วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แอมเนสตี้ฯ ชี้จำคุกคดี ‘เจ้าสาวหมาป่า’ ทำลายเสรีภาพการแสดงออก

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์หลังศาลพิพากษาจำคุกสองนักกิจกรรมคดี ‘เจ้าสาวหมาป่า’ ชี้เป็นเรื่องน่าอดสูและเป็นการทำลายเสรีภาพการแสดงออก ระบุเป็นนักโทษทางความคิด จี้ปล่อยตัวไม่มีเงื่อนไข
24 ก.พ.2558 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ ต่อกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาจำคุกสองนักกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการแสดงละคร ‘เจ้าสาวหมาป่า’ ในข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
แถลงการณ์อ้างคำกล่าวของรูเพิร์ต แอ็บบอต ผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่กล่าวว่า การพิพากษาจำคุกนายปติวัฒน์ (สงวนนามสกุล) และนางสาวภรณ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) เป็นการปราบปรามและทำลายเสรีภาพในการแสดงออกอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลทหาร และเป็นเรื่องน่าอดสูอย่างยิ่งที่ทั้งสองถูกคุมขังเพียงเพราะการเล่นละคร
“นับตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อปีที่แล้ว ทางกองทัพไทยได้ใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อปราบปรามและพุ่งเป้าไปที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์ ที่เพียงใช้สิทธิมนุษยชนของตนอย่างสงบ”            
ในแถลงการณ์ยังกล่าวด้วยว่า ในคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ผู้ต้องหามักไม่ได้รับการประกันตัวโดยอ้างว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ เช่น กรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ถูกจับกุมตั้งแต่ปี 2554 และศาลลงโทษข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในเดือนมกราคมปี 2556 โดยนายสมยศถูกปฏิเสธไม่ให้ประกันตัวถึง 16 ครั้ง
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลถือว่าบุคคลที่ถูกคุมขังเพียงเพราะแสดงความเห็นอย่างสงบเป็นนักโทษทางความคิด ซึ่งควรได้รับการปล่อยตัวโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข”
นอกจากนี้ แถลงการณ์ซึ่งอ้างคำกล่าวของผู้อำนวยการงานวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า ควรมีการแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับกับพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย รวมทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น