วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

‘อภิสิทธิ์’ปฏิเสธทูลเกล้าฯกฤษฎีกายุบสภา
 http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=10572
         ยังไม่ชัดเจนเรื่องกำหนดยุบสภาเมื่อ “อภิสิทธิ์” ออกมาปฏิเสธทูลเกล้าฯถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรออกมาเปิดเผย อ้างเป็นการเข้าใจผิดเพราะที่ยื่นไปแล้วคือความเห็นเรื่องกฎหมายลูก 3 ฉบับ ที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาประกอบการวินิจฉัย “สุเทพ” เชื่อหากจำเป็นต้องเลื่อนยุบสภาจะไม่มีปัญหาแทรกซ้อน “ชวรัตน์” เจียมตัวเป็นแค่พรรคอันดับ 3 ไม่คิดแย่งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี “ภูมิธรรม” ทวิตจวกแนวคิดพรรคอันดับ 2 ชิงตั้งรัฐบาล เป็นการแสดงสันดานการเมือง “มิ่งขวัญ” โผล่ร่วมประชุมพรรคเพื่อไทยดับข่าวลือแยกตัวตั้งพรรคใหม่

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นทูลเกล้าฯถวายเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว


อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวนำเรื่องนี้ไปสอบถามนายอภิสิทธิ์กลับได้รับคำตอบว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด ยังไม่ได้นำทูลเกล้าฯ ส่วนการตีความกฎหมายลูกของศาลรัฐธรรมนูญนั้นได้ส่งความเห็นเพิ่มเติมไปให้แล้ว


“มาร์ค” ไม่รู้ยุบสภาเมื่อไร


เมื่อถามว่าจะทูลเกล้าฯถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภาได้เมื่อไร นายอภิสิทธิ์ไม่ตอบคำถาม


ผู้สื่อข่าวได้กลับไปสอบถามนายชัยอีกครั้งได้รับคำตอบว่า การเสนอยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี เมื่อนายกฯบอกแบบนั้นก็ต้องเชื่อ
“ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด แต่เมื่อนายกฯบอกแบบนั้นก็ต้องเชื่อนายกฯ เพราะอำนาจตัดสินใจยุบสภาเป็นของนายกรัฐมนตรี”


“สุเทพ” เชื่อเลื่อนยุบสภาไม่มีปัญหา


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเสนอความเห็นร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 3 ฉบับให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพิ่มเติม


ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ขาดได้ในวันที่ 9 พ.ค. จนต้องเลื่อนการยุบสภาออกไปหรือไม่นั้น นายสุเทพกล่าวว่า ต้องรอดูในช่วงวันสองวันนี้ก่อนว่ามีความจำเป็นอะไรบ้าง หากจำเป็นต้องยืดวันยุบสภาออกไปก็ไม่น่ามีปัญหาแทรกซ้อน เพราะอย่างไรก็ต้องมีการยุบสภาอยู่แล้ว


ปชป. วางตัวผู้สมัคร ส.ส. แล้ว 90%


นายสุเทพกล่าวว่า ขณะนี้พรรควางตัวผู้สมัคร ส.ส. แล้ว 90% เหลืออีก 10% ยังต้องพิจารณาเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ส่วนกรณีของนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กรุงเทพฯ ที่ไม่พอใจถูกดันไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อนั้น ความจริงน่าจะพอใจ เพราะได้เป็น ส.ส. โดยไม่ต้องหาเสียง แต่หากยังคุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง


นายสุเทพกล่าวอีกว่า ประชาชนไม่ควรไปเชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่อ้างว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ทำโพลสำรวจครั้งที่ 4 ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. ถึง 280 เสียง ถ้าไม่เชื่อคนอย่างนายจตุพรประเทศชาติจะดีขึ้น


ปปช. มั่นใจมีเลือกตั้งแน่


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหลังการประชุม ส.ส. พรรคว่า ที่ประชุมมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน แม้นายกรัฐมนตรีจะยังไม่ชัดเจนเรื่องกำหนดวันยุบสภา การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคคาดว่าจะแข่งกัน 3 เรื่องใหญ่คือ 1.แข่งเสนอนโยบายสร้างความพึงพอใจกับประชาชน 2.การใส่ร้ายป้ายสีกันทางการเมือง และ 3.การใช้มวลชนเคลื่อนไหวคู่ขนานกับพรรค
“ฝ่ายตรงข้ามถือเดิมพันสูงมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงต้องทำทุกรูปแบบเพื่อชนะเลือกตั้ง”


ภูมิใจไทยอ้างโพลได้ ส.ส. 70 คน


นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย แถลงหลังการประชุมพรรคว่าจะมี ส.ส. จากพรรคอื่นมาร่วมงานกับพรรคประมาณ 20 คน ขณะที่ ส.ส. เดิมของพรรคไม่มีใครย้ายไปอยู่กับพรรคอื่น ขณะนี้พรรคมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งแล้วทุกด้าน ซึ่งจากการทำโพลของพรรค พบว่าจะได้ ส.ส. ประมาณ 70 คน โดยจะเปิดตัวผู้สมัครทันทีที่ยุบสภา


ส่วนกรณีที่ กกต. ห้ามนำสถาบันมากล่าวอ้างเพื่อหาเสียงนั้น ประธาน ส.ส. พรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของพรรค เมื่อ กกต. ยังไม่มีระเบียบออกมาอย่างชัดเจน พรรคก็จะทำกิจกรรมตามปรกติ


“ชวรัตน์” ไม่คิดแย่งนั่งเก้าอี้นายกฯ


นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส. ประมาณ 60-80 เสียง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และจะไม่เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นนายกฯช่วงนี้ลำบาก ต้องทำงานบนความขัดแย้ง ขอเป็นพรรคร่วมรัฐบาลดีกว่า


นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยอมรับว่ามีรายงานการเตรียมก่อความรุนแรง ความวุ่นวายในช่วงเลือกตั้ง แต่ไม่ถึงกับใช้ระเบิดให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย ซึ่งผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะป้องกันให้ดีที่สุด


อัดสร้างข่าวพรรคชนะไม่ได้ตั้งรัฐบาล


ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่รักษาคำพูดเรื่องยุบสภา หากข่าวที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรบอกว่าทูลเกล้าฯถวายร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้วเป็นเรื่องจริง เพราะทราบมาว่ามีคนใกล้ชิดและคนในพรรคร่วมรัฐบาลบางคนพยายามให้ยืดเวลาการยุบสภาออกไป เพื่อหวังหาผลประโยชน์จากการแต่งตั้งโยกย้าย


“ขณะนี้มีการสร้างข่าวว่าพรรคที่ชนะเลือกตั้งได้เสียงเป็นอันดับ 1 จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพื่อไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย และคนในรัฐบาลตลอดจนนายกรัฐมนตรีก็พูดชัดเจนว่าพรรคอันดับรองลงมามีสิทธิตั้งรัฐบาล หากรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ซึ่งถือว่าเป็นการขัดต่อฉันทามติของประชาชน ดังนั้น อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่มข้อตกลงในสัตยาบันอีก 1 ข้อ กำหนดให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล”


โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวอีกว่า พรรคจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลังจากที่มีการประกาศยุบสภาอย่างเป็นทางการแล้ว 2 วัน


“มิ่งขวัญ” โผล่ร่วมประชุมเพื่อไทย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสามัญพรรคเพื่อไทยเพื่อคัดเลือกรรมการบริหารพรรคแทนคนที่ลาออกไป 11 คน ปรากฏว่านายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน ที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพรรคมาระยะหนึ่งจนมีข่าวว่าจะออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ เพราะไม่พอใจที่ไม่ถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมประชุมและลงมติเลือกกรรมการบริหารพรรคด้วย


อ้างหายตัวไปทำนโยบายให้พรรค


นายพร้อมพงศ์ชี้แจงว่า นายมิ่งขวัญหายไปทำนโยบายให้พรรค และฝากมาบอกทุกคนด้วยว่าไม่เคยคิดทิ้งพรรค


“ทีมเศรษฐกิจมอบหมายให้นายมิ่งขวัญไปจัดทำนโยบายเกี่ยวกับการหารายได้เข้าประเทศ ซึ่งขณะนี้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากได้นำไปใช้เชื่อว่าจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นถุงเงินของเอเชีย”


จวก “มาร์ค” โชว์สันดานการเมือง


นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงเรื่องการยุบสภาว่า ฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูด “ใครควรเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล” ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯแล้ว สรุปได้คำเดียวว่า “มารยาททางการเมือง” สำคัญน้อยกว่า “สันดานทางการเมือง” ระวังสันดานทางการเมืองที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่ขัดต่อธรรมเนียมการปกครอง และเจตนารมณ์ทางการเมืองของประชาชนจะเกิดปัญหา อยากแนะนำให้ดูนิสัยที่น่าเคารพอย่างนายชวน หลีกภัย เป็นตัวอย่าง การเลือกตั้งเมื่อปี 2539 แพ้พรรคความหวังใหม่ของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แค่ 2 เสียงก็ประกาศให้พรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาล แล้วเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดตรัง เป็นผู้แพ้ที่มีความสง่างาม ได้ใจทุกฝ่าย


หวั่นศาล รธน. ชี้กฎหมายลูกมีปัญหา


นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจเรื่องเลือกตั้งเพราะต้องรอดูการตีความกฎหมายลูกของศาลรัฐธรรมนูญ หากมีมติว่าขัดรัฐธรรมนูญคงวุ่นวายเพราะ กกต. บางท่านยืนยันชัดเจนว่าหากไม่มีกฎหมายลูกก็ไม่เอาด้วยเพราะกลัวติดคุก


นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ยืนยันว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะตีความกฎหมายลูกเสร็จไม่ทันยุบสภาก็จะจัดเลือกตั้งต่อไป เพราะกฎหมายให้อำนาจ กกต. ออกระเบียบ และประกาศใช้จัดเลือกตั้งได้
กกต. ไม่มีปัญหาจัดเลือกตั้ง


“ผมไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร แต่หากจะใช้ระเบียบประกาศของ กกต. จัดเลือกตั้งก็ต้องออกมาก่อนเปิดรับสมัคร ส.ส.”


นายประพันธ์ยังกล่าวถึงระเบียบห้ามอ้างสถาบันหาเสียงเลือกตั้งว่า คงไม่กำหนดรายละเอียดว่าห้ามทำอะไรบ้าง เพราะคิดว่าพรรคการเมืองมีดุลยพินิจได้ว่าอะไรควรไม่ควร


นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวถึงการหาเสียงผ่านสื่อออนไลน์ว่า ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้าม ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะไม่ทำให้บ้านเมืองสกปรก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสื่ออนไลน์ควบคุมยาก


*******************************
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น