วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ครม.เห็นชอบ 'ช้อปช่วยชาติ' ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 1.5 หมื่น เริ่ม 14-31 ธ.ค.นี้


13 ธ.ค. 2559 กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในโค้งสุดท้ายปลายปี หวังส่งเสริมการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า ของขวัญ สินค้าจำเป็นทั่วไป โดยไม่รวมถึงการซื้อสุรา ยาสูบ เบียร์ ไวน์ น้ำมัน รถยนต์ ตลอดจนค่าใช้จ่ายเรื่องทัวร์ มัคคุเทศน์ ที่พักโรงแรม เนื่องจากมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปแล้วสัปดาห์ที่ผ่านมา  มาตรการดังกล่าวกำหนดให้เริ่มระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค. 59 ระยะเวลา 18 วัน จากปี 58 กำหนดให้ช้อปเพียง 7 วันช่วงปลายปี  ด้วยการนำใบเสร็จภาษีมูลค่าที่เป็นค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกิน 15,000 บาทต่อราย สำหรับการยื่นแบบภาษีประจำปี 59  โดยยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีในเดือน ม.ค.-มี.ค. 60
แม้คาดว่ารัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณ 3,200 ล้านบาท  แต่คาดว่าจะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบถึง 2 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายผู้ช้อปสินค้าตามนโยบายรัฐบาล 2 ล้านราย  จึงมีส่วนช่วยขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศได้ร้อยละ 0.2  เกิดการจ้างงาน การเพิ่มยอดขายสินค้า ช่วยลดภาระภาษีให้กับประชาชน และดึงเอกชนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น จากมากตรการช้อปช่วยชาติในปี 58 มีผู้ซื้อสินค้า 1 ล้านราย ส่งผลต่อรัฐเสียรายได้ 1,200 ล้านบาท มียอดซื้อสินค้า 10,000 ล้านบาท
กอบศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติและรับทราบ ร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ซึ่งได้คับใช้มาแล้ว 20 ปี  และได้มีการแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นเพื่อคุ้มครองผู้เอาประกัน บริษัทเอกชนจากการฉ้อฉล การใช้ระบบออนไลน์ขายประกัน จึงต้องแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม เช่น ป้องการฉ้อฉล จากการหลอกลวงทำประกันชีวิต ประกันวินาศภัย ชาวบ้านจ่ายเบี้ยประกันแต่ตัวแทนไม่ได้ส่งเงินชำระให้กับบริษัทประกัน จึงถือว่าเป็นการหลอกหลวง  รวมทั้งการสร้างเอกสารหลักฐานเท็จ เพื่อเบิกสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันในการเรียกรับผลประโยชน์ เช่น ไม่ได้ป่วย แต่นำหลักฐานยา การรักษามาเบิกเงินประกัน  และการแก้ไขเกี่ยวกับการทำหลักฐานจากตัวแทนนายหน้า เพื่อรับสินไหมแล้วนำเงินมาแบ่งกับผู้เอาประกันถือว่ามีวามผิด โดยความผิดดังกล่าวในระบบประกันที่ผ่านมาถือว่าการยอมความ เมื่อชดเชยเงินคืนให้ถือว่าคดีส้ินสุดลง แต่ได้แก้ไขให้เจ้าพนักงาน คปภ.เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดี แม้จะมีการยอมความ เพื่อไม่ให้เอาเป็นแบบอย่างหรือมีคดีเกิดขึ้นอีก
สำหรับสาระสำคัญ ร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่าง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติประกัน วินาศภัย พ.ศ. 2535 ให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของธุรกิจ เหมาะสมกับสภาวการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันโดยปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติในการกำกับดูแลตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต ผู้ประเมินวินาศภัย ตัวแทนประกันวินาศภัย และนายหน้าประกันวินาศภัย ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำกับการทำธุรกิจประกันภัยผ่านเทคโนโลยี ตลอดจนเพิ่มเติมบทบัญญัติเพื่อคุ้มครองประชาชนจากการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีความมั่นใจในการใช้ธุรกิจประกันภัยในการบริหารความเสี่ยงของตน เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการทำประกันภัยที่สามารถสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิต รวมถึงช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ 

อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ

ครม. ยังมีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 17  พ.ย. 2559 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลใช้บังคับต่อไป โดยสาระสำคัญของเรื่อง กระทรวงแรงงาน รายงานว่า  คณะอนุกรรมการอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ ได้ดำเนินการจัดทำอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  3 กลุ่มอุตสาหกรรม 12 สาขาอาชีพ  โดยพิจารณาข้อมูลผลการสำรวจ ลักษณะการทำงานการจ่ายค่าจ้างจริงในตลาดแรงงาน  และความสามารถในการจ่าย รวมถึงความเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนา รับฟังความคิดเห็น (ร่าง) อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ  เมื่อวันที่  6 ก.ย.2559 แล้ว  และมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือเพื่อคุ้มครองลูกจ้างที่ผ่านกา ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในแต่ละสาขาอาชีพและแต่ระดับ  ให้ได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมและเป็นธรรม ดังนี้
 
กลุ่มอุตสาหกรรม/สาขาอาชีพ
อัตราค่าจ้างไม่น้อยกว่าวันละ (บาท)
ระดับที่ 1*
ระดับที่ 2 **
ส่วนต่าง
จักรกลและโลหะการ



1.  ช่างเทคนิคเขียนแบบเครื่องกล
460
550
90
2. ช่างเชื่อมทิกสำหรับอุตสาหกรรมจักรกลและโลหะการ
500
600
100
3.  ช่างเทคนิคระบบส่งกำลัง
450
540
90
4.  ช่างเทคนิคระบบไฮโดรลิก
460
550
90
เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น



1. ช่างเชื่อมระบบท่อในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น
400
485
85
2. ช่างเทคนิคเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่
385
470
85
3.  ช่างเทคนิคห้องเย็นขนาดเล็ก
385
470
85
4. พนักงานประกอบเครื่องปรับอากาศ
370
455
85
ม่พิมพ์



1.   ช่างเทคนิคเครื่องกัดอัตโนมัติ
450
540
90
2.  ช่างเทคนิคเครื่องอีดีเอ็ม
430
515
85
3.  ช่างเทคนิคเครื่องไวร์คัทอีดีเอ็ม
430
515
85
4.  ช่างขัดเงาแม่พิมพ์
380
455
75
 
*มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 1 ผู้เข้ารับการทดสอบต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์  นับถึงวันสมัครเข้ารับการทดสอบ  และมีประสบการณ์การทำงานหรือประกอบอาชีพเกี่ยวกับสาขาอาชีพ  ตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของแต่ละสาขาอาชีพ   หรือผ่านการฝึกฝีมือแรงงานหรือฝึกอาชีพในสาขาอาชีพตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของแต่ละสาขาอาชีพและมีประสบการณ์จากการฝึกหรือปฏิบัติงานในกิจการในสาขาที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติของแต่ละสาขาอาชีพ หรือเป็นผู้ที่จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้อง
** มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ  ระดับ 2 ผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องมีประสบการณ์การทำงานหรือประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 1 ปี  หรือ 2 ปี  ในบางสาขาอาชีพ นับตั้งแต่ได้รับหนังสือรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติระดับ 1  หรือได้คะแนนรวมในการทดสอบระดับ 1 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 สามารถเข้ารับการทดสอบได้ทันที โดยไม่ต้องรอระยะเวลา 1ปี
ทั้งนี้  ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป  โดยอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือตามประกาศฉบับนี้ไม่มีผลบังคับใช้กับราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค   ราชการส่วนท้องถิ่น  รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  นายจ้างที่จ้างลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย นายจ้างซึ่งลูกจ้างทำงานที่มิได้แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ นายจ้างที่จ้างลูกจ้างในงานบรรทุกหรือขนถ่ายสินค้าเรือเดินทะเล  นายจ้างที่ตกลงจ้างผู้รับงานไปทำที่บ้าน นายจ้าง  ที่จ้างลูกจ้างในงานเกษตรกรรมซึ่งมิได้จ้างลูกจ้างทำงานตลอดปี หรือมิได้ให้ลูกจ้างทำงานในลักษณะที่เป็นงานอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากงานเกษตรกรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น