วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ยูเอ็นเรียกร้องยุติข้อหา-ปล่อยนักกิจกรรมกรณีประชามติ รธน.


19 ส.ค. 2559 ราวีนา ชัมดาซานี โฆษกข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการจำกัดพื้นที่ประชาธิปไตยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย พร้อมเรียกร้องให้กลับสู่หลักการของพลเมืองโดยทันที
แถลงการณ์ระบุว่า นับแต่รัฐประหาร เมื่อเดือนพ.ค. 2557 มีข้อจำกัดร้ายแรงต่อเสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความเห็นรวมถึงเสรีภาพในการรวมตัว ผ่านการใช้กฎหมายและคำสั่งทางอาญาและของกองทัพ
จนถึงประชามติรัฐธรรมนูญในเดือนนี้ มาตรการเหล่านี้ก็เพิ่มสูงขึ้น รวมแล้ว มีคนไม่ต่ำกว่า 1,300 คนถูกเรียกรายงานตัว ถูกจับ หรือถูกตั้งข้อหา และมีพลเมือง 1,629 รายต้องขึ้นศาลทหาร
ตั้งแต่มิ.ย. มีประชาชนอย่างน้อย 115 คนถูกจับกุมหรือตั้งข้อหาตามคำสั่งของกองทัพ กฎหมายอาญา และพ.ร.บ.ประชามติ จากการแสดงออกซึ่งความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญ หรือจากการรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการทรมาน
มีคน 12 คนถูกจับที่เชียงใหม่ เมื่อปลายเดือนก.ค. และมีนักกิจกรรมนักศึกษาถูกจับกุม เมื่อ 6 ส.ค. ยังคงถูกควบคุมตัว ทั้งนี้ มีบางส่วนถูกปล่อยตัวแต่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนหรือถูกตั้งข้อหา
"เราเรียกร้องให้ประเทศไทยยุติการตั้งข้อหาต่อนักกิจกรรมทางการเมืองและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนโดยทันที รวมถึงปล่อยผู้เห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกคุมขังด้วย" แถลงการณ์ระบุและเรียกร้องต่อทางการไทยให้หยุดการใช้ศาลทหารและคำสั่งของกองทัพต่อพลเรือน โดยชี้ว่ามาตรการเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสำหรับประเทศไทย เพื่อที่ก้าวไปสู่การเลือกตั้งในปี 2560 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมา ตามโรดแมปของรัฐบาลทหารเอง

"การเลือกตั้งในปีหน้าเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่จะตอบสนองคำมั่นสัญญาที่ประเทศไทยได้ให้ไว้ต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในช่วงที่มีการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (ยูพีอาร์) เมื่อเดือน พ.ค. 2559 ว่าจะเคารพเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงรับประกันว่าจะมีกระบวนการมีส่วนร่วมที่นับรวมคนทุกกลุ่ม รวมถึงพรรคการเมือง ภาคประชาสังคม และสื่อ ในสภาวะที่เปิดกว้างและปราศจากการคุกคาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น