตุการณ์ไป ส่วนทางมาเลเซียจะไปติดต่อกลุ่มผู้เห็นต่างอย่างไรนั้นตนก็ไม่ทราบ
พล.อ.ประวิตรกล่าวกรณี ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ยกเลิกการพูดคุยกับกลุ่มมาราปาตานี เพราะยังเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นบ่อยว่า จะให้ไปพูดคุยกับใครขอให้บอกมา ซึ่งกลุ่มมาราปาตานีก็บอกว่ามาจากกลุ่มบีอาร์เอ็นทั้งนั้น และเขาก็รับข้อเสนอของเราไปทุกอย่าง ดังนั้น จะมาเปลี่ยนคงไม่ได้ ทางประเทศมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกรู้ว่าอะไรควรและไม่ควร ตนอยากให้ ไกรศักดิ์ไปทำเรื่องวิจัยมาให้ดีก่อนที่จะออกมาพูด เนื่องจากเรื่องนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากกองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาหมดแล้ว เราไม่ได้ทำคนเดียว
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) และรัฐบาลส่วนหน้าว่าคปต.มีหน้าที่สนับสนุนงานทั้งหมด แต่รัฐบาลส่วนหน้ามีหน้าที่ดูแลภาพรวมของภาคใต้ทั้งหมดเพื่อรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะ ผอ.รมน.โดยตรง ซึ่งมี ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.รมน.ดำเนินการอยู่แล้ว โดยให้มีผู้แทนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาอยู่ในรัฐบาลส่วนหน้าจะได้รายงานการดำเนินการถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์ให้ครม.รับทราบได้ในทันทีด้วย พร้อมทั้งจะทำให้ลดขั้นตอนต่างๆ ลงไปมาก และการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีก็จะทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการทำงานของรัฐบาลส่วนหน้าจะไม่ซ้ำซ้อนกับ คปต. เพราะคปต.ทำหน้าที่สนับสนุนด้านงบประมาณและการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ รวมถึงต้องประสานงานและพูดคุยกับรัฐบาลส่วนหน้าและ ครม.ด้วยเช่นกัน รัฐบาลส่วนหน้าเป็นตัวแทน ครม.ชุดเล็กๆ ลงไปประสานงาน ซึ่งไม่ได้เป็นทางการ ทั้งนี้ การจัดตั้งรัฐบาลส่วนหน้าจะมีความชัดเจนในเดือนตุลาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคาดหวังในการทำหน้าที่ของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ซึ่งเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังอะไร และเชื่อว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ทำงานได้อยู่แล้ว เพราะมีการพิจารณาตามลำดับขั้นตอน และ ผบ.ทบ.คนใหม่ก็เติบโตมาตามขั้นตอนตั้งแต่เป็นผู้หมวด ซึ่งคงรู้ว่าควรจะทำอย่างไร เห็นมาหมดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง อีกทั้งตนเห็นว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น