http://www.internetfreedom.us/thread-12087.html
“เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงปลายยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์”
...
อยู่มาวันหนึ่ง หลวงสรศักดิ์เข้าไปในพระราชวัง
มิได้ไปฟังราชการ ณ ตึกพระเจ้าเหา และไปนั่งอยู่ ณ ทิมดาบ
จึงเห็น “สมิงพะตบะ” ผู้เฒ่า ก็เรียกให้เข้ามานั่งในที่นั้น และสนทนาด้วยกัน
แล้วจึงถามสมิงพะตบะว่า “อย่างธรรมเนียมรามัญประเทศ ถ้า xxxxxxxxxxxx
ทรงพระประชวนหนัก จะถึงการทิวงคต และพระราชบุตร, พระราชนัดดา, วงศ์ษานุวงษ์
และเสนาบดีจะคิดเอา xxxxxxxxxxxx จะทำอย่างไร”
จึงสมิงพะตบะ ก็บอกว่า “อย่างธรรมเนียมข้างรามัญประเทศ ถ้า xxxxxxxxxxxx ประชวนหนัก
และผู้ใดคิดจะเอาราชสมบัตินั้น ก็เร่งจัดเจงตระเตียมผู้คน เครื่องสาศตราวุธให้พร้อมไว้
แต่ยังมิทันสวรรค์คต – ครั้งเห็นจวนจะ xxxxxxxxxxx ก็ยกจู่เข้าไปปล้นเอาราชสมบัติในเพลานั้น
อย่าให้ทันคนอื่นรู้จึงจะได้โดยสะดวก และถ้าผู้อื่นรู้การนี้แล้ว
ก็จะมีความปรารถนาในสมบัติบ้าง และตระเตรียมผู้คนช่วงชิงกัน
จะฆ่ากันตายเป็นอันมาก – แล้วก็จะไม่สมคะเนไว้ และจะได้เป็นอันยากนัก”
เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของ
หนังสือพระราชพงษาวดารกรุงเก่า “ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์”
(หน้า 507-508)
...
อยู่มาวันหนึ่ง หลวงสรศักดิ์เข้าไปในพระราชวัง
มิได้ไปฟังราชการ ณ ตึกพระเจ้าเหา และไปนั่งอยู่ ณ ทิมดาบ
จึงเห็น “สมิงพะตบะ” ผู้เฒ่า ก็เรียกให้เข้ามานั่งในที่นั้น และสนทนาด้วยกัน
แล้วจึงถามสมิงพะตบะว่า “อย่างธรรมเนียมรามัญประเทศ ถ้า xxxxxxxxxxxx
ทรงพระประชวนหนัก จะถึงการทิวงคต และพระราชบุตร, พระราชนัดดา, วงศ์ษานุวงษ์
และเสนาบดีจะคิดเอา xxxxxxxxxxxx จะทำอย่างไร”
จึงสมิงพะตบะ ก็บอกว่า “อย่างธรรมเนียมข้างรามัญประเทศ ถ้า xxxxxxxxxxxx ประชวนหนัก
และผู้ใดคิดจะเอาราชสมบัตินั้น ก็เร่งจัดเจงตระเตียมผู้คน เครื่องสาศตราวุธให้พร้อมไว้
แต่ยังมิทันสวรรค์คต – ครั้งเห็นจวนจะ xxxxxxxxxxx ก็ยกจู่เข้าไปปล้นเอาราชสมบัติในเพลานั้น
อย่าให้ทันคนอื่นรู้จึงจะได้โดยสะดวก และถ้าผู้อื่นรู้การนี้แล้ว
ก็จะมีความปรารถนาในสมบัติบ้าง และตระเตรียมผู้คนช่วงชิงกัน
จะฆ่ากันตายเป็นอันมาก – แล้วก็จะไม่สมคะเนไว้ และจะได้เป็นอันยากนัก”
เรียบเรียงจากส่วนหนึ่งของ
หนังสือพระราชพงษาวดารกรุงเก่า “ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์”
(หน้า 507-508)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น