เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เรียกร้องให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายแร่ฉบับ คสช. เอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
23 ม.ค. 2558 เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเหมืองได้ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายทำหน้าที่ในการยกร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.... คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปฏิรูปกฎหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงแต่งตั้งอนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายด้านแร่และพลังงาน เพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติแร่ที่เกิดจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหมืองในภาคต่างๆ โดยมีหลักการที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ บำรุง การใช้ประโยชน์และการกำหนดให้มีกองทุนศึกษาพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่และช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง
โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 ที่ผ่านมาจึงได้มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชน พร้อมด้วยการเปิดโต๊ะแถลงข่าว รวมทั้งจะมีการยื่นหนังสือต่อคณะรัฐมนตรี คสช. ของเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ โดยมีข้อเรียกร้องที่สำคัญคือการขอให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายแร่ฉบับ คสช. เอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
แถลงการณ์
ข้อเสนอความเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ....
วันที่ 22 มกราคม 2558
ณ สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ชั้น 16 อาคารซอฟท์แวร์ปาร์ค
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และขณะนี้ร่างดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานั้น เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ประเทศไทย และองค์กรเครือข่ายได้ตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้วพบว่าเนื้อหามีลักษณะในการเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการสำรวจและทำเหมืองแร่มากยิ่งกว่าจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ และชุมชนที่จะได้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่ และคำนึงถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากยิ่งกว่าการสงวนหวงห้ามและคุ้มครองพื้นที่ที่สำคัญต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงมิได้คำนึงถึงสิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย และคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งๆ ที่ชุมชนและประชาชนเป็นเจ้าของทรัพยากรแร่และเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่โดยตรง
และในวันนี้คณะกรรมการปฎิรูปกฎหมายได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติแร่ขึ้นมาโดยได้นำข้อคิดเห็นจากภาคประชาชนเข้ามาประกอบการยกร่าง ด้วยเนื้อหาที่มีมีลักษณะในการคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน การมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาชน การมีแผนบริหารจัดการแร่แห่งชาติที่สอดคล้องกับรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม การสงวนหวงห้ามและคุ้มครองพื้นที่โดยการห้ามสำรวจและประกอบกิจการในพื้นที่ป่าสงวน เขตอุทยานแห่งชาติ แหล่งมรดกทางธรรมชาติ เขตพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าน้ำซับซึม และการสำรวจแร่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ครอบครองที่ดิน เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากร่างพระราชบัญญัติแร่ฉบับกระทรวงอุตสาหกรรม
เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ประเทศไทย และองค์กรเครือข่ายจึงไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. ....ของกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งในประเด็นการไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในการยกร่างและเนื้อหาของร่างดังกล่าว อีกทั้งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปฏิรูปและจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นการพิจารณาออกกฎหมายซึ่งมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิทธิเสรีภาพของประชาชนควรที่จะรอให้มีรัฐธรรมนูญและมีรัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงเสียก่อน รวมถึงต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างทั่วถึงก่อนการพิจารณาร่างกฎหมายแร่ดังกล่าว
เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ประเทศไทย และองค์กรเครือข่ายตามรายชื่อด้านท้ายหนังสือฉบับนี้ จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลและคณะกรรมการกฤษฎีกา ดังนี้
- 1. ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาทบทวนร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... โดยนำความคิดเห็นของภาคประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแร่ฉบับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เข้าไปพิจารณาร่วมด้วย
- 2. ให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งคณะทำงานร่วมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแร่ทั้งสองฉบับ (ร่างพระราชบัญญัติแร่ฉบับกระทรวงอุตสาหกรรม และร่างพระราชบัญญัติแร่ฉบับคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย) โดยประกอบไปด้วย คณะกรรมการกฤษฎีกา กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และภาคประชาชน ในการพิจารณาทบทวนเนื้อหาโดยละเอียด
- 3. หลังจากดำเนินการตามข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว ขอให้รัฐบาลชะลอการเสนอร่างพระราชบัญญัติแร่ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญและมีรัฐสภาที่มีที่มาจากตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง
เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ประเทศไทย และองค์กรเครือข่าย ประกอบด้วย :
- 1) กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี
- 2) กลุ่มคนรักบ้านเกิด กรณีเหมืองแร่ทองคำจังหวัดเลย
- 3) กลุ่มคนรักบ้านเกิดอุมุง กรณีเหมืองแร่เหล็ก อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
- 4) กลุ่มอนุรักษ์ภูหินเหล็กไฟ อำเภอเมือง จังหวัดเลย
- 5) กลุ่มศึกษาปัญหาดินเค็มและการจัดการทรัพยากรแร่ จังหวัดนครราชสีมา
- 6) กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา
- 7) กลุ่มรักทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
- 8) กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน)
- 9) กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมี่ยม แม่ตาว จ.ตาก
- 10) กลุ่มรักษ์บ้านแหง จังหวัดลำปาง
- 11) กลุ่มป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได
- 12) กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นบ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
- 13) คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคอีสาน (กป.อพช.อีสาน)
- 14) เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำ 3 จังหวัด พิจิตร เพชรบูรณ์และพิษณุโลก
- 15) เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ จ.ลำปาง
- 16) เครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
- 17) โครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่
- 18) ชุมชนลุ่มน้ำสรอย จ.แพร่
- 19) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW)
- 20) ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ(ศสส.)อีสาน
- 21) ศูนย์ข้อมูลชุมชน (CRC)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น