วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ศาลรับฟ้อง ‘5 ชุดดำ’ 10 เมษา ข้อหาพกอาวุธอาวุธสงครามในที่ชุมนุมแล้ว ไม่มีข้อหาก่อการร้าย



‘วิญญัติ’ ทนาย กนส. เผยศาลรับฟ้องคดี "ชายชุดดำ" แล้ว ข้อพกพาอาวุธสงครามในวันที่ 10 เม.ย. 2553 แต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ยื่นประกันหญิงในกลุ่ม ก่อนศาลปฏิเสธ อ้างเกรงจำเลยจะหลบหนี
8 ธ.ค.2557 หลังจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ1 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีที่เรียกกันว่า "ชายชุดดำ" ซึ่งประกอบด้วยผู้ต้องหา 5 รายในจำนวนนี้เป็นหญิง 1 รายใน ฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสูนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ อาวุธปืนฯ พ.ศ 2490 มาตรา 4 ,8 ทวิ,55,72 ทวิ และ 78 และข้อหาพกพาอาวุธไปในที่ชุมชนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553
โดยศาลพิจารณาคำฟ้องและประทับรับฟ้องไว้พิจารณา เป็นคดีดำ อ.4022/2557
วันนี้(8 ธ.ค.)ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย ทั้ง 5 ราย โดย วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจากกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน(กนส.) กล่าวถึงคดีนี้ว่ามีการแจ้งข้อหาครอบครองและพกพาอาวุธสงครามในวันที่ 10 เม.ย.2553 แต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายแต่อย่างใด จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธและศาลนัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 16 ก.พ.2558
วิญญัติกล่าวด้วยว่า วันนี้ได้ยื่นประกันจำเลยผู้หญิงด้วย เนื่องจากไม่มีความเกี่ยวข้องในคดี เป็นเพียงแฟนของหนึ่งในจำเลยและนั่งรถไปด้วยกันเท่านั้น และจำเลยหญิงก็เข้ามอบตัวต่อตำรวจเองไม่ได้ถูกจับกุมมาแต่อย่างใด แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันโดยอ้างว่าเกรงจำเลยจะหลบหนี
ทั้งนี้ จำเลยประกอบด้วย นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพฯ นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 33 ปีชาว จ.อุบลราชธานี นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ45 ปี ชาว กรุงเทพฯ และนางปุนิกา หรือ อร ชูศรี อายุ 39 ปี ชาวกรุงเทพฯ เป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสูนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ อาวุธปืนฯ พ.ศ 2490 มาตรา 4 ,8 ทวิ,55,72 ทวิ และ 78 และข้อหาพกพาอาวุธไปในที่ชุมชน
อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จำเลยทั้งห้า กับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 , ปืนเอ็ม 16 ,ปืนเอชเค 33 หรือปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถนนตะนาว ,ถนนประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งวัน เวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง กระทั่งวันที่ 11 กันยายน 2557 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยทั้งห้า ส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ดำเนินคดี ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น