วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เปิดคลิปหน้าวัดปทุมฯ 19พ.ค. ของจริง!เขียน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM05UTXpPREF3TlE9PQ==&sectionid=b3VqU3g3VG94N2s9&day=TWpBeE1DMHdOaTB3TVE9PQ==
เห็นเพลิงไหม้ใกล้"พารากอน"-ทหารเล็งปืนเข้าวัด

ข่าวสด : คลิปวิดีโอบางช่วงจากเหตุการณ์ทหารยืนบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมเล็งปืนเข้าไปยังวัดปทุมวนาราม โดยช่วงหนึ่งของคลิปมองเห็นเหตุเพลิงไหม้และกลุ่มควันพวยพุ่งจากฝั่งขวามือของห้างสยามพารากอน เป็นหลักฐานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค. 2553 หลังทหารเข้าสลายผู้ชุมนุมเวทีราชประสงค์จริง


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบคลิปทหารบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสและเล็งปืนไปยังวัดปทุมวนารามช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค.ดังกล่าว พบว่า คลิปมีความยาวทั้งหมด 04.47 นาที ได้ยินเสียงยิงอาวุธปืนยิงบางครั้งคราว โดยช่วงต้นคลิปจะจับภาพทหารหลายนายยืนอยู่บนรางรถไฟฟ้า ตรงข้ามวัดปทุมวนาราม ติดกับห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ต่อมา นาทีที่ 01.10 กล้องหันไปจับภาพกลุ่มควันและเหตุเพลิงไหม้อย่างหนักบริเวณตัวสถานีรถไฟฟ้าเยื้องกับห้างฯ สยามพารากอน และมองเห็นไฟลุกไหม้จากฝั่งสยามสแควร์อีกด้วย และนาทีที่ 01.34 เมื่อกล้องหันมาทางขวา มองเห็นกลุ่มควันไฟขนาดใหญ่ลอยปกคลุมท้องฟ้า 

จากนั้นนาทีที่ 02.10 มีภาพทหารสองนายหันหน้ามองตรงไปยังพื้นที่ภายในวัดปทุมวนาราม และเล็งปืนเข้าใส่วัดปทุมวนารามในนาทีที่ 02.15 ส่วนช่วงท้ายของคลิปนั้นดึงภาพออกมาถ่ายแบบมุมกว้าง มองเห็นควันไฟลอยคลุ้งอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของผู้บันทึกภาพ 

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ช่วงนาทีแรกๆ ที่เห็นกลุ่มเพลิงไหม้อย่างหนักนั้นขอสงวนการเผยแพร่ภาพเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้บันทึกภาพ





สื่อนอกแพร่ภาพยิงสยอง ศพเกลื่อนรางน้ำ-ดินแดง

ยอดตาย 24 ศพ เจ็บ 187


 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ เอพี-สหรัฐ เอเอฟพี-ฝรั่งเศส และรอยเตอร์-อังกฤษ ต่างเผยแพร่ภาพผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่บริเวณซอยรางน้ำและย่านสามเหลี่ยมดินแดง รวมทั้งเหยื่อที่ถูกยิงที่ศีรษะโดยหน่วยแม่นปืน หรือสไนเปอร์ โดยเอเอฟพีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมเป็น 22 รายแล้ว และเมื่อรวมตั้งแต่เหตุปะทะครั้งแรก 10 เม.ย. มีผู้เสียชีวิตในการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมและรัฐบาลแล้วถึง 50 ราย

 ด้านสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สพฉ. แจ้งว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงที่เกิดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค. ที่บริเวณสวนลุมพินี สามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชปรารภ ซอยหมอเหล็ง และอีกหลายจุด ถึงเวลา 22.00 น. วันที่ 15 พ.ค. เพิ่มเป็น 24 ราย บาดเจ็บ 187 ราย ในจำนวนนี้ยังอยู่ห้องไอซียู 24 ราย เป็นชาวต่างชาติ 5 ราย ได้แก่ แคนาดา โปแลนด์ พม่า ไลบีเรีย และไม่ทราบสัญชาติ 1 ราย

 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ภายในซอยรางน้ำ มีเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นเหตุให้ พนักงานส่งน้ำอัดลมโค้กบาดเจ็บถูกยิงหน้าอกด้านขวา โดยจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้ปากซอยรางน้ำ ผู้เห็นเหตุการณ์จึงช่วยนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี ขณะเดียวกันภายในซอยลึกมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ใกล้แนวบังเกอร์ของทหารอีก 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่รถกู้ชีพไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ เนื่องจากเหตุการณ์ปะทะเพิ่งสงบ และยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้นำป้ายมาติดว่าบริเวณถนนราชปรารภเป็นเขตกระสุนจริง ห้ามประชาชนผ่าน ซึ่งถือเป็นการเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าหากเข้ามาบริเวณถนนราชปรารถทหารจะใช้กระสุนจริงยิงทันที

 เวลา 10.00 น. ที่แยกบ่อนไก่ บริเวณถนนพระราม 4 ตั้งแต่แยกบ่อนไก่จนถึงสนามมวยลุมพินี บรรยากาศเงียบสงัดไม่มีการเผชิญหน้ากัน เพราะไม่อนุญาตให้มีการสัญจรเข้าออก อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ชาวบ้านในย่านดังกล่าวเปิดเผยว่า มีชาวบ้าน 3-4 คนเดินอยู่บนฟุตปาธริมถนน ปรากฏว่าถูกบุคคลไม่ทราบฝ่ายยิงมาจากมุมสูง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ นำส่งร.พ.แล้ว กลุ่มชาวบ้านจึงต้องเฝ้าระวังและคอยสังเกตการณ์     

 บริเวณดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ได้นำรถเก็บขยะของกรุงเทพมหานครออกมาเผาทำลาย และเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะ  โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเกิดการปะทะกันบริเวณสนามมวยลุมพินี โดยมีการยิง M79 ใส่เจ้าหน้าที่ทหาร ด้านเจ้าหน้าที่ทหารได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อตอบโต้และข่มขวัญ

 ส่วนบริเวณถนนสาทรที่ตัดกับถนนพระราม 4 บริเวณใต้สะพานไทย-เบลเยียม ทหารได้ปิดถนน มีการขึงลวดหนาม และเฝ้าระวังเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างเข้มงวด

 ส่วนที่บริเวณศาลาแดง หน้าตึกอื้อจือเหลียง ถนนพระราม 4 ซึ่งเป็นจุดที่ประจันหน้ากันของเจ้าหน้าที่ทหาร กับกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมาก เมื่อเวลา 11.40 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่ทหารหน้าตึกอื้อจือเหลียง 2 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารยินปืนตอบโต้เสียวดังประปราย ซึ่งคาดว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันอย่างต่อเนื่องทั้งวันในวันนี้ ทำให้ล่าสุดทหารต้องเสริมกำลังเข้าไปไปยังบริเวณศาลาแดง หลังเกิดเหตุยิง เอ็ม 79

 เวลา 12.00 น. เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นและเสียงปืนยิงตอบโต้กันหลายครั้งระหว่างกลุ่มเจ้าหน้าที่และนปช. ต่อเนื่องจนถึงช่วงบ่ายยังมีเสียงดังคล้ายระเบิดต่อเนื่องเป็นระยะๆ กลุ่มควันไฟที่ผู้ชุมนุมจุดไฟเผายางรถยนต์กลิ้งไปตามถนน ตามจุดที่เชื่อว่ามีทหารประจำการอยู่ ทั่วบริเวณฝั่งขาเข้าและออกถนนพระราม 4 ยังคงลอยขึ้นเป็นระยะ ด้านบนมีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่รอบพื้นที่ กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดประทัด โคมไฟ ขึ้นไปรบกวนการบินของเฮลิคอปเตอร์ 

 เวลา 15.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณราชปรารภว่า กลุ่มผู้ชุมนุมขยับแนวเข้าไปหาทหารอีก 100 เมตร โดยใช้รถยนต์ประชาชน และรถน้ำ กทม. เคลื่อนนำหน้า จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็พากันหมอบคลานตามฟุตบาธ เสาไฟ และต้นไม้ ทหารใช้ปืนยิงล้อยางรถน้ำ กทม. ซึ่งมีรูกระสุนที่กระจกหน้าฝั่งข้างคนขับดัวย และยังมีเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง สลับกับเสียงปืน ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงถอยร่นออกมาจากแนวบังเกอร์ที่ตั้งไว้ โดยรถประชาชนที่ถูกบีบเข้ามาก็ถูกปืนยิงที่กระจกมองข้าง 1 คัน ต่อมากลุ่มรถประชาชนที่ถูกบีบเข้ามาก็รีบกลับรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง โดยมีรายงานว่า นายชัยวัฒน์ พุ่มพวง ช่างภาพสำนักข่าวเนชั่น ถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ กระดูกขาขวาแตก

  เวลา 16.10 น. นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียบันทึกภาพหน่วยซุ่มยิง อยู่บนดาดฟ้าอาคารชาญอิสระ ถ.พระราม 4 ตรงข้าม ร.พ.จุฬาลงกรณ์ โดยภาพดังกล่าวเป็นชาย 2 คนอยู่บนดาดฟ้าอาคารดังกล่าวยืนอยู่คู่กัน ลักษณะคล้ายคนหนึ่งกำลังซุ่มอยู่ส่วนอีกคนหนึ่งคล้ายกำลังใช้กล้องส่องทางไกลคอยตรวจดูพื้นที่รอบด้าน มามอบให้ผู้สื่อข่าว โดยนักท่องเที่ยวดังกล่าวระบุว่าภาพดังกล่าวถ่ายได้ขณะอยู่ที่บริเวณ ถ.ราชดำริ ด้านข้างร.พ.จุฬาฯ สังเกตเห็นบรรดาการ์ดชุดดำชี้ไปที่ยอดอาคารดังกล่าว เมื่อมองตามขึ้นไปพบชายทั้งคู่ดังกล่าว โดยคนหนึ่งได้ชูปืนขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน จึงรีบใช้กล้องวีดีโอที่ติดมาบันทึกภาพเก็บไว้ และนำมามอบให้ผู้สื่อข่าวดังกล่าว

 เวลา 17.00 น. บรรยากาศการชุมนุมบริเวณแยกบ่อนไก่เป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยมีระเบิด M79 ถูกมากว่า 20 ลูก พร้อมกับเสียงประทัดและปืนดังเป็นระยะๆ เบื้องต้นมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิต 1 ราย ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ขนยางรถยนต์หลายร้อยเส้นเพื่อนำมาเผาให้เกิดกลุ่มควันป้องกันการมองเห็นจากเจ้าหน้าที่ทหารขณะที่ประชาชนและผู้ชุมนุมยังคงปักหลักบริเวณริมถนน โดยอาศัยอาคารเป็นที่กำบัง

 เวลา 20.20 น.มีเสียงระเบิดเอ็ม 79 ถูกยิงมาตกลงที่สน.ลุมพินี นาน 5 นาที จำนวน 7-8 ลูกเสียงดังสนั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างหมอบกับพื้นเข้าหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น โดยไม่ทราบว่าวิถีกระสุนดังกล่าว ถูกยิงมาจากทิศทางด้านใด ลูกระเบิดเอ็ม 79 ได้ตกลงบริเวณรอบๆ พื้นที่ สน.ลุมพินี และตกลงที่ลานจอดรถด้านหลัง สน.ลุมพินี ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน เบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่กล้าออกไปตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย ทางผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพร้อมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเองในพื้นที่ สน.ลุมพินี โดยบรรยากาศด้านหน้า สน.ลุมพินี ถนนวิทยุถูกปิดไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน และบรรยากาศเงียบสงบโดยมีกำลังทหารปักหลักอยู่ภายในสวนลุมฯ 






























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น