เพื่อร่วมรำลึกวันจักรี: ย้อนประวัติศาสตร์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ด้วยสายตาของไพร่ http://thaienews.blogspot.com/2011/04/blog-post_9964.html 6 เมษายน 2554 เมื่อวานนี้ เป็นวันครบรอบ 229 ปี แห่งราชวงศ์จักรี เป็นวันสถาปนาปฐมบรมราชาแห่งราชวงศ์จักรี ตามที่เราท่านได้ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เกิดขึ้นหลังจากเจ้าพระยาจักรีทำรัฐประหารและประหารชีวิตพระเจ้ากรุงธนบุรี พระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมทั้งครอบครัว และขุนนางที่จงรักภักดีทั้งหลาย การโค่นราชวงศ์หนึ่งแล้วตั้งราชวงศ์ใหม่เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์การเมืองไทยในยุคสมัยสมบูรณาณาสิทธิราชย์ และราชวงศ์จักรีก็ไม่ได้มีประวัติแห่งการก่อกำเนิดที่แตกต่างจากราชวงศ์อื่นๆ เช่นกัน ดังนั้นในการร่วมรำลึกวันจักรี ในฐานะประชาชน เราควรร่วมรำลึกอย่างมีสติ ด้วยการพยายามเข้าใจวิถีคิดและจิตวิทยาการเมืองแห่งราชวงศ์จักรี เพื่อสืบสานและรักษาอำนาจให้คงอยู่คู่ฟ้า ราชวงศ์จักรีได้สืบทอดแนวคิดและจิตวิทยาการบริหารบ้านเมืองตามระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาจากราชอาญาจักรอยุธยา และราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอดีต และปฏิบัติตาม “โองการสวรรค์” ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน วิถีการรักษาอำนาจสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มักอิงแอบแนบชิดกับนายทหารเสนาบดี ควบคู่ไปกับส่งเสริมค่านิยมความเชื่อในเรื่อง “ความเป็นสมมุติเทพ” ที่ดำรงต่อเนื่องมาเนิ่ินนานหลายพันปีแห่งประวัติศาสตร์มหาราชา อันเป็นยุทธศาสตร์แห่งการดำรงอยู่และขยายราชอาญาจักร และเป็นยุทธศาสตร์เพื่อการสร้างความชอบธรรมและการยอมรับในหมู่ประชาชนว่า การเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ขึ้นเป็นผู้ปกครองแว้นแคว้นนั้นๆ นั้นเป็นโองการจากสวรรค์ ทั้งมหาจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ของจีน พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งมหาอาณาจักรขอมที่ยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่พระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษที่ฉีกสัญญาประชาคมที่ทำไว้กับขุนพลจากเมืองต่างๆ เมื่อกว่า 800 ปีที่ผ่านมา (แม้ว่าสุดท้ายก็ต้องยอมทำสัญญาแมคนาคาร์ตาในปลายรัชกาลก็ตาม) ต่างก็อ้างว่าพระองค์ได้รับการแต่งตั้งจากสวรรค์ นั่นมันเนิ่นนานมามากแล้ว หลายร้อยปีมาแล้ว สถาบันกษัตริย์ในหลายประเทศปลาสนาการไปในช่วง 229 ปี ภาพการประหารชีวิตพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ด้วยเครื่องกิโยติน 21 มกราคม 1793 (พ.ศ. 2336) พระราชวงศ์พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ทุกพระองค์ถูกสังหารโหดในวันที่ 17 กรกฎาคม 1918 (2461) ภาพการปฏิวัติรัสเซียพ.ศ. 2460 ในช่วงเวลาหลายร้อยปีนี้ ลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์ต่างก็ทยอยถูกโค่นล้มโดยประชาชนในทั่วทุกมุมโลก สำหรับกษัตริย์ที่ชาญฉลาดต่างก็รู้ว่าจำต้องปรับตัวลงมาอยู่ร่วมกับประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญ กษัตริย์ที่บ้าอำนาจที่ไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญต่างก็ถูกโค่น อย่างถอนรากถอนโคน และถูกประหารชีวิต (ชัดเจนที่สุดได้แก่ กรณีพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ของฝรั่งเศส พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย หรือร่วมสมัยในกรณีของพระเจ้าคยาเนนทราของเนปาล ที่ถูกโค่นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่รัฐบาลทักษิณถูกโค่นด้วยรัฐประหาร 2549 ของคณะปฏิรูปการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (หรือในอีกนัยยะหนึ่งก็คือรัฐประหาร โดยคณะรัฐประหารอ้างว่า เพื่อดึงอำนาจกลับไปสู่สถาบันพระมหากษัตริย์)) สมบูรณาญาธิราชย์แบบไทยไทย ถ้ามองย้อนคร่าวๆ ไปยังบันทึกการเมืองสมัยอยุธยา ธนบุรี รัตนโกสินทร์ พวกเราจะเห็นการฆ่าฟันแย่งชิงกันขึ้นสู่อำนาจตลอดเวลา เกือบทุกรัชสมัย เกิดมาพร้อมกับวรรณกรรมเพื่อการกล่อมเกลาสังคม อาทิ ลิลิตโองการแช่งน้ำ ที่ใช้ประกอบการทำพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเพื่อสาบานตนต่อพระมหากษัตริย์ ที่ใช้มาตั้งแต่องค์ปฐมกษัตริยแห่งราชอาณาจักรอยุธยา และสืบสานต่อเนื่องมาจนถึงกรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์ และจนถึงปัจจุบันแม้จะมีการพูดเรื่องทศพิธราชธรรมของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเมืองระบอบกษัตริย์ ไม่รู้จักกับคำว่า (หรือไม่มีนิยามคำว่า) “ความยุติธรรม” มีแต่เพียงคำว่า “พระราชอำนาจ”“พระราชโองการ” และ/หรือ “พระราชดำริ” เป็นต้น ระบบสมบูรณาณาสิทธิราชย์ เพื่อการเมืองที่กดหัวคน จึงเป็นระบบการเมืองที่เหน็ดเหนื่อย ที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่ยั่งยืน เพราะมันต้องอยู่กับความหวาดระแวง ชิงไหวชิงพริบ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจ ระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา ประวัติศาสตร์เจ้าจึงเป็นประวัติศาตร์แห่งเขตแดนที่ไม่เคยอยู่นิ่ง - ประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสงครามและการนองเลือดแห่ง . . ==> การรักษาอำนาจและอาณาเขตแดน (ของเจ้า) ==> การขยายอาณาเขต ==> การกู้แผ่นดิน ==> การแย่งชิงในราชสำนัก ==> เกิดราชวงศ์ใหม่ เป็นวัฎจักรหมุนวนกันอย่างนี้ ไม่รู้จบไม่รู้สิ้น จนกว่าจะเจ้าจะยอมรับในระบอบประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ที่ทุกคนได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียมกัน การเมืองกษัตริย์จึงเป็นการเมืองของศักดินาชนชั้นสูง การเมืองของกษัตริย์ อุปราช และเสนาบดีกลาโหม เป็นการเมืองที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น - ทั้งขึ้นทั้งล่อง - หรือที่สุภาษิตว่าไว้ว่า “เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกราญ” เป็นการเมืองที่แน่นอนว่าประชาชนต่างก็ไม่พอใจ และต่างก็ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ประชาชนต้องเสี่ยงชีวิตในฐานะทหาร เสียชีวิตจากการปล้นสะดมภ์ ขาดอาหาร และถูกจับเป็นเชลยข้ามเขตแดนกันไปมา ตามแต่ว่าศึกครั้งนี้มหาราชองค์ไหนคือผู้ชนะ ในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ไม่มีคำว่า “ประชาชน” มีแต่คำว่า ไพร่ ทาส เลก ที่ไม่มีอธิปไตยของชีวิตตัวเอง เป็นเพียงกำลังแรงงาน สนมนางกำนัล เครื่องบำเรอความใคร่ และกองกำลังทหารที่หล่อเลี้ยงความมั่งคั่งแห่งเมืองหลวง ในระบบศักดินาสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เจ้าศักดินาคนไหนก็ตามที่เริ่มมีอิทธิพลและมีไพร่ทาสมากเกินไป จะถูกจับตามอง และถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของพระมหากษัตริย์หรือขุนนางที่ฉ้อฉลคนอื่น พวกเขามักจะถูกกำจัดทิ้งอย่างง่ายดาย ฆ่าเรียบ เผาเรียบ พร้อมกับยึดไพร่ ทาส มาเแจกจ่ายระหว่างกลุ่มที่ชนะ นี่คือการเมืองแห่งอำนาจของลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ไทย เป็นการเมืองแห่งการรบราฆ่าฟัน จี้ปล้น แย่งชิง เผาบ้าน เผาเมือง กันอยู่ตลอดเวลา มันโหดร้ายยิ่งนัก ด้วยเหตุนี้ลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่ดำรงตนด้วยการบ่มเพาะความเชื่อว่ากษัตริย์คือโอรสสวรรค์ จึงถูกท้าทายจากพลังประชาชนควบคู่มาพร้อมกับประวัติศาตร์ราชสำนัก เพราะในตัวลัทธิแนวคิดนี้ มันขัดแย้งกับธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักอิสรภาพ รักสงบ และรักความเป็นไท ประชาชนทั่วไปต่างก็ต้องการดำรงชีวิตด้วยความเข้าใจและเคารพในธรรมชาติ พึ่งตนเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมทั้งลงแรงช่วยเหลือกันและกันในเทือกสวนไร่นา ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องการเป็นข้า ไพร่ หรือทาสของใครทั้งนั้น การลุกขึ้นโค่นเผด็จการและกษัตริย์ในโลกปัจจุับัน ลัทธิการปกครองระบบกษัตริย์ และเผด็จการทหารที่อยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน ต่างก็กำลังอยู่ในภาวะอกสั่นขวัญหาย อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศในอาฟริกา และตะวันออกกลางที่การเปลี่ยนผ่านได้เกินอายุขัยมานานร่วมศตวรรษ จนอยู่หลงยุค หลงสมัย และกลายเป็นตัวตลกในหมู่ประชาคมโลกมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประชาชนในประเทศเหล่านั้นก็รู้ดี และกำลังลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและยุติหลายศตวรรษแห่งชีวิตที่ถูกกดขี่ภายใต้สถาบันพระมหากษัตริย์และเผด็จการทหาร ความร้ายกาจแห่งอำนาจอาจนุ่มนวลขึ้นบ้าง ไม่ใช่ “ไม่พอใจใครก็สั่งตัดหัวเสียบประจาน” แห่งระบบสมบูรณาญาสิทธิราชอันบริบูรณ์ แต่เป็นวิธีเชือดนิ่มๆ ครอบงำการเมืองด้วยวิถีการฑูตราชสำนัก หรือจะเรียกว่ายุทธวิธีแห่ง “น้ำผึ้งเคลือบยาพิษแห่งลัทธิสมบูรณาญาสิทธิราชย์” ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็็โหดร้ายป่าเถื่อนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันและก็ไม่เคยปรานีคนที่คิด ต่างเช่นกัน ประเทศที่ปกครองด้วยลัทธิมหาราชเอกบุรุษ และเผด็จการทหารหรือเผด็จการรัฐสภา ที่อยู่รอดมาถึงปัจจุบัน (เหลืออยู่น้อยเต็มที่) ต่างก็อยู่่เกินอายุขัย และต่างก็พยายามอย่างหนัก และทุ่มเทงบประมาณของรัฐ(อันจำกัด) จำนวนมากมายมหาศาล ไปกับการสร้างภาพและปลูกฝังความคิดแห่ง “สมมติเทพ” และ “ความศักดิ์สิทธิ์” ให้กับองค์พระมหากษัตริย์กันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งพัฒนากลไกที่ซับซ้อนและวิจิตรบรรจงมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งพัฒนาการแห่งเครื่องประดับอาภรณ์และพระราชธรรมเนียมต่างๆ บทเรียนของกษัตริย์ฆวน คาร์ลอส คือบทเรียนแห่งการปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญอย่างน่าชื่นชม
ประวัติศาสตร์ไพร่ การลุกขึ้นสู้ของประชาชนที่อาฟริกาตอนเหนือและตะวันออกกลางในช่วงปลายปีที่่ผ่านจนถึงขณะนี้ คือประวัติศาสตร์การลุกขึ้นสู้ของประชาชนแห่งยุคสมัยปัจจุบัน
ประชาชนอียิปต์ลุกขึ้นขับไล่เผด็จการมูบารัค 25 มกราคม 2554 ทั้งประเทศและต่อเนื่อง มูบารัคต้องยอมลาออกในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 จากศรีปราชญ์ถึงณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เราจะเห็นได้ว่า แม้ประวัติศาสตร์มักจะเขียนโดยชนชั้นสูงเพื่อชนชั้นสูงเป็นส่วนใหญ่ มันก็ยังทิ้งเรื่องราวให้เราอ่านระหว่างบันทัดได้อยู่บ้างจากบันทึกเหล่านี้ได้บ้าง อาทิ มันได้บันทึกจิตวิญญาณอิสระของมนุษย์คนหนึ่งไว้เช่นกันเมื่อร่วมสี่ร้อยปีที่ผ่านมา จิตวิญญาณของมหากวีแห่งยุคสมัยพระเจ้านารายณ์ “ศรีปราชญ์” ที่ยิ่งใหญ่จนแม้แต่นักประวัติศาสตร์ราชสำนักก็ไม่อาจไม่บันทึกความยิ่งใหญ่ของเขา ที่ตอบโต้ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมของพระนารายณ์ ที่กล่าวหาศรีปราชญ์ว่า . . หะหายกระต่ายเต้น ชมจันทร์ ศรีปราชญ์ย้อนตอบ . . หะหายกระต่ายเต้น ชมแขการตอบโต้ครั้งนี้ระหว่างศรีปราชญ์ มหากวีแห่งยุคสมัยกับพระสนมของพระนารายณ์ ทำให้เขาติดคุกหลวงและถูกเนรเทศไปนครศรีธรรมราชจนถูกประหารชีวิต ซึ่งเขาได้เขียนบทกลอนในวันประหารชีวิตไว้ว่า . . ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน นี่เป็นบทกวีแห่งเสรีชนเมื่อกว่่าสี่ร้อยปีที่ผ่านมา. .
ไม่มีบทจบไหนจะงดงามและจุดประกายแห่งความหวังของการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสังคมที่เท่าเทียมและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว ในวาระครบรอบ 229 ปีแห่งรัตนโกสินทร์ ข่าวที่ผ่านมาในไทยอีนิวส์ 216ปีกิโยตินบั่นพระเศียรราชินีมารี อังตัวเนต 92ปีวันอวสานราชวงศ์โรมานอฟรัสเซียจากเวบไซด์กลุ่มนิติราษฎรเมื่อฆวน คาร์ลอสปฏิเสธรัฐประหาร - ปิยบุตร แสงกนกกุล |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น