แฉใบเกิด“มาร์ค”เรียกน้ำย่อยก่อนศึกซักฟอก
http://www.internetfreedom.us/thread-13918.html
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. จะเริ่มชุมนุมในเวลา 13.00 น. ที่บริเวณแยกราชประสงค์โดยทำกิจกรรมประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนเคลื่อนไปที่ศาลฎีกาเพื่ออ่านจดหมายปรับทุกข์ของบรรดาแกนนำที่ถูกคุมขัง ในเรือนจำ จากนั้นจะเคลื่อนขบวนมาตั้งเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะเลิกการชุมชุมนุมในเวลาเที่ยงคืนเศษไม่เกินตีหนึ่ง ทั้งนี้พี่น้องคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมมากกว่าวันที่ 13 ก.พ.นี้อีกเท่าตัว โดยจะไม่มีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามายังที่ชุมนุม สำหรับเนื้อหาในการอภิปรายจะนำหลักฐานการแจ้งเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯที่แจ้งไว้ที่เมืองนิวคลาสเซิล ประเทศอังกฤษ รวมถึงการถือสัญชาติของนายอภิสิทธิ์มาแสดงให้เห็นชัดเจน ก่อนที่จะหยิบยกไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป
*-*******
จตุพรลั่นแฉสัญชาติมาร์ค 19 ก.พ.
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางเข้าพบนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำนปช. เพื่อหารือถึงเส้นทางการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่นัดชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. ที่สี่แยกราชประสงค์ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
จากนั้นพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจากผบช.น.ให้มาประสานงานเรื่องการชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งแต่เดิมนปช.ได้นัดหมายที่ราชประสงค์ แต่ด้วยที่สี่แยกราชประสงค์จะมีกิจกรรมที่มีบุคคลระดับวีไอพีเข้าร่วม จึงได้ประสานงานกับนปช.
จนได้ข้อยุติว่า นปช.จะจัดกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ในช่วงบ่าย แล้วจะเดินทางไปที่ศาลฎีกา แล้วมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยจำนวน 10 กองร้อย แบ่งเป็นที่แยกราชประสงค์ 2 กองร้อย ศาลฎีกา 2 กองร้อย และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 6 กองร้อย
สำหรับเส้นการการเดินของนปช.นั้นจะใช้เส้นทางถนนเพชรบุรี เข้าถนนหลานหลวง ถนนราชดำเนิน ไปยังศาลฎีกาสนามหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลไม่ให้กลุ่มนปช.เข้าไปใกล้กับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และพันธมิตรฯที่ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ ขอให้แกนนำนปช.ดูแลกลุ่ม ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะเรื่องของการหมิ่นสถาบัน และหากเจ้าหน้าที่พบเห็นก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. นปช.จะนัดกันที่สี่แยกราชประสงค์ เวลา 13.00 น. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็จะเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกาเพื่ออ่านจดหมายปรับทุกข์จากพี่น้องในเรือนจำ จากนั้นก็จะเดินย้อนกลับมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อปราศรัยและจะเลิกชุมนุมในเวลา 24.00 น.
ทั้งนี้ คาดว่าคนจะมาเยอะมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพราะได้รับข่าวจากพี่น้องคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดว่าจะเดินทางเข้ามาร่วมด้วย
โดยในการปราศรัยตนจะเปิดเผยเอกสารใบเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เกิดที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ จากนั้นจะทยอยเปิดเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ต่อไป
นายจตุพร กล่าวว่า และในวันที่ 21 ก.พ. ที่เป็นวันที่ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงคาดว่าจะมีพี่น้องคนเสื้อแดงไปให้กำลังใจกันมาก
และตามข่าวที่ระบุว่าอาจจะให้ประกันนายก่อแก้ว พิกุลทอง และน.พ.เหวง โตจิราการ เพียง 2 คน ตนขอย้ำว่าหากให้ประกันแค่ 2 คน ไม่ต้องให้ประกันดีกว่า เพราะจะเอาอะไรมาวัดว่าใครเป็นฮาร์ดคอร์ ใครเป็นซอฟท์คอร์ ทุกคนถูกข้อหาเดียวกัน ก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน และหากเป็นอย่างนี้ก็ขอให้เอาตนเข้าไปขังคุกด้วย ซึ่งวิธีการไม่ยากอะไร แค่ทำเรื่องถึงประธานสภา ตนจะไม่ขอใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองใดๆ ซึ่งขอให้ศาลพิจารณาให้ความเป็นธรรมเพียงเศษเสี้ยวให้กับคนเสื้อแดงด้วย
เพราะอย่างกรณีพันธมิตรฯไม่มีใครสักคนที่ถูกขัง แต่ได้รับประกันตัวหมดทุกคน ดังนั้นหากศาลไม่ให้ความยุติธรรมกับประชาชน ก็จะกลายเป็นตัวปัญหาให้กับสังคมไทยเสียเอง
เครดิต
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline...sectionid=
http://www.internetfreedom.us/thread-13918.html
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. จะเริ่มชุมนุมในเวลา 13.00 น. ที่บริเวณแยกราชประสงค์โดยทำกิจกรรมประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก่อนเคลื่อนไปที่ศาลฎีกาเพื่ออ่านจดหมายปรับทุกข์ของบรรดาแกนนำที่ถูกคุมขัง ในเรือนจำ จากนั้นจะเคลื่อนขบวนมาตั้งเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะเลิกการชุมชุมนุมในเวลาเที่ยงคืนเศษไม่เกินตีหนึ่ง ทั้งนี้พี่น้องคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมมากกว่าวันที่ 13 ก.พ.นี้อีกเท่าตัว โดยจะไม่มีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามายังที่ชุมนุม สำหรับเนื้อหาในการอภิปรายจะนำหลักฐานการแจ้งเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯที่แจ้งไว้ที่เมืองนิวคลาสเซิล ประเทศอังกฤษ รวมถึงการถือสัญชาติของนายอภิสิทธิ์มาแสดงให้เห็นชัดเจน ก่อนที่จะหยิบยกไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป
*-*******
จตุพรลั่นแฉสัญชาติมาร์ค 19 ก.พ.
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางเข้าพบนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน และแกนนำนปช. เพื่อหารือถึงเส้นทางการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่นัดชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. ที่สี่แยกราชประสงค์ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที
จากนั้นพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ตนได้รับคำสั่งจากผบช.น.ให้มาประสานงานเรื่องการชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งแต่เดิมนปช.ได้นัดหมายที่ราชประสงค์ แต่ด้วยที่สี่แยกราชประสงค์จะมีกิจกรรมที่มีบุคคลระดับวีไอพีเข้าร่วม จึงได้ประสานงานกับนปช.
จนได้ข้อยุติว่า นปช.จะจัดกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ในช่วงบ่าย แล้วจะเดินทางไปที่ศาลฎีกา แล้วมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยจำนวน 10 กองร้อย แบ่งเป็นที่แยกราชประสงค์ 2 กองร้อย ศาลฎีกา 2 กองร้อย และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 6 กองร้อย
สำหรับเส้นการการเดินของนปช.นั้นจะใช้เส้นทางถนนเพชรบุรี เข้าถนนหลานหลวง ถนนราชดำเนิน ไปยังศาลฎีกาสนามหลวง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลไม่ให้กลุ่มนปช.เข้าไปใกล้กับกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ และพันธมิตรฯที่ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล
นอกจากนี้ ขอให้แกนนำนปช.ดูแลกลุ่ม ผู้ชุมนุมโดยเฉพาะเรื่องของการหมิ่นสถาบัน และหากเจ้าหน้าที่พบเห็นก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมในวันที่ 19 ก.พ. นปช.จะนัดกันที่สี่แยกราชประสงค์ เวลา 13.00 น. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ก็จะเคลื่อนขบวนไปยังศาลฎีกาเพื่ออ่านจดหมายปรับทุกข์จากพี่น้องในเรือนจำ จากนั้นก็จะเดินย้อนกลับมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อปราศรัยและจะเลิกชุมนุมในเวลา 24.00 น.
ทั้งนี้ คาดว่าคนจะมาเยอะมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพราะได้รับข่าวจากพี่น้องคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดว่าจะเดินทางเข้ามาร่วมด้วย
โดยในการปราศรัยตนจะเปิดเผยเอกสารใบเกิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เกิดที่เมืองนิวคาสเซิ่ล ประเทศอังกฤษ จากนั้นจะทยอยเปิดเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเดินทาง หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ต่อไป
นายจตุพร กล่าวว่า และในวันที่ 21 ก.พ. ที่เป็นวันที่ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงคาดว่าจะมีพี่น้องคนเสื้อแดงไปให้กำลังใจกันมาก
และตามข่าวที่ระบุว่าอาจจะให้ประกันนายก่อแก้ว พิกุลทอง และน.พ.เหวง โตจิราการ เพียง 2 คน ตนขอย้ำว่าหากให้ประกันแค่ 2 คน ไม่ต้องให้ประกันดีกว่า เพราะจะเอาอะไรมาวัดว่าใครเป็นฮาร์ดคอร์ ใครเป็นซอฟท์คอร์ ทุกคนถูกข้อหาเดียวกัน ก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน และหากเป็นอย่างนี้ก็ขอให้เอาตนเข้าไปขังคุกด้วย ซึ่งวิธีการไม่ยากอะไร แค่ทำเรื่องถึงประธานสภา ตนจะไม่ขอใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองใดๆ ซึ่งขอให้ศาลพิจารณาให้ความเป็นธรรมเพียงเศษเสี้ยวให้กับคนเสื้อแดงด้วย
เพราะอย่างกรณีพันธมิตรฯไม่มีใครสักคนที่ถูกขัง แต่ได้รับประกันตัวหมดทุกคน ดังนั้นหากศาลไม่ให้ความยุติธรรมกับประชาชน ก็จะกลายเป็นตัวปัญหาให้กับสังคมไทยเสียเอง
เครดิต
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline...sectionid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น