วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

*ดร.ปิยะบุตร แสงกนกกุล

http://easy-surf.appspot.com/u?purl=bG10aC44ODc4MS1kYWVyaHQvc3UubW9kZ
WVyZnRlbnJldG5pLnd3dy8vOnB0dGg%3D%0A

กราบคารวะหัวใจงามๆของคณาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ และอ.สมศักดิ์ แห่งธรรมศาสตร์.. สำหรับการทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความเป็นครู คือการให้แสงสว่างแก่ประชาชน... ไม่เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ต้องหวังว่าความสงบสุขอย่างถาวรจะเกิดในประเทศนี้ พวกท่านคือองค์ประกอบสำคัญยิ่งของขบวนประชาธิปไตย ที่จะก้าวไปสู่ฝันอันสูงสุดนั้น

เพียงแต่เป็นเรื่องชวนสลด มีนักวิชาการจำนวนน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ เห็นคุณค่าของสิ่งนี้ เหตุผลคงมีให้อ้างได้มากมายและเป็นสิทธิส่วนบุคคล..ไม่พร้อม ไม่มีเวลา ไม่..ไม่....

แต่สถาบันอันเป็นต้นแบบของความเป็นธรรมแห่งนี้ จะทรงเกียรติทรงคุณค่าได้อย่างไร หากชี้นำปลูกฝังให้เกิดสำนึกแห่งการเสียสละได้ต่ำมากถึงเพียงนี้ แม้ในหมู่คณาจารย์!!

นักศึกษา ประชาชน สละชีวิตต่อหน้าพวกท่านมากี่ครั้ง ยังสะเทือนจิตใต้สำนึกไม่พอหรือ 
บรรยากาศชะงักและเงียบงัน...เมื่อน้ำตาซึมไหลจากอ.ปิยะบุตร..และพวกเราหลายคน ความกดดันจากความรู้สึกเจ็บช้ำที่เห็นประชาชนถูกเหยียบย่ำยิ่งกว่าสัตว์..ด้วยม.112!! บวกกับความรู้สึกวังเวงกับพฤติกรรมการเอาตัวรอด ของสังคมนักวิชาการในมหาวิทยาลัย

อ.ปิยะบุตร อาจารย์ผู้มีจิตใจสูงส่งทุกท่านครับ ภาระที่ท่านกำลังทำมีคุณค่าเหนือสิ่งใด สักวันหนึ่ง.. ความเป็นคนความเป็นมนุษย์ของพลเมืองไทยคงจะเทียมทันผู้คนทั่วโลก ได้เงยหน้าขึ้นพ้นอุ้งตีนอำมหิตที่กดทับมานานแสนนาน พ้นความเป็นทาสจริงๆเสียที...

ผมคิดว่าการรณรงค์อย่างต่อเนื่องให้บุคคลากรในสถาบันการศึกษาเกิดความรับผิดชอบ ต่อปัญหาของสังคมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้จะเป็นการต่อสู้กับกระแสสิ่งครอบงำ ที่ปิดใจพวกเขาอยู่อย่างเข้มข้น แต่การแสดงความจริงอย่างเป็นระบบจะผ่อนคสายได้
มีแต่ประชาชนต้องอดทนต่อสู้ร่วมกัน 
ยากเพียงใด นานเท่าไร..เราไม่มีทางเลือกอื่นครับ*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น