วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554


เฟซบุ๊คล่าชื่อเอาผิด‘ปู’‘แก้วสรร’เปิดตัวเครือข่ายต่อต้านนิรโทษกรรม‘ทักษิณ’

       เรื่องจากปก
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3069 ประจำวัน จันทร์ ที่ 6 มิถุนายน 2011
         “แก้วสรร” เตรียมแถลงเปิดตัวเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ เปิดเฟซบุ๊คล่ารายชื่อร่วมกันแจ้งความเอาผิด “ยิ่งลักษณ์” ที่ถือหุ้นแทนพี่ชายในคดีซุกหุ้น “อภิสิทธิ์” ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เคลื่อนไหว ระบุหากเห็นว่าใครทำผิดมีสิทธิดำเนินการตามกระบวนกฎหมาย “ยิ่งลักษณ์” ลั่นพร้อมรับการตรวจสอบจากกระบวนการที่โปร่งใส เป็นธรรม ยืนยันไม่ท้อพร้อมเดินหน้าทำหน้าที่ต่อ ประกาศชัดไม่คิดทำอะไรเพื่อคนคนเดียว เชื่อยิ่งใกล้วันเลือกตั้งจะมีขบวนการออกมาทำลายมากขึ้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องแผนบันได 4 ขั้นเพื่อนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุ


“ปู” ยันนโยบายทำเพื่อส่วนรวม


“พรรคเพื่อไทยมีนโยบายทำเพื่อประชาชนส่วนรวม มุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ไม่คิดทำอะไรเพื่อคนคนเดียวอย่างที่ถูกกล่าวหา เรื่องของคดีความมีความชัดเจน พรรคเพื่อไทยมุ่งสร้างความยุติธรรมอย่างเสมอภาค พ.ต.ท.ทักษิณก็มีสิทธิได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกับคนอื่นๆตามหลักนิติธรรม และต้องมองว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้บ้านเมืองก้าวไปสู่ความสามัคคีปรองดอง”


มั่นใจชี้แจงข้อกล่าวหาได้


ส่วนกรณีที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี ออกมาล่ารายชื่อให้ดำเนินคดีอันเกี่ยวเนื่องมาจากคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยินดีรับการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไร และมั่นใจว่าจะชี้แจงต่อประชาชนได้


เชื่อใกล้เลือกตั้งถูกกล่าวหาอีก


“ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาดิฉันประกาศอย่างชัดเจนว่าพร้อมรับการตรวจสอบตามกติกา และไม่ขอพูดว่าเป็นการรังแกผู้หญิงหรือไม่ แต่ต้องการเห็นการเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพราะประชาชนเบื่อที่จะฟังการตอบโต้กันไปมาแล้ว จะพยายามอดทนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เชื่อว่ายิ่งใกล้วันเลือกตั้งจะยิ่งมีการขุดคุ้ยเรื่องต่างๆออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่จะไม่ท้อ เพราะมีความมุ่งมั่นที่จะอาสาเข้ามาทำงาน”


แก้รัฐธรรมนูญต้องฟังประชาชน


น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญหลังการเลือกตั้งว่า จะต้องสอบถามความเห็นจากประชาชนก่อนว่ามีความรู้สึกอย่างไรกับรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยจะฟังความต้องการของประชาชนเป็นหลักหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ


น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงผลโพลที่ประชาชนกังวลใจต่อการซื้อเสียงว่า พรรคเพื่อไทยเน้นนำเสนอนโยบายกับประชาชน และไม่เชื่อว่าการซื้อเสียงจะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการลงคะแนน


เพื่อไทยเน้นเสนอนโยบายไม่ซื้อเสียง


“พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายให้ผู้สมัครซื้อเสียง เราเน้นการปราศรัยนำเสนอนโยบายต่อประชาชน โดยเน้นออกนโยบายที่ตรงกับความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ เชื่อว่าจะได้รับการยอมรับมากกว่าการซื้อเสียง”
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครักษ์สันติ ระบุว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากขั้วที่ 3 เพื่อป้องกันความแตกแยกนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตามระบอบประชาธิปไตยพรรคที่ชนะเลือกตั้งควรได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นการเคารพเสียงของประชาชน แต่เมื่อพรรคนั้นเสนอรายชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรีไปแล้วก็เป็นเรื่องที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณา ทุกอย่างมีกติกาและต้องเดินไปตามนั้น


ใครเป็นนายกฯก็ปรองดองได้


“ไม่ว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี หากมีความตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาความแตก สร้างความปรองดอง ก็สามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนจากขั้วที่ 3” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวและว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตประธานคณะกรรมการศึกษาปฏิรูปทางการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้หัวหน้าพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ควรนำผลคะแนนจากระบบเขตมารวมด้วยเพราะเป็นเสียงของประชาชนเหมือนกัน จึงจะถือว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศ


“มาร์ค” ไม่เกี่ยวข้องตรวจสอบ “ปู”


ด้านนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของ นพ.ตุลย์ที่จะล่ารายชื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์จากคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ นพ.ตุลย์ไม่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
“ถ้าถามผมว่ารู้จักกับ นพ.ตุลย์หรือเปล่า ผมยอมรับว่ารู้จัก เรื่องนี้ไม่มีประชาธิปัตย์แท้หรือประชาธิปัตย์เทียม เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคต้องดำเนินการในเรื่องนี้ ขอให้ดูที่เนื้อหาสาระของผู้ดำเนินการ ส่วนตัวยังไม่รู้ว่า นพ.ตุลย์จะให้ดำเนินการอะไรบ้าง แต่หากเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย”


ซัดสื่อเสนอข่าวบิดเบือนให้ร้าย


ส่วนกรณีที่มักกล่าวอ้างว่าคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้านเป็นแดงเทียมนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า วันนี้มีความชัดเจนในหลายกรณี อย่างนางสิริมา นวมแจ่ม ที่ไปถือป้ายต่อต้านระหว่างหาเสียงที่ตลาดวงศกร เมื่อตรวจสอบดูก็เห็นว่าร่วมกิจกรรมกันมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนสื่อที่เสนอข่าวทำนองว่าเป็นคนของสันติอโศกนั้นไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะทั้งหนังสือพิมพ์ข่าวสดและมติชนบิดเบือนคำพูดผมมาตลอด ทั้งการพาดหัวและการเลือกรูปเห็นได้ชัดเจน ก็เป็นสิทธิที่จะเลือกข้าง แต่ขอให้เคารพความจริง


ย้ำต้องปรองดองภายใต้กฎหมาย


“ผมไม่อยากพูดว่าคนเสื้อแดงถูกพรรคเพื่อไทยใช้เป็นเครื่องมือ เพราะอยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้า มีการเลือกตั้ง จึงไม่อยากหยิบยกประเด็นขัดแย้งมาทำให้เกิดปัญหา” นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่า การปรองดองต้องทำภายใต้กรอบของกฎหมาย หากประชาชนเลือกพรรคประชาธิปัตย์เป็นเสียงข้างมาก ความชอบธรรมตรงนั้นจะเกิดขึ้น ยืนยันว่าจะไม่รังแก ไม่ทำร้ายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ถ้าชนะจะอดทนอดกลั้น รับฟังความเห็นที่แตกต่าง เหมือนที่ปฏิบัติมาตลอด 2 ปี เพื่อให้บ้านเมืองก้าวพ้นเรื่องนี้


ให้ประชาชนเลือกจะเอาแนวทางไหน


นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคเชื่อในความปรองดองด้วยการให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานให้ประชาชนบนความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก หรือประชาชนจะเลือกรัฐบาลที่ต้องการหยิบยกเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาความขัดแย้ง ตอบสนองความต้องการของคนบางกลุ่ม ก็ต้องพิจารณาเอง


ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงจะต้องจบชีวิตด้วยการติดคุกหรือหนีออกนอกประเทศเหมือนกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่กลัวและไม่เชื่อว่าคนที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้บ้านเมืองโดยไม่ได้แสวงหาประโยชน์ส่วนตนจะต้องพบกับชะตากรรมเช่นนั้น คนที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนทั้งประเทศและเอาเปรียบบ้านเมืองต่างหากที่สมควรเจอชะตากรรมเช่นนั้น


ไม่กลัวฝ่ายตรงข้ามเอาคืน


“ผมไม่กลัว เพราะความจริงก็คือความจริง ผมไม่อยากทะเลาะเรื่องนี้ พยายามก้าวข้ามไม่พูดถึง จึงเน้นนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจ สังคม สร้างระบบสวัสดิการ ดูแลสิทธิของประชาชน เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องตัดสินว่าจะเลือกยอมพวกเสียงดังเพื่อให้บ้านเมืองสงบ หรือต้องการสังคมที่เคารพกฎหมาย”
อย่าเป็นบันไดให้ “ทักษิณ”


นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าพรรคเพื่อไทยมีแผนบันได 4 ขั้นนำไปสู่การนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และจะไม่ยอมให้ประชาชนเป็นบันไดให้ พ.ต.ท.ทักษิณเหยียบ ขณะเดียวกันประชาชนก็ไม่ควรยอมเป็นบันไดให้ พ.ต.ท.ทักษิณเหยียบ ต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณตกบันไดไปตั้งแต่ขั้นแรก ด้วยการให้ประชาชนบอกชัดๆว่าบ้านเมืองต้องการก้าวพ้นความต้องการของคนคนเดียว จะมีประชาชนกี่คนที่ทำผิดกฎหมายแล้วมีโอกาสให้คนมาออกกฎหมายใช้อำนาจลบล้างคำพิพากษา ถ้าทำอย่างนี้ได้บ้านเมืองก็ไม่ใช่ 3 ศาล หรือ 1 ศาลนักการเมืองแล้ว แต่จะกลายเป็น 4 ศาล หากใครทำผิด มีอำนาจ มีอิทธิพล ก็เปลี่ยนแปลงความผิดได้ แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร


แก้ รธน. ต้องตอบให้ได้ทำเพื่อใคร


นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องตอบโจทย์ให้ชัดว่าต้องการแก้ประเด็นไหน เพื่อใคร ถ้าจะแก้บทเฉพาะกาลเพื่อล้างความผิดให้กับคนที่ทำผิดเพียงคนเดียว ถึงกับบอกว่าอำนาจศาลล้มล้างได้ ต้องแก้กฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ ทำไมไม่พาประเทศเดินหน้าข้ามปัญหาเหล่านี้ คนไทยมีโอกาสใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ก้าวให้พ้นด้วยการลงคะแนนเสียงท่วมท้นไปเลยว่าไม่เอาเรื่องแบบนี้ เดินหน้าเข้าสู่ระบบสภา และถ้าผมได้บริหารประเทศจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย


ไม่อยากมีปัญหาต้องเลือก ปชป.


“หากประชาชนไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เพราะเราไม่ทำอะไรให้เป็นปัญหาของบ้านเมือง หากเราเป็นรัฐบาลชัดเจนว่าจะเดินหน้าทำงานให้ประชาชน ส่วนเรื่องสร้างความปรองดองให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระพิจารณาตามความเหมาะสม และพรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลต้องยึดนโยบายนี้เป็นหลัก”


เปิดเฟซบุ๊คล่าชื่อกล่าวโทษ “ปู”


ด้านเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรมคอรัปชั่นทักษิณ (คนท.) นำโดยนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เผยแพร่เอกสารคำชี้แจงและเชิญร่วมกล่าวโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพื่อหยุดกฎหมายนิรโทษกรรมคดีคอร์รัปชัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บนเฟซบุ๊คของเครือข่าย


สำหรับเอกสารที่เผยแพร่ ประกอบด้วย 1.คำชี้แจงร่วมกล่าวโทษปู...หยุดกฎหมู่ชินวัตร 2.คำกล่าวโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวก 3.คู่มือตรากฎหมายยุติการดำเนินคดีตามกฎหมายตามนโยบายพรรคเพื่อไทย 4.ตอบคำถามคาใจทำไมแจ้งความปูช่วงเลือกตั้ง และ 5.แบบสอบถามความคิดเห็น


จี้ดีเอสไอฟันถือหุ้นแทน “ทักษิณ”


ทั้งนี้ ได้ระบุจุดประสงค์ของการเผยแพร่ว่าต้องการเรียกร้องให้ดีเอสไอดำเนินการกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวก จากกรณีที่ศาลตัดสินให้ยึดทรัพย์คดีซุกหุ้นชินคอร์ป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกล่าวโทษกับผู้ที่อ้างถือหุ้นแทน ซึ่งรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย


นอกจากนี้ยังชี้แจงเรื่องที่ทำไมต้องดำเนินการในช่วงเลือกตั้ง โดยระบุว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกตั้งปรกติ แต่เป็นขั้นตอนที่ 1 ของประชามติฟอกตัว พ.ต.ท.ทักษิณที่เรียกร้องให้พ่อแม่พี่น้องพากลับบ้านด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทย เมื่อได้อำนาจมาเมื่อใดจะต้องแก้กฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยวันที่ 7 มิ.ย. 2554 คนท. จะเปิดแถลงข่าวที่รัฐสภา


******************************
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น