วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คณะประกอบพิธีพราหมณ์เตือนเพื่อนระวังกลองระเบิดต้นเหตุ 'บางกอกแอร์เวย์' สั่งงดบิน


คณะประกอบพิธีพราหมณ์เตรียมไปตั้งศาลพระภูมิชัยมงคลที่ จ.ภูเก็ต เตือนเพื่อนร่วมคณะระวังกลองมันเฑาะระเบิด แอร์โฮสเตสหวั่นไม่ปลอดภัย แจ้งกัปตันพาผู้โดยสารลงจากเครื่องตรวจจะเอียด
 
21 ก.พ. 2559 เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่าศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศเขตสนามบินกรุงเทพ (ศก.) รายงานอากาศยานถูกขู่วางระเบิด โดยมีอากาศยานของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ BKP 924 แบบ A320 มีกำหนดเดินทางจากท่าอากาศสุวรรณภูมิไปท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสารจำนวน 157 คน จอดอยู่หลุมจอด A4 หอบังคับการบินสุวรรณภูมิ รับแจ้งจาก ทอท. ว่าสายการบินได้รับแจ้งถูกขู่วางระเบิดอากาศยานลำดังกล่าว ขอตรวจสอบ นำผู้โดยสาร และลูกเรือลงจากเครื่อง หลังจากนั้นจะทำการลากเครื่องไปยังหลุมจอดเฉพาะ บนทางขับสาย C ระหว่าง C8 - C9 เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด ภายหลังเจ้าหน้าที่คุมตัวนายวิชาฤทธิ์ นาเมืองรักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมเพื่อนชายอีก 3 คน และนายวิชาฤทธิ์ นาเมืองรักษ์ ผู้ช่วยพราหมณ์ สังกัดพระครูคนหนึ่งส่ง ร.ต.ท.ภูริต สวัสดิ์ราช พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยมีกัปตัน และแอร์โอศเตสของสายการบินดังกล่าวเข้าให้ปากคำ
 
จากการสอบสวนนายวิชาฤทธิ์ ระบุว่าตนพร้อมคณะเพื่อน และนายวิชาฤทธิ์ ถูกติดต่อว่าจ้างให้ไปตั้งศาลพระภูมิชัยมงคลที่ จ.ภูเก็ต มีกำหนดไปค้าง 1 คืน เพื่อประกอบพิธีพราหมณ์ในวันพรุ่งนี้เช้า โดยมีสัมภาระที่ถือติดตัวไปด้วยขณะขึ้นเครื่อง ประกอบด้วยสังข์เป่า 2 องค์ สังข์รดน้ำ 1 องค์ แป้งเจิมหน้าผาก แผ่นทอง และสีผึ้งใส่ไว้ในกระเป๋าอลูมิเนียม 4 เหลี่ยม ส่วนกลองมันเฑาะ (กลองพราหมณ์) ถือไปต่างหาก โดยขณะเดินขึ้นเครื่องเพื่อหาที่นั่งจนพบ โดยมีนายศักดิ์ดา แตงไทย อายุ 50 ปี ชาว กทม.เป็นคนถือสัมภาระทั้งหมด และได้นำขึ้นไปไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ เพื่อความเรียบร้อยตามคำแนะนำของแอร์โฮสเตส แต่ตนเกรงว่าจะเกิดการเสียหาย เพราะกลองมีสองหน้า อีกหน้าหนึ่งนั้นชำรุดอยู่ จึงเอ่ยขึ้นว่า"ระวังสิจะระเบิด" เมื่อแอร์โฮสเตสที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดดังกล่าวจึงเดินมาต่อว่า "ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดเล่น" จากนั้นก็เดินไปบอกกัปตัน และรอให้ผู้โดยสารทั้งหมดขึ้นเครื่องจนครบทุกคน ก่อนจะประกาศออกมาว่า "เครื่องบินเกิดขัดข้อง" จะนำเข้าตรวจสอบ ส่วนตนและทีมงานพร้อมพราหมณ์ถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบปากคำดังกล่าว
 
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว ทางตำรวจต้องสอบปากคำทั้งหมดโดยละเอียด ซึ่งจะต้องดูว่าเป็นการแจ้งข้อความที่ส่งข่าวสาร ซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเท็จและการนั้นเป็นเหตุที่น่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตกใจกลัวตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 หรือไม่
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น