จำนงค์ หนูพันธ์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2558
‘พีมูฟ’ บุกทำเนียบทวงสัญญารัฐบาลทหาร ชาวบ้านหวังรัฐบาลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ด้านปนัดดาชี้ปัญหาคนจนต้องแก้ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง
23 ม.ค. 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 4 เวลา 09.15 น. ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) หรือ P-Move กว่า 100 คนได้รวมตัวกันแสดงพลังเพื่อท้วงสัญญาจากรัฐบาล ภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากที่ได้มีการเข้าพูดคุยเจรจา เพื่อให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของกลุ่มเครือข่าย โดยได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันไว้ตั้งตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2557 (อ่านข่าวที่นี่) แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา
วันนี้ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้รวมตัวกันอีกครั้ง ประกอบด้วย 9 เครือข่ายคือ 1.สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) 2.เครือข่ายสลัมสี่ภาค 3.เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมการเมือง(คปสม.) 4.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด(คปบ.) 5.สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้(สกต.) 6.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) 7.สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล 8.เครือข่ายเกษตรพันธสัญญา 9.เครือข่ายโรงไฟฟ้าชีวมวลและเหมือง โดยมีได้มีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1.ให้รัฐบาลต้องกำหนดแนวทางและผลักดันการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ได้ส่งผลกระทบต่อคนจนและสั่งสมมาเป็นเวลาช้านานเพื่อขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน ได้แก่ การดำเนินงานของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) การดำเนินโครงการโฉนดชุมชน การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนเมือง การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูน การแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และคนไร้บ้าน การแก้ไขปัญหาชาวกะเหรี่ยง
2.ให้รัฐบาลสั่งการให้ยุติการดำเนินการใดๆไว้ก่อนและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทบทวน ปรับปรุงเป้าหมาย มาตรการ ตลอดจนแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการและแนวทางจากแผนแม่บทฯอย่างเร่งด่วน
3.ให้รัฐบาลผลักดันนโยบายการถือครองที่ดิน โดยออกกฎหมาย 4 ฉบับคือ กฎหมายสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร กฎหมายธนาคารที่ดิน กฎหมายภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า กฎหมายกองทุนยุติธรรม
3.ให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมให้ตรงกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างๆ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้ลุล่วงอย่างเร่งด่วน
ด้านสมปอง เวียงจันทร์ สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้ารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหา หรือไม่มีความคืบหน้าอีก ตนก็จะเดินทางมารวมตัวเพื่อเรียกร้องต่อไป จนกว่าปัญหาของคนจนจะได้รับการแก้ไข
สุแก้ว ฟุงฟู กรรมการสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ แถลงข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล
หลังจากอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น เวลา 09.30 น.ตัวแทนของแต่ละกลุ่มเครือข่ายได้เข้าเจรจากับรัฐบาล ที่ห้องประชุมอรรถไกวัลวที อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม ซึ่งขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม มีข้อเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งหมด 11 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย
การผลักดันโครงการธนาคารที่ดิน, การผลักดันนโยบายโฉนดชุมชน, การแก้ไขผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ที่ 64/2557 และ 66/2557และการดำเนินการตามแผ่นแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ, การแก้ไขปัญหาคนจนเมือง, การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล, การแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล, การปก้ไขปัญหาชาวกระเหรี่ยง , การแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี, การแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติที่หมดระยะเวลาการอนุญาต หรือสิ้นสุดสัญญาเช่าของเอกชนและองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) มาจัดสรรให้กับเกษตรกรผู้ยากจนมาเป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย, แนวทางการตัดโค่นยางพาราที่หมดอายุ และการเข้าถึงกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และสุดท้ายขอให้รัฐบาลผลักดันกฎหมายการกระจายการถือครองที่ดิน 4 ฉบับ ประกอบด้วย 1.พรบ.สถาบันธนาคารที่ดิน 2.พรบ.สิทธิชุมชนในการจัดการทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน 3.พรบ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า 4.พรบ.กองทุนยุติธรรม
ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุม
ด้านปนัดดา ได้กล่าวก่อนเริ่มต้นการประชุมว่า ตนได้ไปรับฟังข้อมูลมาหลายเวทีทั้งจากเวทีภาคประชาชน และเวทีของภาครัฐ พบว่าพูดตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการประชุมในวันนี้คือ เราต้องยึดตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี คือทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด และต้องรีบดำเนินการให้รวดเร็ว ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ เพราะถ้าเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายก็เปลี่ยนไปไม่ตรงกัน
แถลงการณ์
ฉบับที่ 1/2558
ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม เริ่มต้นแก้ปัญหาคนจน
เนื่องด้วยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ประกอบด้วยประชาชนยากจน 9 เครือข่าย คือ 1.สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ(สกน.) 2.เครือข่ายสลัมสี่ภาค 3.เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมการเมือง(คปสม.) 4.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด(คปบ.) 5.สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้(สกต.) 6.เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) 7.สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล 8.เครือข่ายเกษตรพันธสัญญา 9.เครือข่ายโรงไฟฟ้าชีวมวลและเหมือง ได้รวมตัวกัน และขับเคลื่อนการแก้ปัญหากับรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รัฐบาลมีนโยบาย และมาตรการในการแก้ปัญหาคนจน ให้มีที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง ปกติสุขและมีความยั่งยืน
เมื่อรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาบริหารประเทศ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส) ได้เจรจาการแก้ปัญหาเรื่อยมา ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2557 และการเคลื่อนไหว “เดินก้าวแลก เพื่อการปฏิรูปที่ดิน” ที่จังหวัดเชียงใหม่ จนนำไปสู่การการลงนามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการแต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม” และมีการจัดประชุมขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 23 มกราคม 2558
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมมีความคาดหวังและข้อเสนอ ต่อการประชุมในวันนี้ในการพิจารณาแก้ไขปัญหาประชาชน ควรคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และข้อเท็จจริงเป็นหลัก โดยการดำเนินการดำเนินการใดๆของรัฐต้องไม่กระทบต่อวิถีชีวิตปกติของประชาชน และหากการดำเนินการแก้ไขปัญหาติดขัดที่ระเบียบ ข้อกฎหมาย ควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบ กฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติ
ในนานขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมจึงขอเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้
1.ให้รัฐบาลต้องกำหนดแนวทางและผลักดันการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างที่ได้ส่งผลกระทบต่อคนจนและสั่งสมมาเป็นเวลาช้านานเพื่อขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน ได้แก่ การดำเนินงานของสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) การดำเนินโครงการโฉนดชุมชน การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนเมือง การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูน การแก้ไขปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล และคนไร้บ้าน การแก้ไขปัญหาชาวกะเหรี่ยง
2.ให้รัฐบาลสั่งการให้ยุติการดำเนินการใดๆไว้ก่อนและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทบทวน ปรับปรุงเป้าหมาย มาตรการ ตลอดจนแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการและแนวทางจากแผนแม่บทฯอย่างเร่งด่วน
3.ให้รัฐบาลผลักดันนโยบายการถือครองที่ดิน โดยออกกฎหมาย 4 ฉบับคือ กฎหมายสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร กฎหมายธนาคารที่ดิน กฎหมายภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า กฎหมายกองทุนยุติธรรม
4.ให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมให้ตรงกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างๆ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้ลุล่วงอย่างเร่งด่วน
ในการประชุมร่วมกันระหว่างขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กับรัฐบาล ในเวลา 9.30 น. วันนี้ (23 มกราคม 2558)ผลการประชุม จะเป็นข้อพิสูจน์ความจริงใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ว่าจะเป็นไปตามที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 หรือไม่ โดยเฉพาะเนื้อหาในหมวดที่ 9 การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ข้อ9.3.ที่ระบุว่าจะพัฒนาระบบการบริหารจัดการที่ดินและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ..ให้ประชาชนอยู่กับป่าได้ ปรับปรุงกลไกภาษีเพื่อกระจายการถือครองที่ดิน เร่งรัดจัดสรรที่ดินให้ผู้ยากไร้ รับรองสิทธิร่วมในการจัดการที่ดินของชุมชน กำหนดรูปแบบที่เหมาะสมของธนาคารที่ดิน เพื่อให้เป็นกลไกในการนำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หมวด 11 การปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ข้อ 11.5 ปรับปรุงช่วยเหลือทางกฎหมายค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม..ส่งเสริมกองทุนยุติธรรม..เยียวยาผู้บริสุทธิ์หรือผู้ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรม เป็นต้น
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จะติดตามอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกิดความคืบหน้าในการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะเป็นที่ยุติ และการแก้ปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริงและเป็นรูปธรรม
ด้วยจิตคารวะ
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.)
23 ตุลาคม 2558
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น