วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


ดร.สุเมธถามสื่อนอกตีข่าว"กษัตริย์ไทย"รวยสุดในโลกเจตนาอะไร ยันทรัพย์สินไม่ใช่ของพระองค์ ตอกฝรั่งก็โง่

http://thaienews.blogspot.com/2011/02/blog-post_9548.html



มติชนออนไลน์รายงานว่า ที่งานวันเกี่ยวข้าวธรรมศาสตร์ (ปีที่ 5) ณ แปลงนา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวที่เว็บไซต์แวนคูเวอร์ซัน ของประเทศแคนาดา รายงานพระมหากษัตริย์ไทยครองอันดับหนึ่งผู้นำที่รวยที่สุดในโลก ว่า คนที่ไปแพร่ข่าวอะไรต่ออะไร ถามจริงๆ มีเจตนาอะไรหรือเปล่า เจตนาของสื่อคืออะไร ตนอยากตั้งคำถามกลับไปด้วย ถ้ารายงานด้วยความปกติก็ไม่มีปัญหาอะไร เข้าใจข้อมูลที่ได้รับไหมว่า คืออะไร เพราะฝรั่งบางทีอย่าคิดว่าฉลาดเสมอไป ฝรั่งโง่กันก็เยอะ

"ผมก็เรียนจบเมืองนอกมาก็โง่เหมือนกัน คำว่าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (The Crown Property Bureau) น่ะมันคืออะไร ถ้าจะดูว่าท่านรวยจริงหรือไม่จริง ต้องดูที่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ อันนั้นใช่ของพระองค์จริงๆ เขาสืบทอดกันมาอย่างไร เหมือนอย่างเราสมบัติตกทอดมาถึงลูกถึงหลาน อันนั้นล่ะใช่ แต่ทำให้มันยุ่งปนเปกันหมด"

"ของหลวง หมายความว่า ของรัฐ แต่ฝรั่งมาเห็นตราเข้าก็ตาย (ล่ะ) ของพระเจ้าแผ่นดิน แน่นอนที่สุด จริงๆ กระทรวงการคลังดูแล ประธานของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นั่นคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ใช่สมบัติของพระองค์ มันเป็นของสถาบัน มีการตั้งคณะกรรมการ มีอะไรต่างๆ อย่างนี้ขยายความหรือเปล่า แพร่ไปอย่างนี้ หลายคนก็มันส์มือล่ะ พูด เขียนไปต่างๆ นานา รู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ทรัพย์สินส่วนพระองค์อันนี้ของท่าน แล้วไปดูสิบ้านช่อง (วัง) ของท่าน อย่าว่าแต่มหาเศรษฐีต่างประเทศเลย มหาเศรษฐีในเมืองไทยรวยกว่าท่านเยอะ แล้วบอกรวยที่สุดในโลกได้อย่างไร สติไม่ดี" ดร.สุเมธกล่าว

เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนากล่าวว่า จากที่ตนได้มีโอกาสถวายงานส่วนพระองค์ ก็เห็นอยู่ว่าทรงใช้จ่ายน้อยที่สุด แล้วเวลาพูดถึงเรื่องประหยัด อะไรต่ออะไร เราก็นึกและพูดถึงท่านกันทุกที

"ในมุมกลับนี่ก็แปลกนะ กับข่าวที่บอกรวยที่สุด ดูชีวิตพระองค์ท่านสิ ท่านอยู่วังเล็กๆ ใช้ของประหยัด กลายเป็นต้นแบบความพอเพียง ข่าวสองข่าวมันขัดกันในตัวเองอยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องฝากสื่อไปเหมือนกัน สื่อเข้าใจบทบาทของตัวเองผิด ข่าวเป็นอย่างนี้ อย่างนั้นก็สื่อกันไป ในเมืองไทยข้อมูลก็รู้อยู่แก่ใจ ตนไม่เชื่อว่าสื่อเป็นคนโง่ เพราะถ้าโง่จะเป็นสื่อมวลชนไม่ได้"

ส่วนกรณีที่ปัจจุบัน มีคนนำเรื่องสถาบันมาพูดวิพากษ์วิจารณ์ตามที่สาธารณะมากขึ้น โดยเฉพาะกับทางสังคมออนไลน์ อย่างเช่นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์กันอย่างเปิดเผยและโจ่งแจ้งมากขึ้นนั้น ดร.สุเมธกล่าวว่า "ไอ้พวกนี้มีตัวตนที่ไหน อยากด่าใครก็ด่า เพราะฉะนั้น ในโลกออนไลน์จะสื่ออะไรก็ได้ทั้งนั้น ขืนเราเอามาเป็นสาระ ผมว่ารกสมอง"

เมื่อถามว่า ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุดเมื่อไหร่ ดร.สุเมธกล่าวว่า เมื่อสองเดือนที่แล้ว ท่านก็ทรงพระเกษมสำราญดี แต่อาจจะมีพระอาการของหลังที่ยังคงไม่ปกติ ทำให้พระราชดำเนินไม่สะดวก แต่ท่านก็ยังทรงงานอยู่ตลอด มิเคยได้หยุด เรื่องน้ำ ดิน อากาศ และทุกข์สุขของประชาชน

*********
ข่าวเกี่ยวเนื่อง:

-สนง.ทรัพย์สินฯ:คนมองว่าพระเจ้าอยู่หัวมีที่ดินมากมายทำไมไม่เอามาแจกคนจน นั่นเพราะเข้าใจผิด 

-สื่อแคนาดารายงานพระมหากษัตริย์ไทย ติดอันดับ 1 ผู้นำรวยที่สุดในโลก

-Forbesเทิดพระเกียรติในหลวงเป็นกษัตริย์มั่งคั่งที่1ของโลก3ปีซ้อน 

-Bloomberg:กษัตริย์ไทยครองแชมป์อันดับ1ในตลาดหุ้นไทย

-Bloomberg:การเปลี่ยนผ่านรัชกาลไม่ได้สร้างความกังวลให้เซียนหุ้นต่างชาติหยุดชะงักการลงทุนเล่นหุ้นในประเทศไทย

-สมเด็จพระเทพฯเสด็จเปิดโรงแรมสยามเคมปินสกี้ ซึ่งสำนักงานทร้พย์สินฯเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

-รัฐมนตรีอินเดียเผยราชวงศ์ดูไบกับไทยสานพระราชไมตรีเล็งร่วมลงทุนสวนสนุก2แสนล้านรูปี 

-กระทรวงต่างประเทศชี้แจงกรณี:บทความพิเศษของนิตยสาร Forbes เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุด 

-สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สมบัติของใคร? : รัฐ หรือ กษัตริย์

ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล:ว่าด้วยการ"นิยาม"และการปฏิบัติบางประการเรื่อง "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ในบทความนี้ดร.สมศักดิ์ชี้ว่า
"พรบ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2491 ยกอำนาจในการควบคุม "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กลับไปให้พระมหากษัตริย์ ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการยกเลิกการแยกแยะว่า "อันไหนเป็นส่วนพระองค์ อันไหนเป็นส่วนพระมหากษัตริย์" นั่นคือ ทำให้ "ทรัพยสินส่วนพระมหากษัตริย์" มีฐานะเป็นเหมือนทรัพย์สินส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ไป ไม่ใช่ทรัพย์สินของรัฐ (ถ้าเป็นของรัฐ จะต้องให้รัฐจัดการ และในเมือรัฐเป็นรัฐประชาธิปไตย การจัดการนั้น ก็ต้องอยู่ภายใต้ accountability เช่นเดียวกับส่วนอื่นๆของรัฐ)


-สุเมธ นายกสภามหาวิทยาลัยภูมิใจคือย้ายธรรมศาสตร์พ้นท่าพระจันทร์:มหาลัยใหญ่โตเหวย! มืดจริงหนอสถาบันอันกว้างขวาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น