วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เสื้อแดงมุกดาหารได้ประกันเพิ่มอีก2ราย

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
24 กุมภาพันธ์ 2554
http://thaienews.blogspot.com/index.html
แม้ว่าแกนนำนปช. 7 รายได้ถูกปล่อยตัวออกมาแล้วจากการให้ประกันตัว แต่นักโทษเสื้อแดงในคุกอีกหลายร้อยคนยังรอคอยอิสรภาพอยู่ ดังนั้นความพยายามเคลื่อนไหวจะประกันตัวพี่น้องเหล่านี้ออกจากคุกยังคงดำเนินไป โดยการพึ่งพาตนเองเป็นหลักของคนเสื้อแดง

กิจกรรมจัดแข่งขันกอล์ฟหาทุนในชื่อGolf4Freedomเพื่อหาทุนให้สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์ของทนายอานนท์ นำภา เพื่อเป็นทุนสู้คดีประกันตัวนักโทษเสื้อแดงออกจากคุกเป็น 1 ในกิจกรรมดังกล่าว หลังจากทนายอานนท์ประสบความสำเร็จในการยื่นขอประกันตัวนักโทษการเมืองที่ไม่ใช่แกนนำมาแล้วนับสิบรายก่อนหน้านี้

โดยมีค่าธรรมเนียม ค่ากรีนฟี ค่าแค็ดดี้ รวมอาหารเย็น ก๊วน VIP 15,000 บาท/ก๊วน ก๊วนทั่วไป 12,500 บาท/ก๊วน ซึ่งราคานี้นับว่าถูกมากๆหากเทียบกับการจัดกอล์ฟการกุศลทั่วไปที่จะขายก๊วนละขั้นต่ำ25,000-50,000บาท ก๊วนละ 5 ท่าน(กรณีไม่มีก๊วน หรือไม่ครบก๊วน เพียงท่านละ 2,500 บาท ผู้จัดจะจัดหาให้ครบก๊วน ล้วนแต่พี่น้องเรา จะได้รู้จักผูกไมตรีกันไว้

วิธีสำรองการเข้าร่วมงาน หรือสอบถามการร่วมงาน-ติดต่อ "คุณปุ้ย" วัชราภรณ์ หวลธรรม ผู้ประสานงานโครงการ ติดต่อ: โทรศัพท์มือถือ 082-6301700 หรืออีเมล์ hwacharaporn@yahoo.com และ freeprisonproject@gmail.com

วิธีชำระเงิน-โอนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผ่านชื่อบัญชี วัชราภรณ์ หวลธรรม ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเมืองทองธานีเซ็นเตอร์ 2 เลขที่บัญชี402-293346-1 จากนั้นแจ้งการโอนมาที่อีเมล์ หรือทางมือถือคุณปุ้ย เพื่อยืนยัน

ทนายอานนท์เผยนักโทษเสื้อแดงมุกดาหารได้ประกันเพิ่มอีก2ราย

เวบไซต์ สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์ของทนายอานนท์ นำภา ได้รายงานข่าวว่า

สมัคร ลุณริลา กับท่าดีใจที่ได้อิสรภาพหลังถูกขังมานาน 9 เดือน

เมื่อวานนี้ศาลจังหวัดมุกดาหารได้ให้ประกันตัวผู้ต้องขังเสื้อแดงเพิ่มอีก ๒ ราย คือ นายสมัคร ลุนริลา และนาย ทองดี ชาธิพา จำเลยคดีต้องหาเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาการ ซึ่งทั้งสองป่วยด้วยอาการทางจิตอย่างหนัก พยายามฆ่าตัวตาย ที่ผ่านมาสามารถทำเรื่องประกันตัวได้แล้ว 11 ราย โดยให้เหตุผลหลักเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางจิตของผู้ต้องขังที่พยายามฆ่าตัวตายหลายราย

แต่ที่มุกดาหารก็ยังเหลือผู้ต้องขังติดคุกอยู่อีก ๙ คนในเรือนจำมุกดาหาร ถึงวันนี้ จำเลยยังคงยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดดังที่ถูกกล่าวหา

"ขอรณรงค์เรียกร้อง ให้ คุณทักษิณ พรรคเพื่อไทย บ้านเลขที่111 แกนนำ นปช. และคนเสื้อแดงทุกคนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เร่งรีบช่วยเหลือ คนเสื้อแดง ทุกๆคนที่ต้องโทษในเรือนจำ ด้วยการยื่นมือประกันตัว อีกทั้ง ยื่นมือช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและคนเสื้อแดงที่ต้องหลบหนี ในที่ต่างๆ ในทุกกรณีครับ"ทนายอานนท์ระบุในเวบไซต์สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

นางธิดา โตจิราการ รักษาการประธานนปช แถลงว่า ต้องอย่าลืมว่านอกจากแกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ยังมีคนที่ถูกจับกุมตัวอีก 100 กว่าคน ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คนเสื้อแดงเท่าเทียมกันทุกคน ฉะนั้นจึงจะรณรงค์ให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังทุกคน โดยในวันที่ 12 มี.ค.จะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลปล่อยตัวคนเสื้อแดงทั้งหมด

นายจตุพร แถลงต่อว่า การชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค.นี้ จะงดการดาวกระจายไปในสถานที่ต่างๆ และจะรวม กันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเท่านั้น แต่ในต่างจังหวัดคือ อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี มหาสารคาม และเรือนจำคลองเปรมนั้น ต่อไปจะมีการกำหนดเพื่อจะมีการเคลื่อนไหวไปที่ศาลของทุกจังหวัดเพื่อขอเศษ เสี้ยวความยุติธรรมให้คนที่ถูกคุมขัง และนอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าช่วงที่มีคนจะเผาศาลากลางนั้นมีอส.ไปห้าม แต่ถูกทหารใช้ปืนจ่อหัวอส.ไม่ให้ขัดขวางคนที่จะมาเผา ซึ่งสอดคล้องกับการเผาเซ็นทรัล เวิลด์ และเรื่องนี้จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย

มาร์คแหลกลางสภารัฐบาลพยายามช่วยแต่แกนนำนปช.ละเลย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมสภาฯวันนี้ว่า รัฐบาลไม้ได้ละเลยคนเสื้อแดงที่ติดคุก แต่คนละเลยคือแกนนำเสื้อแดงเองเพราะไปช่วยแต่แกนนำ ทำให้รัฐบาลต้องตามไปดูแลแนวร่วมนปช.ที่ติดคุกอยู่ โดยมีมติครม.ออกมาและให้เจ้าหน้าที่ตามไปให้ความช่วยเหลือ ได้ประกันตัวออกมาแล้วหลายคนในเวลานี้


ญาติคนเสื้อแดงทวงสัญญาประกัน104นักโทษการเมือง หลังครม.อนุมัติแล้วส่อแววเบี้ยวโดนขังลืม





ภาพล่าง) แม่ของผู้ต้องขังเสื้อแดงจังหวัดอุดรธานี ซ่อนหน้าหลังแผ่นป้ายรณรงค์กำลังซับน้ำตาขณะมาเรียกร้องการประกันให้กับลูกชายที่กระทรวงยุติธรรม 

บุกกรมคุ้มครองสิทธิฯ ร้อง 9 เดือนแล้ว ลูก-ผัวเสื้อแดงยังไม่ได้ประกันตัว

ก่อนหน้านี้เวบไซต์ประชาไท รายงานว่า เมื่อวันที่15 ก.พ.54 ที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายญาติผู้ต้องขังเสื้อแดงราว 50 คน พร้อมด้วยนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เข้ายื่นหนังสือและร้องเรียนกรณีที่ญาติพี่น้อง-สามี-ลูก ซึ่งเป็นคนเสื้อแดงยังถูกคุมขังอยู่ตามเรือนจำจังหวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมหาสารคาม อุบลราชธานี อุดรธานี มุกดาหาร มหาสารคาม ขอนแก่น เชียงใหม่ โดยไม่สามารถประกันตัวได้

ทั้งนี้ นายสมชาติ เอี่ยมอนุพงษ์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิได้ลงมารับหนังสือ ซึ่งในหนังสือร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.53 ครม.มีมติยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พร้อมทั้งเห็นชอบให้มีการช่วยเหลือประกันตัวให้แก่ผู้ต้องขังคดีชุมนุมทางการเมือง 104 คน ตามที่คณะกรรมการที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธานเสนอมา แต่ถึงปัจจุบันกว่า 9 เดือนแล้วแต่ญาติพี่น้องของพวกเขาก็อยู่ในเรือนจำ จึงขอเรียกร้องให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ประสานงานตามศาลจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ญาติได้ประกันตัว พร้อมช่วยเหลือหลักทรัพย์ และขอให้เปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกขังในเรือนจำทั่วประเทศในคดีการเมืองด้วย

จากนั้นได้มีการเชิญชาวบ้านทั้งหมดไปร่วมหารือร่วมกับรองอธิบดีและ นางนงกรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ผอ.กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ

นางนงกรณ์ ชี้แจงว่า กรณีที่ชาวบ้านเข้าใจว่ามติครม.ให้ประกัน 104 รายตามที่นายคณิต ณ นคร เสนอนั้น อันที่จริงแล้วมติครม.ระบุให้ดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไปหาหลักเกณฑ์และแนวทางในการประกันตัวมา แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะทำหนังสือทวงถามให้

ด้านญาติของผู้ต้องขังระบุว่า ขณะนี้เรือนจำจังหวัดอุดรธานี ยังมีผู้ต้องขังประกันตัวไม่ได้ 27 คน อุบลราชธานี 21 คน มุกดาหาร 12 คน มหาสารคาม 9 คน ขอนแก่น 4 คน เชียงใหม่ 4 คน ซึ่งเกือบทั้งหมดยื่นประกันตัวหลายครั้งแต่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนการลงไปช่วยเหลือของกรมคุ้มครองสิทธิฯ นั้น หลายครั้งไปโดยไม่ประสานงานกับญาติและทนาย ไม่ทราบข้อมูล ทำให้การยื่นประกันได้รับการปฏิเสธ

นางศิรินารถ จันทะคัต ตัวแทนญาติจากจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลแสดงความจริงใจด้วยการช่วยเหลือผู้ต้องขังอย่างที่พูด โดยยกตัวอย่างความยากลำบากของครอบครัวจันปัญญา หลังจากนายสุชล จันปัญญา นักศึกษาเทคนิคชั้น ปวส.1 ถูกคุมขัง ทำให้พ่อที่เป็นอัมพาตและมารดาที่อายุมากอยู่อย่างยากลำบาก เพราะปกตินายสุชลจะเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวและทำงานเป็นลูกจ้างร้านถ่ายเอกสารส่งเสียตัวเองเรียน ในวันเกิดเหตุนายสุชลเข้าไปยืนดู ตำรวจใช้ภาพถ่ายที่เป็นเพียงการยืนมุงเป็นหลักฐาน โดยที่ขวดน้ำมันที่กล่าวอ้างว่าเป็นของนายสุชลก็ไม่มีการพิสูจน์ลายนิ้วมือ

ส่วนนางวาสนา ลิลา จากจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า สามีถูกคุมขังมานานหลายเดือนจะมีอาการเครียด เกรงว่าจะคิดสั้นในเรือนจำ สามีโดนข้อหาร่วมกันวางเพลิง ทั้งที่ในวันเกิดเหตุเขาไปซื้ออะไหล่รถและแวะมาดูลูกคนเล็กที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุจึงแวะดู ต่อมาตำรวจนำภาพถ่ายมาให้เซ็นชื่อโดยบอกว่าหากลงชื่อวันรุ่งขึ้นก็สามารถประกันตัวได้ แต่ท้ายที่สุดก็ถูกคุมขังมาจนปัจจุบันไม่สามารถประกันตัวได้ ทำให้ตนลำบากมากเพราะต้องเลี้ยงดูลูกเล็ก 2 คนเพียงลำพัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น