วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

พยานโจทก์ไม่มา ศาลทหารเลื่อนสืบคดี ม.112 ‘รุ่งศิลา’ ทนายเผยไม่ได้ประกันมา 3 ปี 4 เดือนแล้ว




Published on Wed, 2017-11-15 17:53


ศาลทหารเลื่อนสืบพยาน คดี ม.112 ‘รุ่งศิลา' ไป 28 พ.ย.นี้ เหตุพยานโจทก์ซึ่งเป็นประชาชนที่ไปให้ความเห็นไม่มาศาล ทนายเผยจำเลยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว-คุมขังมา 3 ปี 4 เดือนแล้ว ชี้เหมือนบีบให้รับสารภาพ แถมหาพยานหลักฐานสู้คดีลำบาก

15 พ.ย. 2560 วันนี้ ศาลทหารกรุงเทพ นัดสืบพยานโจทก์ ในคดีที่ สิรภพ (สงวนนามสกุล) หรือ รุ่งศิลา (นามปากกา) ตกเป็นจำเลย จากการถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือหมิ่นประมาทกษัตริย์ เหตุเขียนบทกวีและเผยแพร่บทความในเว็บไซต์

อานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งรับผิดชอบในดคีนี้ ให้สัมภาษณ์ประชาไทว่า คดีนี้สืบพยานโจทก์เสร็จไปเพียงปากเดียว คือ ตำรวจผู้กล่าวหา ส่วนปากที่ 2 ซึ่งเป็นประชาชนที่ไปให้ความเห็นนั้นยังค้างคาอยู่ และเลื่อนมา ซึ่งวันนี้ เขาก็ไม่มา ศาลจึงเลือนสืบพยานใหม่เป็นวันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่ง สิรภพ โดนฟ้องคดี ม.112 จำนวน 3 กระทง โดยที่กระทงหนึ่งมาจากการโพสต์ถึงทายาทและรากเหง้าของกบฎบวรเดช


อานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิรภพไม่ได้รับสิทธิประกันตัวและอยู่ในเรือนจำกว่า 3 ปี 4 เดือนแล้ว ตั้งแต่หลังรัฐประหารไม่นาน และเพิ่งสืบพยานไปได้แค่เพียงปากครึ่งเท่านั้นเอง จากพยานของโจทก์ราว 6-7 ปากซึ่งอีกนานกว่าจะเสร็จ ขณะที่พยานจำเลย คือ สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ (นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์) ที่ยังไม่ได้เบิกความเลยก็เพิ่งเสียชีวิตไปแล้ว
สำหรับการไม่ได้รับสิทธิประกันตัว อานนท์ ในฐานะทนายจำเลย กล่าวว่า สภาพในเรือนจำตอนนี้ก็เหมือนการบีบบังคับ เมื่อจำเลยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวก็เหมือนบีบให้รับสารภาพ แต่สำหรับคดีนี้จำเลยใจแข็ง พยายามสู้คดีว่าไม่ได้ทำผิด นอกจากนี้ ยังทำให้โอกาสที่จำเลยจะหาพยานหลักฐานในการสู้คดีก็ลำบาก เพราะบางเรื่องบอกผ่านทนาย ทนายเองก็อาจไม่ทราบเรื่อง การสอบข้อเท็จจริงของทนายกับจำเลยที่อยู่ในเรือนจำก็ลำบาก

อานนท์ กล่าวด้วยว่า คดีนี้เคยยื่นประกันตัวหลายครั้งแล้ว โดยวางหลักทรัพย์ถึง 5 แสนบาท แต่ก็ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากสิรภพถูกดำเนินคดีนี้แล้ว เขายังถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 44/2557 ไม่ไปรายงานตัวด้วย โดยในคดีนั้น เมื่อ พ.ย. 2559 ศาลทหารพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 18,000 บาท แต่มีเหตุให้ลดโทษเนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้หนึ่งในสามเหลือโทษจำคุก 8 เดือน ปรับ 12,000 บาท เนื่องจากจำเลยไม่เคยจำคุกมาก่อนจึงให้รอการลงโทษ 2 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น