ไม่ว่าจะ ‘นักบินฝึกหัด’ ‘คนส่งน้ำแข็ง’ ‘เซลเอ็นจิเนียร์’ หรือแม้แต่ ‘นายทหารยศพันเอก’ ล้วนมีอันต้องเจ็บตัวเมื่อสัมผัส ‘กรวย’ หรือสิ่งกีดขวางของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ทั้งสิ้น
ช่วงนี้มีข่าวผู้สัญจรไปมาบนท้องถนนกลางเมืองหลวงประสบกับการบาดเจ็บหลังจากที่มีการสัมผัส เคลื่อนย้าย หรือชนกรวย ที่ถูกใช้เป็นเคลื่องกีดขวางหรือสัญลักษณ์แสดงอาณาบริเวณของการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในช่วงนี้ติดต่อกันหลายราย
พระพุทธอิสระ หนึ่งในแกนนำ กปปส. จะออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการ์ดทำร้าย หนุ่มนักบินฝึกหัดบาดเจ็บบทโทลย์เวย์ ว่า “เราเองก็ไม่อยากปฏิเสธ แต่ต้องเข้าใจต่อสถานการณ์ ซึ่งบนทางโทลย์เวย์ที่กั้นไว้รักษาความปลอดภัยมีผู้มารื้อกรวยกั้นทางออกไป การ์ดก็ต้องทำหน้ารักษาความปลอดภัยผู้ชุมนุมทุกทางไม่ใครจะมาโยนระเบิดใส่แนวด้านล่าง แต่เราก็พร้อมขอโทษคนที่ถูกกระทำไป โดยหวังให้เขาเข้าใจด้วยว่าเราต้องรักษาความปลอดภัย”
อย่างไรก็ตามในสังคมและในโซเชียลเน็ตเวิร์กก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเหตุลักษณะเดียวกันเกิดซ้ำหลายครั้ง จนมีการนิยามเชิงล้อเลียนถึงวัตถุตั้งต้นแห่งปัญหานั้นว่า “กรวยศักดิ์สิทธิ” มีกิจกรรมถ่ายภาพกราบกรวย หรือภาพหยิบจับ การตัดต่อภาพล้เลียน รวมไปถึงท้าทายด้วยการเตะกรวย โดยณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บนเวทีชุมนุมของ นปช. เป็นต้น นอกจากนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘พจนานุกรมศัพท์การเมืองไทยร่วมสมัย’ ซึ่งจะนิยามเชิงล้อเลียนศัพท์ทางการเมืองที่เป็นประเด็นในสังคมการเมืองโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมาได้บัญญัติศัพท์คำว่า ‘โฮลี่กรวย’ (น) ด้วย เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายหลังสัมผัส ย้าย ชน กรวยหรือสิ่งกีดขวางของผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. เท่าที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นมีดังนี้
นายมารุต จันทร์นวล เซลเอ็นจิเนียร์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ
เซลเอ็นจิเนียร์ ยกแผงเหล็ก ถูกอัดสาหัส แต่เป็นข่าวดวลปืน
8 มี.ค. 57 นายธรรมรัตน์ จันทร์นวล ผู้เป็นน้องชายของนายมารุต จันทร์นวล เซลเอ็นจิเนียร์ ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส พร้อมถูกชิงทรัพย์ ยืนยันว่าพี่ชายของเขาที่เพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งของเพื่อน ในเวลาเกิดเหตุ(กลางดึกวันที 7 ต่อวันที่ 8 มี.ค.)ได้ขับรถมาส่งคนที่บริเวณแยกหลักสี่ เมื่อขับไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอแผงเหล็กกั้นมารุตจึงลงจากรถมาเพื่อที่จะได้ยกแผงเหล็กออกเพื่อที่จะได้ขับรถไปต่ออีกทางหนึ่ง แต่เมื่อลงมาจากรถมารุตก็ได้ถูกคนไม่ทราบจำนวนเข้ามารุมทำร้ายโดยไม่ได้สอบถามหรือบอกสาเหตุแห่งการทำร้ายแต่อย่างใด
น้องชายมารุต กล่าวด้วยว่าทรัพย์สินติดตัวถูกโขมยไปด้วยดังเช่น โทรศัพท์ไอโฟน สร้อยคอทองคำหนักสองบาท พระเลี่ยมทองมูลค่าประมาณห้าหมื่นบาทและเงินสดติดตัวอีกประมาณห้าพันบาท มารุตฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเที่ยงของวันที่ 8 เขาไม่ทราบว่าใครนำเขาส่งโรงพยาบาล รู้แต่ว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้ส่งต่อนำร่างกายที่ไม่ได้สติของเขามารักษาที่ รพ.ศิริราช
ทั้งนี้กรณีนายมารุต เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์วันที่ 9 มี.ค.ว่าเป็นเหตุการณ์ที่คนร้ายกราดยิงเวที กปปส. แจ้งวัฒนะ พร้อมซุกระเบิดในรถยนต์ ทำให้น้องชายต้องชี้แจงดังกล่าว
นายทหาร พ.อ. ถูกยิงถูกอัดหลัง
24 เม.ย. 57 พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รองผู้อำนวยการกองวิเทศสัมพันธ์ สํานักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร (กวส.สวส.ขว.ทหาร) ถูกยิงทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณ ซอย 7 ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ โดยน.ท.ณัฐพล วัฒนกุล น้องชาย พ.อ.วิทวัส เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย. ขณะที่พี่ชายกำลังจะเดินทางกลับบ้านพักที่เมืองทองธานี แต่พบว่ามีกรวยยางขวางบริเวณ ถ.แจ้งวัฒนะ จึงลงจากรถ ไปนำกรวยยางออก ก่อนถูกระดมยิง จากนั้นถูกการ์ด กปปส.เข้ามารุมทำร้าย
โดยอาการของ พ.อ.วิทวัส นั้น ถูกสะเก็ดลูกกระสุนปืน ฝังที่ข้อเท้าทั้งสองข้างและใบหน้ามีรอยฟกช้ำ
การ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะมาขอขมาตัวแทนของ พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา (ที่มา: บก.ทท.)
หลังจากนั้น วันที่ 25 เม.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนพุทธอิสระ แกนนำและหัวหน้าการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะ ได้ติดต่อเพื่อเข้าขอขมา พ.อ.วิทวัส แต่เนื่องจากยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไม่สะดวก จึงขอให้ขอขมาผ่านผู้บังคับบัญชาของตนด้วย โดยฝ่ายการ์ด กปปส. แจ้งวัฒนะ รู้สึกเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว ได้สำนึกผิดและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกเป็นอันขาด โดยในข่าวของ บก.ทท. ระบุว่า พ.อ.วิทวัส รับทราบการขอขมาดังกล่าวแล้วและรู้สึกพอใจ ส่วนการดำเนินคดีให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
และวันที่ 4 พ.ค. นางบังอรรัตน์ วัฒนกุล มารดาของ พ.อ.วิทวัส ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน และนำเงินจำนวน 50,000 บาท ซึ่งได้รับเป็นค่าทำขวัญจากพระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส.แจ้งวัฒนะ มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อนำส่งคืนพระพุทธะอิสระ พร้อมกล่าวว่า ต้องการปกป้องลูกชาย พร้อมปฏิเสธทุกกระแสข่าวที่ออกมาว่าไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พ.อ.วิทวัส ไม่เคยดื่มสุราเมามาย และไม่เคยทำพฤติกรรมไม่ดี ขณะเดียวกันขอร้องและขอความเป็นธรรมจากพระพุทธะอิสระให้ส่งตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และขอให้พระพุทธะอิสระ ย้ายเวทีชุมนุมไปที่อื่น เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อยู่อาศัยบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมทั้งทวงถามถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติควรจะออกมาช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่แจ้งวัฒนะที่มีผู้ประสบเหตุคล้ายกันจำนวนมากแล้ว
นักบินฝึกหัดถูกอัดหลังย้ายกรวยบนทางด่วน
9 พ.ค. 57 นายสุรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ลูกชาย นักบินฝึกหัดสถาบันวิทยุการบินพลเรือน ผู้บาดเจ็บ ระบุว่า เวลาประมาณ 12.30 น. ตนพร้อมเพื่อนสาวขับรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 525 สีบรอนซ์เงิน ขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์จากด่านดินแดง มุ่งหน้าไปดอนเมือง เพื่อไปฟังผลสอบ ขณะที่ขับรถผ่านมายังด้านหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เห็นว่ามีการปิดกั้นการจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกโดยทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. แต่ก็ยังมีรถบางคันที่วิ่งฝ่าด่านกั้นของทางกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ไป ตัวเขานั้นไม่ได้มีเจตนาอื่น เพียงแค่ต้องการไปยังดอนเมืองเท่านั้น จึงลงไปเปิดกรวยจราจรที่กั้นทาง
หลังจากนั้นจึงกลับมาที่รถเพื่อที่จะขับออกไป แต่จากขึ้นรถมีกลุ่มการ์ด กปปส.ประมาณ 10 คนเข้าล้อมรถของตนไว้ โดยคนที่เดินเข้ามามีทั้งที่สวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น สีดำแขนยาว เสื้อสีฟ้า เสื้อลายทหาร และมีผ้าพันคอสีม่วง
คลิปขณะนักบินฝึกหัดถูกอัด
นายสุรศักดิ์ ระบุด้วยว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางคนตะโกนว่าเขาเป็นคนทำ ซึ่งเขาไม่รู้เรื่องอะไร จึงนั่งนิ่งอยู่ในรถ พร้อมทั้งล็อคประตู 4 ด้าน กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยืนขวางรถตนไว้ ส่วนคนที่เหลือพยายามจะเคาะกระจกเรียกให้เปิดประตูรถ บางคนก้มลงไปปล่อยลมยาง หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีอาวุธปืนสั้นและปืนยาวได้ใช้ด้ามปืนเป็นไม้กระแทกกระจกรถฝั่งคนนั่งจนแตก จากนั้นใช้ด้ามปืนกระแทกมาที่ต้นขา ก่อนจะกระทุ้งมาที่ใบหน้าแล้วรุมทำร้ายตน พร้อมทั้งทุบตีรถ จนกระทั่งสลบไป หลังจากเกิดเหตุมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยเหลือ โดยได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โหนกแก้ม ตา จมูก และต้นขาขวา
โดยหลังเป็นกระแสข่าวกรณีนี้ พระพุทธอิสระได้ออกมาขอโทษต่อผู้เสียหาย โดยขอให้เข้าใจในสิ่งที่การ์ดทำไปนั้นเนื่องจากหวั่นถูกทำร้ายเลยต้องป้องกันทุกวิถีทาง
ขับรถส่งน้ำแข็งชนกรวย-ถูกการ์ด กปปส. แทงที่เวทีสนามเป้า
10 พ.ค. 57 เวลา 23.30 น. นายธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพคนส่งน้ำแข็ง และแฟนสาวตระเวนขับรถกระบะส่งน้ำแข็ง และต่อมาได้ขับรถชนกรวยจราจรของผู้ชุมนุม กปปส. จนกระทั่งถูกทำร้าย ถูกของมีคมที่ท้องและหน้าอก
และต่อมา น.ส.นันทวดี (ขอสงวนนามสกุล) แฟนสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.เกษม พิพิธกุล พงส.ผนก.สน.พญาไท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า แฟนหนุ่มถูกการ์ด กปปส. ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณตรงข้ามสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ถนนพหลโยธินขาออก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เมื่อเวลาในเวลาดังกล่าว
นายธนกฤต (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพคนส่งน้ำแข็ง ภายหลังถูกทำร้ายบริเวณใกล้ BTS สนามเป้า ถ.พหลโยธิน เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค. (ที่มาของภาพ: วอยซ์ทีวี)
โดยทั้งสองคนมีอาชีพส่งน้ำแข็ง ก่อนเกิดเหตุได้ตระเวนขับรถกระบะส่งน้ำแข็งตามร้านอาหารต่างๆ ก่อนหน้านี้ได้ไปส่งน้ำแข็งที่ร้านอาหารแถวสถานีรถไฟฟ้าพญาไท จากนั้นขับรถออกมาตามถนนพหลโยธินขาออกเพื่อไปส่งน้ำแข็งต่อที่ย่านสะพานควาย เมื่อมาถึงตรงข้ามสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งมีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ตั้งเวทีอยู่ ขณะนั้นฝนเกิดตกอย่างหนักทำให้มองไม่เห็นทาง รถจึงไปชนเข้ากับกรวยของกลุ่มผู้ชุมนุมที่กั้นถนน จากนั้นทางการ์ด กปปส.ได้ตะโกนด่า น.ส.นันทวดี บอกให้แฟนหนุ่มจอดข้างทางเพื่อลงมาขอโทษ แต่เมื่อลงจากรถ ทางการ์ด กปปส. กลับวิ่งกรูกันเข้ามาทำร้าย นายธนกฤต ทันที น.ส.นันทวดี จึงวิ่งหนีทั้งๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ 5 เดือน ต้องวิ่งไปร้องขอความช่วยเหลือจนกระทั่งมีพลเมืองดีมาช่วยเหลือ
น.ส.นันทวดี กล่าวต่อว่า จากนั้นจึงกลับมาดู นายธนกฤต ก็พบว่านอนหายใจรวยรินกลางถนน มีถุงดำพยายามจะคลุมร่าง นายธนกฤต เหมือนกำลังจะห่อเอาไปทิ้ง จึงรีบนำตัว นายธนกฤต ส่ง รพ.ราชวิถี เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ตามร่างกาย นายธนกฤต พบว่า มีรอยฟกช้ำหลายแห่ง และมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ปอดและตับอาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว วันนี้จึงได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.พญาไท ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองที่ไหน เพียงแต่ทำมาหากินทั่วไปเท่านั้นและตอนเกิดเหตุก็ได้บอกให้แฟนหนุ่มจอดรถเพื่อลงไปขอโทษไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อยากถามว่าทำไมบ้านเมืองถึงเป็นแบบนี้
ด้าน พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี แกนนำของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท. ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่ม กปปส. นั้น) ชุมนุมอยู่จุดดังกล่าว ยืนยันในเวลาต่อมาว่ากลุ่มที่ก่อเหตุไม่เกี่ยวข้องกับการ์ด กปท. แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามการบาดเจ็บและเสียชีวิตจาการชุมนุมทางการเมืองช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา นอกจากจะมีเหตุมาจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ หรือกลุ่มที่เห็นต่างแล้ว การสัมผัสสิ่งกีดขวางทางจรจรอย่าง ‘กรวย’ หรือแผงเหล็กดังที่กล่าวมาข้างต้นก็เป็นอีกสาเหตุของการถูกทำร้าย และยังมีผู้ที่ถูกกลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุมทำร้าย จากการใส่สัญลักษณ์ทางการเมืองที่แตกต่าง การมีปากเสียงกับผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปหาข่าวในที่ชุมนุม ผู้สื่อข่าวที่รายงานตัวเลขกไม่ตรงตามที่ผู้ชุมนุมคิด หรือสวมสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ หลายสิบราย รวมไปถึงผู้สื่อข่าวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอีกฝ่ายทางการเมือง อย่างกรณี
นิค นอสติทซ์ ช่างภาพและผู้สื่อข่าวชาวเยอรมัน ซึ่งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นิค ได้เดินทางพบ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนหลังถูกการ์ด กปปส. คุกคาม ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น