วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สุชาติต้อนรับสมยศมิตรร่วมรบคนร่วมคุก เช้าตรู่
8 พ.ค.เหยื่ออยุติธรรม19พฤษภาสู่อิสรภาพอีกราย

อิฐก้อนแรกของเสื้อแดง-สุชาติ นาคบางไทร ผู้นำภาคประชาชนรุ่นบุกเบิกในนามกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เมื่อครั้งนำพาการต่อต้านรัฐประหาร

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา คุณบีเลิฟ กระดานสนทนาIF
7 พฤษภาคม 2554

ข่าวเกี่ยวเนื่อง:

-สุชาติ นาคบางไทร เปิดใจลอดซี่กรงคุกคดีหมิ่น:ไม่ตั้งทนาย ไม่ประกัน ไม่ขออภัยโทษ ขอให้ทุกคนสู้ต่อ 

-สดุดีวีรประวัติ 4 ปีการลุกขึ้นสู้ของภาคพลเมือง สดุดีอิฐก้อนแรก สุชาติ ณ บางไซ 
**********


สุชาติในวันที่โดนจับ เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2553

สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆและเพื่อนๆทุกท่าน

หนูไปเยี่ยมน้าชาติมาค่ะ 2 ครั้งเกือบติดกัน คือเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน และสดๆ วันนี้เองค่ะ

ความจริงหนู่น่ะ ไปเยี่ยมน้าชาติบ่อยๆนะคะ แต่ว่าไม่ได้เขียนรายงาน เนื่องจากมันก็ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่เรื่องหดหู่เดิมๆ คนอ่านก็อาจจะรู้สึกหดหู่ตาม

และคนเขียนเล่าเอง....กลับหดหู่ยิ่งกว่า

เนื่องจากไปพบไปเห็น แล้วยังต้องมาเขียนเล่าซ้ำ จึงทำให้ไม่ค่อยมีกำลังใจที่จะเขียนมาเล่าให้ทุกคนทราบ ก็ขออภัยกับทุกท่านที่คอยติดตามข่าว ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

แต่การเยี่ยม 2 ครั้งหลังนี้ กลับมีนัยยะสำคัญ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง (ในทรรศนะส่วนตัวของหนูเองนะคะ)โดยเฉพาะการไปเยี่ยมในวันศุกร์ที่ 29 เมษายน มันทำให้หนูกลับมานอนน้ำตาไหลเกือบทั้งคืน แม้ขณะที่กำลังเขียนเมลนี้อยู่ หนูพยายามภาคภูมิใจ แต่ทำไมมันถึงรู้สึกเศร้า จนน้ำตาไหลไม่หยุดเลยก็ไม่รู้

เล่าเลยละกันนะคะ วันศุกร์ที่ 29 เมษายน ก็ปรกติของหนูแหละค่ะ เฝ้ารอคอยวันที่จะได้มีรายการไปทำธุระข้างนอก แล้วก็แอบ แว่บ ไปที่เรือนจำทุกครั้งที่มีโอกาส โดยพยายามเลือกเอาเวลาส่วนตัวที่ต้องพัก ไปทำสิ่งที่เราคิดว่ามีประโยชน์มากกว่า(ปลอบใจตัวเอง จะได้ไม่รู้สึกผิดมาก)นั่นคือการไปเยี่ยมน้าชาติและการ์ดเสื้อแดง

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน หนูไปถึงเกือบๆ 11 โมง เจอคนเสื้อแดงเยอะแยะเลย พวกเค้าไปเยี่ยมพี่สมยศกะอาจารย์สุรชัยกันค่ะ ก็ทักทายกันตามปรกติ ตะโกนเรียกกันโขมงโฉงเฉง หนูได้แต่ยกมือไหว้ไปรอบๆ และขอตัวไปยื่นเอกสารขอเยี่ยมก่อน (เพราะต้องรีบกลับไปทำธุระ เนื่องจากตรงรี่มาที่นี่ก่อน หุหุ)

หนูได้เวลาเยี่ยมน้าชาติ รอบที่10 ห้อง7 เวลา12:30น. และเยี่ยมแนนซี่ต่อเลย รอบที่11 ห้อง7 เวลา13:00น.
(เนื่องจากหนูไปคนเดียว จึงต้องเรียกตัวออกมาเยี่ยมทีละคน คุยพร้อมกันทีเดียว2คนไม่ไหวค่ะ)

หลายคนคิดว่าหนูไปเยี่ยมพี่สมยศกะอาจารย์สุรชัย เพราะกำลังจะได้เวลาเยี่ยมพอดี คือ 11.10น. ซึ่งหนูก็บอกว่า "ใช่ค่ะๆ พอดีวันนี้มีโอกาสก็เลยได้มา" หากหนูจะบอกว่า "เปล่าค่ะ หนูมาเยี่ยมน้าชาติ" พวกเค้าอาจเสียใจ

เหมือนที่หนูเคยนึกเสียใจ ที่ไม่มีใครไปเยี่ยมน้าชาติเลย

พี่Pocket เคยพูดบ่อยๆว่า "เค้าว่าคนไทยลืมง่าย" มันน่าเสียใจจริงๆ หนูยังบอกเค้าไปว่า "ไม่หรอกค่ะ หนูไม่เคยลืมใครเลย" (หรือว่าหนูจะไม่ใช่คนไทย)

หนูได้เข้าไปเยี่ยมอาจารย์สุรชัยกะพี่สมยศ ซึ่งทั้ง2คนออกมาพร้อมกัน ห้องเดียว เวลาเดียวกัน เป็นแบบนี้ทุกวัน เหมือนตอนที่แกนนำ นปช.ติดคุกค่ะ

หนูยกมือไหว้ทักทายอาจารย์สุรชัย ซึ่งท่านก็รับไหว้และบอกว่าขอบใจ


ส่วนพี่สมยศบอกว่า "ขอบคุณมากบีเลิฟ ขอบคุณมากๆ น้าชาติดูแลผมอย่างดีมากๆเลย"

หนูก็ไม่ได้พูดอะไรหรอกค่ะ แค่ยิ้ม แล้วก็ชู2นิ้ว ให้ สู้สู้ เหมือนเดิม แล้วหนูก็เดินออกมา เพื่อให้คนอื่นได้เข้าไปใกล้ๆบ้าง
เพราะคนเยอะมาก เบียดเสียดกันแน่นห้องเยี่ยมเลยค่ะ

หนูออกมานั่งเขียนจดหมายข้างนอก(ถึงน้าชาติและ *แนนซี่ / ทั้งเยี่ยม ทั้งเขียนจดหมาย หุหุ) เพื่อรอเวลาเยี่ยมน้าชาติกะแนนซี่ตอนเที่ยงครึ่งและบ่ายโมงตามลำดับ พี่น้องเสื้อแดงที่เยี่ยมแกนนำทั้ง2เสร็จแล้ว ต่างก็ร่ำลาแยกย้ายกันกลับ เหลือหนูอยู่กะป้าจุ๋มและโอเล่ ซึ่งทั้งสองคนขอเยี่ยมน้าชาติด้วย ไหนๆก็มาเจอกันแล้ว

พอได้เวลาพวกเรา3คนก็เข้าไปเยี่ยมน้าชาติค่ะ พวกเราเปลี่ยนกันคุยทีละคนผ่านโทรศัพท์ ท่าทางน้าชาติดีใจมาก ที่เห็นพวกเรา3คน

แต่หนูดูว่าน้าชาติผอม ซูบเซียวไปมากเลยค่ะ คาดคั้นถามแล้ว ก็บอกว่าสบายดี ไม่ต้องห่วง แค่6เดือนที่ติดคุก น้ำหนักลดลงไปกว่า10กิโล

(อืออออออ เห็นกับตาหยั่งงี้ จะไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะคะ)

แต่ก็นั่นแหละค่ะ รู้ทั้งรู้ ว่าเป็นยังไง แต่หนูก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยอยู่ดี หนูรู้สึกเศร้าจังค่ะ เสียใจมากมายด้วยนะ ที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย

หนูถามว่า น้าชาติอยากได้อะไรมั้ย จะให้ซื้ออะไรให้รึเปล่า น้าชาติก็ถามกลับมาว่า แล้วมีตังค์เหรอ มาเยี่ยมบ่อยๆ มีญาติติดคุกเยอะแยะ

(น้าชาติรู้ว่า พอหนูเยี่ยมน้าชาติเสร็จ ก็จะเยี่ยมการ์ดเสื้อแดง และแน่นอนว่า ต้องซื้อของให้การ์ดเสื้อแดง ทุกครั้ง)

หนูบอกว่า แค่ซื้อของให้น้าชาตินิดหน่อย มีอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ น้าชาติก็เลยเล่าให้ฟังว่า.................



เช้าวันที่พี่สมยศ พฤกษาเกษมสุข จะมาติดคุก น้าชาติก็มาทำงานตามหน้าที่ปรกติ เปิดทีวีให้นักโทษในเรือนจำ ดูข่าวสรยุทธ์ช่อง3 เห็นข่าวว่า พี่สมยศถูกจับ ที่ชายแดนเขมร วันนี้จะนำตัวส่งขึ้นศาล แล้วนำไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ( อ่านข่าว:จับสมยศยัดข้อหาหมิ่นฯสกัดล่า1หมื่นชื่อเลิก112 )

พอน้าชาติรู้ล่วงหน้าดังนั้น จึงตระเตรียมการต่างๆไว้รอคอยพี่สมยศ พวกของใช้ส่วนตัวเบื้องต้น ที่นักโทษทุกคน จำเป็นต้องใช้จริงๆ(ซึ่งคนที่เข้าคุกวันแรก จะไม่มีใช้แน่นอน) เช่น รองเท้าแตะ ขันน้ำ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ
น้าชาติพบว่า มีล็อกเกอร์ว่างอยู่อันนึง(ซึ่งนับว่าโชคดีมากมาย) ทำยังไงถึงจะจองเพื่อเก็บไว้ให้พี่สมยศได้(ซึ่งน้าชาติก็ไปจัดการจนได้ค่ะ)

โชคดี(ไม่รู้ว่าโชคของใคร ของน้าชาติ หรือของพี่สมยศ ตัดสินกันเอาเองค่ะ)ที่วันนั้น น้องโอ๋ โผล่ไปเยี่ยมน้าชาติพอดี
น้าชาติจึงถามน้องโอ๋ว่า วันนี้พอมีเงินมั้ย(ตัวเองคงไม่มี) จะขอให้ ซื้อของใช้ให้พี่สมยศ ได้หรือเปล่า(ปรกติไม่ขอร้องใคร)น้องโอ๋ก็บอกว่า ได้เลย จะให้ซื้ออะไรบ้าง สิ่งที่น้องโอ๋ซื้อ มีดังนี้ค่ะ
"แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ขันน้ำ กุญแจล็อกเกอร์ เสื้อกล้าม ผ้าขนหนูค่ะ ส่วนขนมเข้าใจว่าน้าชาติคงแบ่งๆให้ และเห็นน้าชาติจะแบ่งกางเกงให้ด้วย" (ก๊อปมาจากต้นฉบับเมล์ของน้องโอ๋ค่ะ)

เมื่อน้าชาติเตรียมของดังกล่าวเสร็จ ก็รอคอยเวลาที่พี่สมยศจะถูกนำตัวมาส่งที่เรือนจำ พอตอนบ่าย พี่สมยศก็มาถึงค่ะ

น้าชาติ ซึ่งทำงานอยู่ด้านหน้า ได้เจอกับพี่สมยศเป็นคนแรก น้าชาติได้เข้าไปสวมกอดพี่สมยศ เพื่อเป็นการ ให้การต้อนรับที่อบอุ่น พร้อมทั้งกำลังใจ ให้พี่สมยศรู้สึกว่า ที่นี่มีเพื่อน มีพี่ มีน้อง ครอบครัวเดียวกัน ไม่ให้รู้สึกเศร้า เหงา หดหู่ ว้าเหว่ และอนาถา (เหมือนวันแรกที่น้าชาติเข้ามา)

น้าชาติอยากให้มีการกระทำแบบนี้ต่อไป ทำให้เป็นธรรมเนียม ว่าเราเป็นประชาชนธรรมดา จะต้องช่วยเหลือประชาชนด้วยกันแบบนี้เสมอ ไม่ว่าใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ หากมีโอกาสทำได้ จะต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ เรื่องแบบนี้ มีแต่ประชาชนอย่างเราเท่านั้นที่คิดทำ นักการเมืองเค้าไม่ทำกัน

น้าชาติบอกว่า จำวันแรกที่มาอยู่คุกได้ดี ว่าเป็นวันที่ตัวเอง อนาถา สุดๆ ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ใดๆทั้งสิ้น จึงไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้แปรงฟัน และไม่ได้กินข้าว ยังไม่นับว่าจะนอนยังไง ไม่มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม ฯลฯ (ทั้งๆที่ในขณะนั้น.............(หนูนึกเอง น้าชาติไม่ได้พูดค่ะ)

แต่วันนี้...วันที่พี่สมยศจะมา.....ซึ่งน้าชาติอยู่ที่นี่ และน้าชาติรู้ล่วงหน้าแล้วว่า พี่สมยศกำลังจะมา จึงได้ตระเตรียมของทุกอย่างที่จำเป็นไว้ให้พี่สมยศล่วงหน้า เท่าที่ตัวเอง(ซึ่งก็เป็นนักโทษอนาถา)จะสามารถทำได้

มิน่าล่ะ ตะกี้พี่สมยศจึงบอกว่า ขอบคุณมาก น้าชาติดูแลผมอย่างดีมากๆ

หนูนั่งฟังน้าชาติเล่ามาทั้งหมดด้วยใจหดหู่ น้ำตาพาลจะร่วงตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็อดทน นั่งฟังอย่างเดียว พยายามยิ้มตลอด ไม่พูดอะไรเลย

น้าชาติดีใจและภูมิใจมากนะคะ ที่ได้ทำแบบนั้น หนูก็ภูมิใจค่ะ ที่น้าชาติเป็นคนแบบนี้ เป็นคนดี กล้าหาญ เสียสละ และคิดถึงคนอื่นตลอดเวลา

ตัวเองเป็นนักโทษ กินข้าวคุก ไม่ผูกอาหารปิ่นโตเพื่อประหยัดเงิน พอกินข้าวไม่ค่อยได้ ยังต้องทุกข์ใจในเรื่องอื่นๆ ก็ผอมลงทุกวัน ทุกวัน แต่กลับมีแก่ใจ คอยสั่งซื้ออาหารให้พี่สมยศในช่วงวันแรกๆ(หวังดี ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยมีตังค์)เพราะรู้ว่า ยังไงๆพี่สมยศก็คงกินอาหารคุกไม่ได้แน่ๆ (แต่ตัวเองกินได้เพราะอยู่ตัวแล้ว ว่างั้น / อือ...แล้วทำไมผอมลงทุกวันๆ)

หนูมาคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่พวกเราได้ต่อสู้กันมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่น้าชาติเคยคิด เคยพูด และเคยทำ หนูแปลกใจมากเลยนะ ทำไมคนดีๆอย่างน้าชาติถึงไม่รอดหูรอดตาจากคนชั่วร้าย แต่กลับรอดหูรอดตาจากคนดีของหนูไปได้
น่าเสียดายเหลือเกินค่ะ

น้าชาติพูดเสมอว่า ตั้งแต่วันที่มาอยู่คุก ไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆจากใครเลย คนที่คอยช่วยเหลือน้าชาติ มีแต่กลุ่มเพื่อนๆไม่กี่คน และครอบครัวเท่านั้น

บีเลิฟ

ปล. เยี่ยมน้าชาติเสร็จก็เยี่ยมแนนซี่ค่ะ แล้วก็ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นให้ทั้งคู่เหมือนเดิม แนนซี่อาจจะพ้นโทษในวันที่ 21 พฤษภาคม 2554 นี้ค่ะ (รอการยืนยันให้แน่นอนอีกครั้ง)เค้าต้องภาคภูมิใจที่สุด เพราะทำเอง ติดคุกเอง และพ้นโทษเอง โดยที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากใครเลยในระยะเวลา3ปี นอกจากพวกเราที่คอยไปเยี่ยม ซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นให้ ฝากเงินนิดหน่อยให้ใช้ และส่งจดหมายให้กำลังใจกันตลอดมา

ปล.2 *แนนซี่ คือ การ์ดสนามหลวงที่เคยอยู่เต้นท์เสธ.แดง เป็นผู้ชายที่ออกจะเป็นผู้หญิงค่ะ ที่เคยนั่งรถกระบะพร้อมป้านิดสนามหลวง ผ่านไปทาง มัฆวาน ที่มีอัณฑมิตรอยู่ และ รถติดไฟแดง ตรงแยกจปร. พวกอัณฑมิตร เข้ามาตีบนรถ โดยตีที่ ป้านิดก่อน แนนซี่ก็อยู่บนรถด้วย ก็มีการต่อสู้กัน แนนซี่แขนหักเข้า รพ.ตำรวจ ซึ่งตอนนั้น ก็เป็นข่าวดังในกลุ่มพวกเรา ตอนหลังโดนจับเรื่องอาวุธ ก็เลยสารภาพ โดนขัง 3 ปี ซึ่งตอนนี้ ก็จะครบเวลาแล้ว...

*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:ร่วมต้อนรับเพื่อนเสื้อแดงโดนยัดคุก 1 ปีจากเหตุการณ์ 19 พฤษภาฯพ้นโทษ



ขอเชิญพี่น้องเสื้อแดงไปร่วมกิจกรรมต้อนรับนักโทษการเมืองชื่อ สุทัศน์ แซ่คู ชาวเสื้อแดงในข้อหา พรบ.อาวุธปืนฯ ซึ่งจะถูกปล่อยตัวโดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลาไม่เกิน ๙ โมงเช้า แต่คิดว่าควรมาประมาณ 8 โมงเช้า (เกรงว่าทางเรือนจำจะเจ้าเล่ห์ปล่อยตัวออกมาแต่ไก่โห่ เหมือนคราววิษณุ กมลแมน)

ปล. สุทัศน์ โทษตามหมายศาลปล่อยวันที่ ๒๐ พ.ค. ๕๔ แต่ได้รับโทษปล่อยวันที่ ๘ พ.ค.๕๔(ยืนยันจากเจ้าหน้าที่แล้ว)

ด้านล่างเป็นแถลงการณ์ที่กำ้ลังล่ารายชื่อสนับสนุน



แถลงการณ์


เรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อยินดีกับอิสรภาพเพื่อนของเรา สุทัศน์ แซ่คู หลังจากถูกจองจำในคุกเป็นเวลานานเกือบ ๑ปีเต็ม ด้วยความผิดที่เขาไม่ได้กระทำขึ้น แต่ ศาลพิพากษาลงโทษเพื่อนของเรา โดยอาศัยเพียงแค่คำรับสารภาพของเขาเท่านั้น โดยไม่ได้มีการพิเคราะห์ถึงสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้น


สุทัศน์ แซ่คู ถูกจับเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ด้วยการยัดข้อหาจากเจ้าหน้าที่รัฐว่า มีลูกระเบิดปิงปองไว้ในความครอบครองจำนวน ๑ ลูก ขณะเขาพยายามเดินทางกลับบ้านหลังจากที่เขาซ่อนตัวอยู่ในชุมชนบ่อนไก่
ในคืนวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ คืนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและคับแค้นของพวกเรา ในขณะที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกระหยิ่มยิ้มย่องกับชัยชนะของมัน


กรณีของสุทัศน์ แซ่คู เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชี้ชัดให้เห็นถึง ระบบ ๒ มาตรฐานในกระบวนการยุติธรรมและการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของการ์ดพันธมิตรที่ถูกจับได้เมื่อประมาณวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ย่านบริเวณที่ชุมนุมของพวกเขาพร้อมกับลูกระเบิดปิงปองจำนวน๖๓ลูกแต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับปล่อยตัวพวกเขาไปโดยไม่ดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น ให้เหตุผลว่าเป็นเพียงประทัดยักษ์ ไม่ใช่ระเบิด หรือในกรณีปี ๒๕๕๑ ที่ผู้ชุมนุมพันธมิตรขับรถพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเข้าทำการสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่ศาลกับพิพากษา รอลงอาญาชนิดที่ค้านสายตาผู้รักความเป็นธรรม


เราชาวเสื้อแดงถูกปฎิบัติจากอำนาจรัฐโดยไม่เป็นธรรมในหลายๆกรณีทั้งจากการซุ่มยิงพวกเราตายถึง ๙๒ ศพโดยรัฐไม่พยายามสอบสวนการตายและกล่าวหาว่าพวกเราฆ่ากันเอง จับกุมเพื่อนของเราด้วยข้อหาต่างๆนาๆเช่น เผาเซ็นทรัลเวิลด์ เผาศาลากลาง ฝ่าฝืนพรก. ปล้นทรัพย์ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพและข้อหาอื่นๆอีกมากมาย โดยไม่ให้สิทธิเพื่อนของเราในการประกันตัว


ในวันนี้มีผู้ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและความถูกต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศมากกว่า ๑๐๐ คน และยังไม่รวมกับเพื่อนของพวกเราที่หลบหนีจากการถูกคุกคามจากอำนาจรัฐเถื่อนอีกมากมาย


เราขอเรียกร้องให้ชนชั้นอำมาตย์ตระหนักถึงการกระทำของตนเอง สิ่งที่ชนชั้นอำมาตย์ทำนี้จะส่งผลเสียระยะยาวในการพัฒนาประชาธิปไตยและทำให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


เราขอเรียกร้องชนชั้นอำมาตย์ดังนี้


๑.ปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงที่ถูกคุมขังทั่วประเทศ
๒. ยกเลิกข้อกล่าวหานักโทษการเมืองเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีโดยทันที




๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔
กลุ่ม เอื้ออาทร มีนบุรี
กลุ่มแดง นครปฐม
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น