สื่อฝรั่งเศส ระบุุไทยต้้องการสงครามเพื่่่่อเรีียกคะแนนนิิยม
สื่อฝรั่งเศสรายงานเวียดนามส่งรถถังข้ามชายแดนเข้ากัมพูชา
มุ่งหน้าสู่พื้นที่พิพาทกับไทย พร้อมกล่าวหาไทยอยากเปิดสงคราม
(18ก.พ.)เว็บไซต์ เค-ไอ มีเดีย รายงานอ้างข้อความที่แปลจากภาษาฝรั่งเศสในหนังสือพิมพ์ เลอ กรองด์วิลยาจว่า รถถังหลายลำของเวียดนาม ได้แล่นข้ามเข้าไปในดินแดนประเทศกัมพูชา เพื่อมุงหน้าสู่พื้นที่บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย และในขณะที่สหประชาชาติ กำลังผลักดันให้มีการเจรจาภายใต้กรอบการทำงานขอสมาคมอาเซียนนั้น ก็ดูเหมือนจะมีฝ่ายสนับสนุนที่พร้อมรบเช่นกัน
เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งสำหรับผู้เห็นเหตุการณ์ ที่รถถังเวียดนามหลายคันแล่นเข้าไปในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน ก็มีคนเคยเห็นรถถังเวียดนามแล่นเข้าไปปลดปล่อยกัมพูชาจากการปกครองของเขมรแดงมาแล้ว แต่ในยุคนั้น เวียดนามเข้ายึดพื้นที่และปล้นเอาความมั่งคั่งไปจากกัมพูชา ที่สร้างความเจ็บปวดให้อย่างแสนสาหัส
ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกด้วยว่า เขาเกือบตายเพราะความกลัว ตอนที่เห็นรถถังของเวียดนามแล่นเข้ามาในเส้นทางเดียวกันกับเมื่อ 20 ปีก่อน ด้วยข้ออ้างที่ว่าไปช่วยกัมพูชา และครั้งนี้ก็เช่นกัน รถถังเหล่านี้ ถูกส่งเข้ามาด้วยเจตนาที่จะข่มขวัญประเทศไทย และถ่วงดุลย์การเจรจา แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เวียดนามก็เหมือนกับจีน ที่จะต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการช่วยเหลือ
นอกจากความพยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในอาเซียน ในช่วงที่ไทยสูญเสียความน่าเชื่อถือแล้ว เวียดนามกับจีน ยังมีเป้าหมายสำคัญในการตักตวงผลประโยชน์จากกัมพูชา ซึ่งก็คือ น้ำมันที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามยังเสนอจะช่วยเหลือในการจัดหาน้ำมันให้กับกัมพูชา ในช่วงที่กำลังรอการขุดเจาะน้ำมันของตัวเองขึ้นมาใช้ อันเป็นการแลกเปลี่ยนกับสิทธิในการสำรวจแหล่งทรัพยากรน้ำมันของกัมพูชาในอนาคต
ความรุนแรงที่ขยายขึ้น และการเตรียมพร้อมในการทำสงคราม ได้สร้างความวิตกให้กับกลุ่ม NGO ในกัมพูชา และยังได้เตือนไปยังชาติอื่น ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดความยุ่งยากซับซ้อนในภูมิภาคที่มีขนาดเล็กแต่มีความ สำคัญอย่างแท้จริง
เลอ กรองด์ วิลยาจ ระบุด้วยว่า
ชาติบรรดามหาอำนาจทั้งในระดับภูมิภาค และนานาชาติ จะไม่มีวันยอมให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องวุ่นวายจากการสู้รบกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในประเด็นอ่อนไหวนั้น ภูมิภาคแห่งนี้ เป็นแหล่งผลประโยชน์อันมหาศาล และดึงดูดสหรัฐ จีนและอินเดีย
ไม่มีมหาอำนาจชาติไหนอยากเห็นสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือแม้แต่สมาชิกในอาเซียนเองก็ไม่อยากเห็นเช่นกัน มีเพียงไทยเท่านั้น ที่ต้องการสงครามเพื่อเรียกคะแนนนิยมที่สูญหายไปในช่วงวิกฤติการประท้วงของคนเสื้อแดง
เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า ไม่อาจยืนยันรายงานของเลอ กรองด์ วิลยาจ ได้ แต่ก็ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรถหุ้มเกราะของเวียดนาม ที่ผลิตในยุคโซเวียต ถูกส่งข้ามชายแดนเข้าไปยังกัมพูชา ที่บริเวณจังหวัดกัมปง ธม ที่เป็นเส้นทางไปยังพระวิหาร
เครดิิต
http://www.komchadluek.net
สื่อฝรั่งเศสรายงานเวียดนามส่งรถถังข้ามชายแดนเข้ากัมพูชา
มุ่งหน้าสู่พื้นที่พิพาทกับไทย พร้อมกล่าวหาไทยอยากเปิดสงคราม
(18ก.พ.)เว็บไซต์ เค-ไอ มีเดีย รายงานอ้างข้อความที่แปลจากภาษาฝรั่งเศสในหนังสือพิมพ์ เลอ กรองด์วิลยาจว่า รถถังหลายลำของเวียดนาม ได้แล่นข้ามเข้าไปในดินแดนประเทศกัมพูชา เพื่อมุงหน้าสู่พื้นที่บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย และในขณะที่สหประชาชาติ กำลังผลักดันให้มีการเจรจาภายใต้กรอบการทำงานขอสมาคมอาเซียนนั้น ก็ดูเหมือนจะมีฝ่ายสนับสนุนที่พร้อมรบเช่นกัน
เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า เป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งสำหรับผู้เห็นเหตุการณ์ ที่รถถังเวียดนามหลายคันแล่นเข้าไปในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน ก็มีคนเคยเห็นรถถังเวียดนามแล่นเข้าไปปลดปล่อยกัมพูชาจากการปกครองของเขมรแดงมาแล้ว แต่ในยุคนั้น เวียดนามเข้ายึดพื้นที่และปล้นเอาความมั่งคั่งไปจากกัมพูชา ที่สร้างความเจ็บปวดให้อย่างแสนสาหัส
ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกด้วยว่า เขาเกือบตายเพราะความกลัว ตอนที่เห็นรถถังของเวียดนามแล่นเข้ามาในเส้นทางเดียวกันกับเมื่อ 20 ปีก่อน ด้วยข้ออ้างที่ว่าไปช่วยกัมพูชา และครั้งนี้ก็เช่นกัน รถถังเหล่านี้ ถูกส่งเข้ามาด้วยเจตนาที่จะข่มขวัญประเทศไทย และถ่วงดุลย์การเจรจา แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า เวียดนามก็เหมือนกับจีน ที่จะต้องได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการช่วยเหลือ
นอกจากความพยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในอาเซียน ในช่วงที่ไทยสูญเสียความน่าเชื่อถือแล้ว เวียดนามกับจีน ยังมีเป้าหมายสำคัญในการตักตวงผลประโยชน์จากกัมพูชา ซึ่งก็คือ น้ำมันที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งไปกว่านั้น เวียดนามยังเสนอจะช่วยเหลือในการจัดหาน้ำมันให้กับกัมพูชา ในช่วงที่กำลังรอการขุดเจาะน้ำมันของตัวเองขึ้นมาใช้ อันเป็นการแลกเปลี่ยนกับสิทธิในการสำรวจแหล่งทรัพยากรน้ำมันของกัมพูชาในอนาคต
ความรุนแรงที่ขยายขึ้น และการเตรียมพร้อมในการทำสงคราม ได้สร้างความวิตกให้กับกลุ่ม NGO ในกัมพูชา และยังได้เตือนไปยังชาติอื่น ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดความยุ่งยากซับซ้อนในภูมิภาคที่มีขนาดเล็กแต่มีความ สำคัญอย่างแท้จริง
เลอ กรองด์ วิลยาจ ระบุด้วยว่า
ชาติบรรดามหาอำนาจทั้งในระดับภูมิภาค และนานาชาติ จะไม่มีวันยอมให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องวุ่นวายจากการสู้รบกันอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ในประเด็นอ่อนไหวนั้น ภูมิภาคแห่งนี้ เป็นแหล่งผลประโยชน์อันมหาศาล และดึงดูดสหรัฐ จีนและอินเดีย
ไม่มีมหาอำนาจชาติไหนอยากเห็นสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือแม้แต่สมาชิกในอาเซียนเองก็ไม่อยากเห็นเช่นกัน มีเพียงไทยเท่านั้น ที่ต้องการสงครามเพื่อเรียกคะแนนนิยมที่สูญหายไปในช่วงวิกฤติการประท้วงของคนเสื้อแดง
เค-ไอ มีเดีย ระบุว่า ไม่อาจยืนยันรายงานของเลอ กรองด์ วิลยาจ ได้ แต่ก็ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรถหุ้มเกราะของเวียดนาม ที่ผลิตในยุคโซเวียต ถูกส่งข้ามชายแดนเข้าไปยังกัมพูชา ที่บริเวณจังหวัดกัมปง ธม ที่เป็นเส้นทางไปยังพระวิหาร
เครดิิต
http://www.komchadluek.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น