วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หมายจับรายที่ 10 เศรษฐีหนุ่ม 2.56 หมื่นล้าน-คดีอ้างเบื้องสูงทวงหนี้


นพพร ศุกพิพัฒน์ ได้รับการจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยลำดับที่ 31 โดยนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ (ที่มา: Thailand's 50 Richest นิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์)

ศาลทหารอนุมัติออกหมายจับ นพพร ศุภพิพัฒน์ ประธานบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่ เจ้าของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานลม คดีอ้างเบื้องสูงทวงหนี้ ด้านพนักงานสอบสวนนำ 2 สิบเอก 1 พลเรือน มาฝากขังผลัดแรก
 
2 ธ.ค. 2557 - เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศาลทหารกรุงเทพอนุมัติหมายจับที่ 138/2557 ผู้ร้องคือ พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์ประเสริฐ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายจับ นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ต้องหาคนที่ 10 ในข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
สำหรับ นพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้รับการจัดอันดับที่ 31 ใน 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2557 จากนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด โดยเขาเป็นเจ้าของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานลม ประธานบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่ โดยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ผ่านบริษัทรีนิวเอเบิล เอนเนยี ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 63 ในบริษัทวินด์ เอนเนอร์ยี่ โดยนายนพพรติดอันดับ 31 ใน 50 ของมหาเศรษฐีประจำปี 2557 ซึ่งจัดขึ้นโดยนิตยสาร ฟอร์บส ไทยแลนด์ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 25,600 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร พร้อมทหาร ควบคุมตัวนายวิทยา เทศขุนทศ ส.อ.ณธกร ยาศรี และ ส.อ.ธีรพงศ์ ช่อจำปี ผู้ต้องหาตามข้อกล่าวหา หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าเป็นเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนำผู้ต้องหามาขออำนาจศาลทหารฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ถึงวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ ต้องสอบพยานเพิ่มเติม ทั้งนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากปล่อยตัวไปผู้ต้องหาอาจหลบหนี
สำหรับนายวิทยา เทศขุนทศ ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัววานนี้ จากนั้นตำรวจจึงได้คุมตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยนายวิทยา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นลูกน้องของนายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ส่วน ส.อ.ณธกรและ ส.อ.ธีรพงศ์ อยู่ในการควบคุมของทหารและถูกคุมตัวมาฝากขังพร้อมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น