15.00 น. ประชาไทสัมภาษณ์ฉลาด วรฉัตร นักเคลื่อนไหวทางการเมืองวัย 72 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวไป สน.ดุสิต ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมาและยังอยู่ที่นั่น
เขากล่าวว่าเขาเดินทางมายังหน้ารัฐสภาตั้งแต่ 4.00 น. และตำรวจได้เข้าทำการควบคุมตัวและเชิญตัวไปยัง สน.ดุสิตในเวลาประมาณ 10 นาฬิกาเศษ จุดประสงค์ในการมานั่งหน้ารัฐสภาครั้งนี้เพื่อทำการนำเสนอร่างรัฐธรรมนูญของเขา ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับวันที่ 10 ธ.ค.2475 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2489 และฉลาดได้นำมาปรับปรุงเพิ่มเติมอีกจนออกมาเป็นฉบับปัจจุบัน ซึ่งเขาได้ตีพิมพ์และนำมาจำหน่ายแก่ผู้สนใจด้วย จำนวน 150 เล่ม เล่มละ 100 บาทและ 200 บาท
เขากล่าวว่าเขาเดินทางมายังหน้ารัฐสภาตั้งแต่ 4.00 น. และตำรวจได้เข้าทำการควบคุมตัวและเชิญตัวไปยัง สน.ดุสิตในเวลาประมาณ 10 นาฬิกาเศษ จุดประสงค์ในการมานั่งหน้ารัฐสภาครั้งนี้เพื่อทำการนำเสนอร่างรัฐธรรมนูญของเขา ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับวันที่ 10 ธ.ค.2475 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2489 และฉลาดได้นำมาปรับปรุงเพิ่มเติมอีกจนออกมาเป็นฉบับปัจจุบัน ซึ่งเขาได้ตีพิมพ์และนำมาจำหน่ายแก่ผู้สนใจด้วย จำนวน 150 เล่ม เล่มละ 100 บาทและ 200 บาท
“ผมเอาหนังสือรัฐธรรมนูญมาร้อยกว่าเล่ม ตำรวจเขาก็ตรวจกันเต็มกำลังเลยนึกว่าระเบิด” ฉลาดกล่าว
ฉลาดระบุว่า เหตุที่เขาถูกควบคุมตัวนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องมีการเตรียมพื้นที่เพื่อรับขบวนเสร็จ เมื่อนำตัวเขาไปยังสน.ดุสิต ตำรวจแจ้งว่าเขาทำผิดพ.ร.บ.รักษาความสะอาด แต่ท้ายที่สุดก็พูดคุยกันและไม่ได้ทำการปรับแต่อย่างใด จากนั้นตำรวจได้ขอให้เขากลับบ้านไปก่อน และมาใหม่ในวันจันทร์หน้า แต่ฉลาดยืนยันว่าจะไม่กลับบ้าน
“ผมลาลูกลาครอบครัวล่วงหน้าแล้วเป็นเดือน คงกลับไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อ จะขอนอนห้องขังที่โรงพักตำรวจเขาก็ไม่ให้นอน คิดว่าอาจต้องจาริกไปต่างจังหวัด” ฉลาดกล่าว
ฉลาดกล่าวว่า เหตุที่เขานำเสนอเรื่องร่างรัฐธรรมนูญเนื่องจากการแก้ไขปัญหาใดๆ นั้นล้วนเป็นปลายเหตุ หากมีโครงสร้างซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญที่เป็นเผด็จการ ความขัดแย้งนี้จะไม่จบ ต้องมีการยึดอำนาจ ต้องต่อสู้กันอีกและน่าจะรุนแรงขึ้นด้วยในอนาคต ตัวเขาเองนั้นอายุมากแล้วไม่อยากออกมาเคลื่อนไหวแล้ว แต่ที่ผ่านมาผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยไม่ได้ออกมานำเสนออะไรอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เขาจึงจำเป็นต้องออกมาเพื่อนำเสนอร่างรัฐธรรมนูญนี้ซึ่งเขายืนยันว่าเป็นฉบับประชาธิปไตยสมบูรณ์ เพื่อให้ประชาชนใช้เปรียบเทียบกับร่างปัจจุบันที่กำลังยกร่างกันอยู่
“มันเป็นความจำเป็นที่ต้องให้ประชาชนมีตัวเปรียบเทียบ เขาจะได้เห็นว่าร่างประชาธิปไตยกับร่างเผด็จการนั้นเป็นอย่างไร ร่างนี้เขียนมาตั้งแต่ยังเป็นส.ส.เมื่อ 30 ปีก่อนและเพิ่งมาบรรลุเป้าหมาย ผมจึงต้องการเผยแพร่สู่สาธารณะ มันเป็นเป็นร่างแก้ไขจากฉบับ 10 ธ.ค.2475 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2489 และผมได้ทำการแก้ไขอีกแต่เพียงโครงสร้างรูปแบบส่วนเนื้อหาสาระ ต้องให้ ส.ส. ส.ว. เขาว่ากันอีกที” ฉลาดกล่าว
ฉลาด ขณะอยู่ที่ สน.ดุสิต
เขายังยกตัวอย่างรายละเอียดในร่างรัฐธรรมนูญของเขาอีกว่า จะมีรัฐสภาแห่งชาติ ซึ่งเลือกตัวแทนจากแต่ละจังหวัด และสมาชิกรัฐสภานี้จะเป็นผู้เลือกตุลาการ คณะรัฐมนตรี และกฎษฎีกา
“หากตุลาการไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของตัวแทนประชาชน เราจะไม่มีทางได้รับความยุติธรรม” ฉลาดกล่าวและเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังจะต้องมีการกระจายอำนาจสู่รัฐสภาจังหวัด รัฐสภาตำบล รัฐสภาชุนชน ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาภาคใต้ได้ด้วย ที่สำคัญคือเรื่องรัฐสวัสดิการที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง
“ถ้าใช้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย 100% เราจะมีคนแค่สองชนชั้นเท่านั้น คือ คนชั้นกลางและคนชั้นสูง คนจนไม่มี เพราะรัฐธรรมนูญบังคับให้รัฐมีหลักประกันให้คนไทยมีปัจจัย 4 เท่าเทียมกันในเบื้องต้น เช่น สนับสนุนค่าครองชีพคนละ 15,000 บาท มีสวัสดิการรักษาพยาบาลฟรี ให้การศึกษาถึงระดับปริญญาตรีหลักสูตรนานาชาติ” ฉลาดกล่าว
เขากล่าวว่า ก่อนหน้านี้เขาได้เคยยื่นหนังสือถือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.แล้ว ในเรื่องแนวคิดรัฐธรรมนูญของเขา พร้อมแจ้งไว้ด้วยว่าจะทำการเปิดตัวในวันที่ 10 ธ.ค.ปีนี้ แต่ไม่มีหนังสือตอบกลับแต่อย่างใด ในหนังสือดังกล่าวเขายังระบุด้วยว่า หากคสช.ไม่เห็นด้วย ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ หรือเห็นว่าเขาเป็นภัยต่อความมั่นคง เขาก็ยินดีรับโทษตามข้อหา 112, 113, 114 และยินดีพิสูจน์ความจริงกันในกระบวนการยุติธรรมว่าใครกันแน่ที่ทำผิดมาตราดังกล่าว
“เอาผมไปติดคุกทหารก็ได้ อย่างน้อยมันก็เป็นประเด็นที่จะทำให้ประชาชนต้องสนใจเรื่องรัฐธรรมนูญ ผมเคลื่อนไหวและเจ็บปวดมาตลอดชีวิตทางการเมืองในการเรียกร้องเรื่องต่างๆ และตอนนี้ผมเรียกร้องกับประชาชนที่ต้องรวมตัวกัน แต่ดูสถานการณ์แล้วก็เป็นไปได้ยาก” ฉลาดกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น