วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รังสิมันต์ โรม: ผังราชภักดิ์ผิดตรงไหนให้พิสูจน์ ไม่ใช่ตามจับคนเข้าคุกแล้วโยง 112


สัมภาษณ์ โรม NDM หลังย้ำชัดเพจประชาธิปไตยใหม่แชร์ ผังราชภักดิ์ ครั้งแรก ทางกลุ่มพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดว่า ‘ราชภักดิ์’ โกงหรือไม่ ชี้มีการเตรียมจับคน ต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์บ้านโป่ง เพื่อสร้างความหวาดกลัว
จากกรณีการตามจับดำเนินคดีกับผู้ที่แชร์ผังการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ จากคนแรกคือฐนกร ศิริไพบูลย์ หนุ่มโรงงานวัย 27 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวโดยไม่แจ้งสถานที่ควบคุมตัวเป็นระยะเวา 7 วัน ก่อนที่จะมีการฝากขังเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยศาลทหารไม่อนุญาติให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เพราะมีการตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 , 116 และมาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากการกระทำ 3 เหตุการณ์ ได้แก่ 1. กดไลค์รูปภาพในเฟซบุ๊กที่มีเนื้อหาเป็นการดูหมิ่นสถาบันฯ 2. คัดลอกและแชร์รูปภาพประชดเสียดสีสุนัขทรงเลี้ยงในเฟซบุ๊ก และ 3. คัดลอกและแชร์รูปภาพแผงผังเปิดโปงทุจริตอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเป็นการต่อต้านการทำงานของรัฐและปลุกปั่นยุยงให้เกิดความไม่สงบ 
ต่อมามีการรวบตัวคนที่สองคือ ธเนตร อนันตวงษ์ นักกิจกรรมวัย 25 ปี โดยถูกออกหมายจับในวันที่ 12 ธ.ค. และเขาถูกจับกุมที่โรงพยาบาลสิรินธร จังหวัดขอนแก่น ขณะเข้ารับการรักษาอาการป่วยลำไส้ใหญ่อักเสบ และไส้เลื่อนบริเวณถุงอัณฑะ ซึ่งอยู่ระหว่างการรับยาปฏิชีวนะและการรอคิวผ่าตัด  ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 12.30 น. โดยเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุมไม่มีการแสดงตน ไม่แจ้งสังกัด ไม่แสดงหมายจับของศาล และไม่แจ้งว่าจับควบคุมตัวไปที่ใด ทว่าต่อมาในวันเดียวกัน เพื่อนของธเนตรได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่กองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ให้นำยาไปให้ธเนตรได้ แต่ไม่อนุญาตให้เยี่ยมหรือติดต่อกับนายธเนตรแต่อย่างใด
ชัดว่าการตามจับครั้งนี้เกิดจากการแชร์ผังการทุจริตราชภักดิ์ พร้อมทั้งมีการขยายผลออกไปสู่เรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา รังสิมันต์ โรม หนึ่งในขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ออกมาพูดชัดผ่านสื่อว่า ทางเพจขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เป็นกลุ่มแรกที่ทำการแชร์ผังทุจริตราชภักดิ์ แต่น่าแปลกที่ยังไม่มีการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ประชาไทสัมภาษณ์รังสิมันต์ โรม ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เขาย้ำชัด คสช. อย่าเล่นงานประชาชน หากผังการทุจริตมีข้อผิดพลาดให้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง แล้วว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าตามจับคน แล้วโยงเข้ามาตรา 112 พร้อมตั้งข้อสังเกตุการตามจับดำเนินคดีมีกระบวนการที่มีนัยจากเหตุการณ์บ้านโป่ง และตอบชัดว่า ทำไมถืออกมาตรวจสอบคอร์รัปชันในรัฐบาลทหาร
ประชาไท : นี่เป็นครั้งแรกหรือไม่ที่ออกมาพูดชัดว่าผังราชภักดิ์ ถูกแชร์ที่เพจขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่แรก
รังสิมันต์ โรม :อย่างแรกเราคิดว่าทุกคนทราบอยู่แล้วว่ามันปรากฏอยู่ในเพจ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) และอย่างที่สองเราก็บอกชัดไปแล้วเมื่อวันที่มีการจัดการแถลงข่าว ผมก็ยังแปลกใจที่ถามว่านี่เป็นครั้งแรกหรือไม่ แต่ที่แปลกใจไปกว่านั้นคือ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ติดต่อมาที่เรา ไม่มีแม้กระทั่งจะเรียกเราไปคุยด้วยซ้ำไป
ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในผัง เป็นข้อมูลที่ปรากฎอยู่แล้วตามหน้าซึ่ง ข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในผังก็เป็นข้อมูลที่ไล่เรียงเหตุการณ์ เกิดอะไรขึ้นบ้างการโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์
ภายหลังจากมีการแชร์ผังนี้ออกไปแล้วมีการตามจับกุมคนแชร์ NDM มองเรื่องนี้อย่างไร
เรามองว่า ทางกองทัพพยายามพูดเหมือนกับว่า ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากคนที่แชร์ผังการทุจริต แล้วมีการขยายผลไปที่เรื่อง 112 ในขณะมีไม่การพูสูจน์ความจริงว่ามีการทุจริตหรือไม่ แต่กลับเป็นการตราหน้าคนที่พยายามออกมาพิสูจน์ว่าเป็น กลุ่มล้มเจ้า เป็นคนไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งนั้นไม่ใช่ประเด็นของเรื่อง ประเด็นก็คือ สรุปแล้วกองทัพ และ คสช. มีการทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็ต้องมีการพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นใคร กระบวนการมันควรจะเป็นอย่างนั้น
การที่เราออกมาพูด เราต้องการดึงกลับมาสู่ประเด็นนี้ อีกอย่างพวกเราทุกคนพร้อมที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านมาก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต จะผิดจะถูกอย่างไรมันก็ต้องมาพิสูจน์กัน แต่ คสช. ไม่ได้ออกมาโต้แย้งว่าผังมันมีปัญหาอย่างไร  สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คสช. ตามไปจับกุมอย่างเดียวแล้วก็นำไปสู่เรื่อง 112
เราอยากจะบอกว่า คุณไม่ควรเล่นงานประชาชน คนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันทางการเมือง อย่าง NDM เราสู้กับ คสช. มาโดยตลอด ถ้า คสช. จะสู้ทางกฎหมายเราก็ยินดีที่จะสู้ทางกฎหมาย
มีการเตรียมรับมืออย่างไรบ้าง หากมีการออกหมายขบวนการประชาธิปไตยใหม่
แน่นอนเรายินที่จะเข้าสู่กระบวนการ แต่กระบวนการตรงนี้มันต้องไม่ใช่กระบวนการทางการเมือง มันต้องไปว่ากันตามศาลยุติธรรม เช่นบอกว่าเราหมิ่นประมาท หรือเรากระทำผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ อันนี้เรายินดีเข้าสู่กระบวนการ แต่ไม่ใช่บอกว่าเราทำผิดมาตรา 116 หรือ มาตรา 112 อย่างนี้มันไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะถ้าดูจากผังมันก็ไม่มีเนื้อสาระอะไรที่จะเข้าข่ายการหมิ่นได้เลย ถ้าเป็นกระบวนการที่มันแฟร์ ขึ้นศาลยุติธรรม มันเป็นสิ่งที่ถูกฝ่ายยอมรับกันได้
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือยัง
ไม่มีเลย มีแต่ออกมาพูดหน้าสื่ออย่างเดียวที่พยายามโจมตี พยายามทำให้ดูเหมือนว่าภาพทั้งหมด เกี่ยวข้องกับเรื่อง 112
จากการที่มีคนแชร์ผังดังกล่าว แล้วมีการจับกุมคนที่แชร์ NDM ประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร และจะรับมืออย่างไร
คือพอมีการจับกุม คนแรกที่ถูกจับกุมคือ ฐนกร ซึ่งพวกเราไม่รู้จักเลย แล้วเขาไม่เคยมาร่วมกิจกรรมของ NDM มาก่อน ซึ่งตอนมีการจับกุมพวกเราก็แปลกใจ ต่อมาก็เป็นคนที่สองคือ ธเนตร ซึ่งธเนตรเองมาร่วมกิจกรรมกับ NDM อยู่เป็นประจำ เราคิดว่าต่อจากนี้มีแนวโน้มที่จะมีการจัดการตามจับคนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่น่ากังวลเหมือนกัน และดูเหมือนว่าเป้าหมายของการจับกุมจะมุ่งไปที่ ประชาชนธรรมดา
ผมคิดว่าจุดมุ่งหมายสำคัญของกองทัพคือการสร้างความหวาดกลัว เพื่อไม่ให้มีใครกล้าพิสูจน์ หรือตรวจสอบ ไม่สามารถมองเป็นเรื่องอื่นได้ และผมคิดว่ามีการจัดเตรียมการเรื่องนี้มาก่อนแล้ว คือผมเองก็ทำงานเกี่ยวกับม็อบมาแล้วหลายครั้ง จากประสบการณ์ตรงนี้ ทุกครั้งที่ คสช. บอกว่ามีเส้นที่ทำไม่ได้ ก็จะไม่สามารถข้ามเส้นนั้นได้จริงๆ กองทัพจะมีความพร้อม และสามารถสกัดกั้นได้ เป็นเรื่องยากที่เราจะฝ่าแนวกั้นของทหาร
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเหตุการณ์ที่บ้านโป่ง ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการตรวจสอทุจริต สามารถที่จะฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่เข้ามาประชิดตัวโบกี้รถไฟได้ นี่เป็นจุดที่น่าสังเกตุ ผมมองว่า ถ้ากองทัพไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกัน พวกเขามีศักยภาพที่จะกั้นประชาชนอีกฝั่งหนึ่งได้
อีกเรื่องก็คือ ข้อกล่าวหาที่มาจากคนที่บ้านโป่ง คือก่อนหน้านี้เราไม่ได้ยินข้อกล่าวหาเรื่องการ ล้มเจ้า หรือไม่จงรักภักดี แล้วในวันนั้นเป็นเหตุการณ์แรกที่มีการกล่าวหา ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องที่เราจะไปตรวจการทุจริตที่ราชภักดิ์ ภายหลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็มีการโจมตีในโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีการโจมตีเรื่องที่นำไปผูกโยงกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ผมคิดว่าว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่อง บังเอิญ แต่เป็นความพยายามในการเบี่ยงเบนประเด็น ฉะนั้นมันน่ากังวลเหมือนกันเมื่อมีการเอาเรื่อง ม.122 มาเกี่ยวข้อง เพราะสังคมไทยพร้อมที่จะตราหน้าคนที่ถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นคนไม่จงรักภักดี ทั้งที่หลายๆ คดีมีหลักฐานอ่อนมากด้วยซ้ำไป
สิ่งหนึ่งที่พวกเราพยายามจับรับมือ ช่วยประชาชนที่โดนข้อกล่าวหาก็คือ การประสานงานกันทนายความ หรืออย่าง ธเนตร เราก็พยายามประสานงานกับ กสม. เพื่อให้มีการเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ถูกคุมขังว่าเป็นอย่างไร เราพยายามประสาน พยายามช่วยเหลือ
หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงไม่มีการตรวจเรื่องคอร์รัปชั่นในรัฐบาลก่อนหน้านี้
พูดกันตามตรงพวกเราเป็นนักศึกษา บางคนก็เพิ่งเรียนจบ ในแง่ของเครื่องไม้เครื่องมือ เราไม่ได้มีความสามารถที่จะเข้าไปตรวจอะไรได้มากขนาดนั้น ที่ทำอยู่นี่ก็อาศัยข้อมูลจากสื่อที่ออกมาตรวจสอบด้วยซ้ำไป แต่ปัญหาคือก่อนหน้านี้ มันเป็นสมัยรัฐบาลเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนสามารถออกมาทำหน้าที่นี้ได้อยู่แล้ว พวกเราเข้าไปแทบจะไม่มีประโยชน์เลยด้วยซ้ำ
พวกเราไม่เห็นด้วยกับการคอร์รัปชันของทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือการรัฐประหาร แต่สมัยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีคนที่มีความพร้อม และมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบมากกว่าเรา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน กลับไม่มีใครทำหน้าที่ตรงนี้ เราก็แค่ปลุกเร้ามโนธรรมสำนึกของคนในสังคมให้กล้าออกมาสอบสอบการทุจริตอีกครั้ง
อย่างการนั่งนถไฟไปราชภักดิ์ แน่นอนมันไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพียงแต่ว่าปัญหาของสังคมตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่พิสูจน์ได้หรือไม่ได้ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะไปตรวจสอบมากกว่า
คิดอย่างไร ต่อกรณีที่มีคนออกมาพูดว่าการออกมาตรวจสอบคอร์รัปชันของ NDM เป็นเพียงเป้าหมายหนึ่งที่นำไปสู่การล้มรัฐบาล
เรื่องนี้มันเหมือนเป็นการโจมตีเพื่อดิสเครดิตพวกเรา คำถามคือ ในสภาพวะอย่างนี้มันไม่มีให้ทำหน้าที่ตรวจสอบ การที่พวกเราออกมาพูดเรื่องนี้ก็เหมือนกับการออกมาเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งจะนำไปสู่ผลอะไรก็เป็นอีกเรื่อง เพียงแต่ว่าสิ่งที่มันต้องชัด และสิ่งที่เราเรียกร้องคือ คสช. ต้องทำให้มันสุจริต หาคนผิดมาดำเนินการตามกระบวนการให้ได้
นับตั้งแต่มีข่าวว่ามีการคอร์รัปชันในโครงการอุทยานราชภักดิ์ NDM ไม่ได้เคลื่อนไหวทันที เรามีการให้โอกาส ให้ระยะเวลา แต่สิ่งที่เกิดภายหลังที่ พลเอกธรีชัย นาควานิช แถลงข่าวมันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น นอกจากออกมาบิดเบื้อนว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แน่นอนว่าพวกเราไม่พอใจกับคำแถลงตรงนั้น แล้วเราก็เคลื่อนไหว
แน่นอนว่า NDM ไม่เอาการรัฐประหารมาตั้งแต่แรก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาดิสเครดิต สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ มันมีการโกงเกิดขึ้นจริงหรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น