ในช่วงถ่ายรูปหมู่ของพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีไอซีทีอาเซียนเมื่อวานนี้ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งยืนในตำแหน่งกลางเฟรม ตัดสินใจไม่จับมือตามธรรมเนียม "อาเซียนแฮนด์เชค" หรือจับมือแบบไขว้แขน แต่ได้คิดค้นท่าจับมือแบบใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมจับมือเพื่อถ่ายภาพกับรัฐมนตรีไอซีทีของชาติอาเซียน ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2558 โดย พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่ได้จับมือแบบไขว้แขน หรือ "อาเซียนแฮนด์เชค" แต่ได้คิดท่าจับมือแบบใหม่ (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)
คลิปช่วง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ่ายภาพหมู่ในการเปิดการประชุมรัฐมนตรีไอซีทีอาเซียน ครั้งที่ 14
ภาพผู้นำอาเซียนทุกชาติ รวมทั้งยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจับมือไขว้แขนแบบ "อาเซียนแฮนด์เชค" ในการประชุมอาเซียนครั้งที่ 23 ที่บันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ตอนแรกเต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่า และฮุน เซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เอื้อมมือหากันไม่ถึง แต่ในที่สุดก็ขยับจนได้รูปหมู่ (ที่มา: Xinhua)
23 ม.ค. 2558 - ในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) นั้น ในช่วงของการถ่ายภาพหมู่คณะรัฐมนตรีไอซีทีของประเทศสมาชิกอาเซียน จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และผู้แทนสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือไอทียู ซึ่งในช่วงถ่ายรูปหลังเปิดงาน ผู้นำในอาเซียนมีธรรมเนียมที่จะต้องจับมือแบบ "อาเซียนแฮนด์เชค" (ASEAN handshake) หรือจับมือแบบไขว้แขน ลักษณะมือซ้ายจับมือขวาคล้องกันกับผู้ที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างซ้าย-ขวา นั้น
ปรากฏว่าเมื่อถึงช่วงถ่ายรูปดังกล่าว รัฐมนตรีไอซีทีต่างยืนประจำตำแหน่งและจับมือแบบไขว้แขนกัน ยกเว้นตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งในวันนี้สวมเสื้อสูทติดกระดุมทุกเม็ด ซึ่งมาร่วมเปิดการประชุมดังกล่าวด้วยไม่ได้จับมือแบบไขว้แขวน คือยื่นมือซ้ายไปจับมือขวาของคนที่อยู่ด้านขวา และยื่นมือขวาไปจับมือซ้ายของคนที่อยู่ด้านซ้าย แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นขวาไปจับมือขวาของคนที่อยู่ด้านขวา และยื่นมือซ้ายไปจับมือซ้ายของคนที่อยู่ด้านซ้าย จนกลายเป็นท่าจับมือแบบใหม่ โดยหลังช่วงถ่ายรูปหมู่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมถ่ายรูปแบบเซฟพีกับรัฐมนตรีไอซีทีชาติอาเซียนด้วย
อนึ่งหลังภาพดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ มีโซเชียลเน็ตเวิร์คหลายเพจ นำภาพไปเผยแพร่ต่อ เช่น เฟซบุ๊คเพจมิตรสหายท่านหนึ่ง นำภาพไปโพสต์และพิมพ์คำว่า "Caption this!" ส่วน Drama-addict ได้แชร์ภาพการถ่ายรูปหมู่ดังกล่าวจากไทยรัฐ และเขียนคำบรรยายว่า "ท่านผู้นำไปประชุมเรื่องไอทีภูมิภาคเอเซี่ยน ดูความฮิปสเตอร์ของท่านผู้นำสิครัช" เป็นต้น
สำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ก่อนการประชุมเว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่า พรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นำรัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศประเทศสมาชิกอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ผู้แทนเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ผู้แทนสำนักเลขาธิการอาเซียน เข้าพบหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ห้อง Corundum ชั้น 3 โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ครั้งที่ 14 ว่า เป็นโอกาสดีที่ผู้เข้าร่วมจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และแนวทางการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างกัน และเชื่อว่าจะได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางในการใช้ไอซีทีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ต่อสังคม และรวมไปถึงประโยชน์ต่อภูมิภาค เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างกันในทุกมิติ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในเรื่องต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความพร้อมและศักยภาพทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค และรวมถึงการใช้ไอซีทีเพื่อส่งเสริมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง
ปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ หัวข้อการประชุมในปีนี้ คือ Transforming ASEAN : Moving Towards Smart Communities หรือ การปรับเปลี่ยนอาเซียนเพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาประชาคมในทุกๆระดับของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ฉลาดโดยใช้เทคโนโลยีและการสื่อสาร ส่วนสำคัญคือ การจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก รัฐบาลไทยยินดีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในขณะนี้รัฐบาลกำลังผลักดันการกระตุ้นให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจเพื่อต่อยอด โดยจะผลักดันผ่านนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (digital economy) มุ่งใช้ไอซีทีเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนในทุกมิติ เพื่อให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารว่า ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารถือเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคง ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านนี้การส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดกับทุกภาคส่วนและในทุกมิติเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะประชาชนในภาคเกษตรกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น รวมถึงด้านข้อมูลการตลาด ในการเพิ่มผลผลิตซึ่งหากประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถสามารถตกลงกันในเรื่องของราคาจำทำให้อาเซียนมีภาคการเกษตรที่แข็งแกร่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น