พริษฐ์ ชิวารักษ์ โพสต์จดหมายขอโทษเหตุประท้วงมีชัย วานนี้ ยันไม่มีเบื้องหลัง พร้อมตั้ง 6 ข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสวัสดิการการศึกษาจากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ
6 เม.ย. 2559 จากกรณีวานนี้ (5 เม.ย.59) ระหว่างที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวปาฐกถาหัวข้อ กรอบแนวคิดในการร่างรัฐธรรมนูญของกรธ. เนื่องในวันสัญญาธรรมศักดิ์ ปี 2559 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งระหว่างที่มาการพูดถึงการปฏิรูปการศึกษานั้น ได้มี พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จากกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ลุกขึ้นชูป้ายที่มีข้อความว่า อย่าทำร้ายเยาวชน พร้อมเรียกร้องขอให้ดูแลการศึกษาของเยาวชนจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่และคณะอาจารย์ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยกลุ่มเยาวชน และขอให้ออกจากห้องปาฐกถาไป โดยภายหลัง มีชัย ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณ์เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาแสดงความเห็นต่อกรณีนี้ด้วยว่ามีเบื้องหลัง พร้อมสั่งให้มีการสอบในทางลึก และมีการให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเรื่องการต้องเข้าหลักสูตรอบรบกับคสช.ด้วยหรือไม่ ด้วย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ล่าสุดวันนี้ (6 เม.ย.59) พริษฐ์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Parit Chiwarak' ในลักษณะสาธารณะ ซึ่งเป็นจดหมายเปิดผนึกขอโทษมีชัย ยืนยันว่าตนเองไม่มีเบื้องหลัง พร้อมตั้ง 6 ข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสวัสดิการการศึกษาจากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามตินี้ด้วย
โดยมีรายละเอียดของจดหมายดังกล่าวดังนี้
กราบเรียน คุณปู่มีชัย ฤชุพันธุ์
หลานขอกราบสวัสดีคุณปู่อีกครั้ง และขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ได้บังอาจเสียมารยาทกับคุณปู่ในงานปาฐกถาเมื่อวาน หลานรู้ว่าหลานไม่ควรทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ตื่นตกใจเสียขวัญกลางที่ประชุมชน และหลานสำนึกผิดแล้วที่ไม่รั้งรอให้คุณปู่พูดจบก่อนจะยื่นจดหมายที่หลานเตรียมไว้ให้คุณปู่ ขอให้คุณปู่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานทุกท่านให้อภัยในความผิดพลาดของหลานและเพื่อน ๆ ด้วย
ที่หลานจำต้องเสียมารยาทไปเช่นนั้น ก็ด้วยหลานไม่ได้เห็นหน้าค่าตาคุณปู่นานแล้ว คุณปู่เองก็มีภาระร่างรัฐธรรมนูญฉบับ "ใครไม่รับสนับสนุนคนโกง" ซึ่งก็น่าจะหนักหน่วง หลานเองก็ไม่รู้ว่าจะนำเอาจดหมายเปิดผนึก "ข้อกังวล 6 ประการ" ไปให้คุณปู่ได้อย่างไร ข้อกังวลทั้ง 6 ข้อของหลานล้วนว่าด้วยผลกระทบของร่างรัฐธรรมนูญฉบับคุณปู่ต่อการศึกษาไทย ซึ่งคุณปู่ที่ก็เป็นถึงประธาน กรธ. ควรจะได้รับรู้ ในเมื่หลานไม่มีโอกาสยื่นกับมือคุณปู่ ก็ขอเรียนผ่านสเตตัสนี้ให้คุณปู่ทราบ ดังนี้
ประการแรก แม้คุณปู่จะบอกว่าการศึกษาในระดับก่อนวัยเรียนมีความสำคัญมาก แต่คุณปู่ต้องอย่าลืมว่าการศึกษาในระดับที่ปู่กังวลนั้นไม่จำเป็นต้องดำเนินอยู่ในโรงเรียน คุณปู่ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเด็ก ๆ จะไม่ได้เข้าโรงเรียนอนุบาลเพราะครอบครัวและชุมชนสามารถจัดการศึกษาก่อนวัยเรียนทดแทนได้ไม่ยากนัก อาจมีคุณภาพได้ดีกว่าระบบโรงเรียนด้วยซ้ำ แต่การศึกษาของเด็ก ม.ปลาย/ปวช. นั้น ครอบครัวและชุมชนก็ยากจะทดแทนโรงเรียนได้ คุณปู่ห่วงการศึกษาของเด็กอนุบาล แต่ก็อย่าลืมการศึกษาของเด็ก ม.ปลาย/อาชีวะด้วย
ประการที่สอง การดูแลการศึกษาของเด็กเล็กก่อนวัยเรียนนั้น ไม่ได้มีแต่โรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็กเท่านั้น แต่ยังมีกุมารแพทย์ มีบริการนักจิตวิทยาเด็ก นักพัฒนาการเด็ก ฯลฯ ไม่ทราบว่าคุณปู่และเพื่อน กรธ. ท่านอื่น ๆ ของคุณปู่ได้คำนึงถึงความช่วยเหลือส่วนนี้มากน้อยเพียงใด
ประการที่สาม ในปัจจุบัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จัดการศึกษาอนุบาลในราคาที่ต่ำมากจนไปถึงฟรีอยู่แล้วควบคู่ไปกับสวัสดิการเรียนฟรี ม.ปลาย อยู่แล้ว แม้ว่าปู่ต้องการจะสนับสนุนการศึกษาของเด็กเล็ก แต่หลานเห็นว่าคุณปู่ก็ไม่จำเป็นต้องลดทอนสวัสดิการเรียนฟรี ม.ปลาย-อาชีวะแต่อย่างใด
ประการที่สี่ แม้คุณปู่จะให้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้ได้เรียน ม.ปลาย/อาชีวะ ในลักษณะ "ฟรี" "ให้กู้" "ให้ยืม" เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แต่หลานเห็นว่า การผลักไสให้เพื่อน ๆ และรุ่นน้องของหลานไปพึ่งกองทุนนั่นเป็นการบีบบังคับให้พวกเขาตีตราตัวเองว่าเป็นผู้ยากไร้ เป็นการแบ่งแยกระหว่าง "เด็กพ่อมีตังค์" กับ "เด็กกองทุน" อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภาระพิสูจน์ความจนของตนเองอีกด้วย หลานกังวลเหลือเกินว่ากองทุนของคุณปู่นอกจากจะไม่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำแล้ว ยังอาจทำให้ปัญหาดังกล่าวหนักข้อขึ้นอีก
ประการที่ห้า หลานกังวลว่ากองทุนของปู่จะมีปัญหาด้านการบริหาร ที่จะทำให้มีเพื่อนนักเรียนของหลานตกหล่นออกจากทรัพยากรการศึกษา และจะต้องออกจากโรงเรียนไปโดยที่มีทักษะความรู้เพียงการศึกษาภาคบังคับ (ม.3) เท่านั้น คุณปู่และ กรธ. มีแนวทางรับมือปัญหานี้อย่างไร
ประการที่หก รัฐธรรมนูญของคุณปู่จะทำลายหลักประกันสวัสดิการการศึกษาของเด็ก ม.ปลาย/อาชีวะ จะทำให้การศึกษาของพวกเขาไม่ใช่สิทธิที่ประชาชนจะต้องได้ถ้วนหน้า กลายเป็นแค่สังคมสงเคราะห์ที่ประชาชนจะต้องไปกราบกรานขอมาจากรัฐ และจะกลายเป็นแต่วาระให้นักการเมืองใช้หาเสียงเท่านั้น
ข้อกังวลทั้ง 6 ข้อนี้ หลานเห็นว่าเป็นข้อกังวลที่จะกระทบกับอนาคตของประทศและเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของสังคมส่วนรวม จึงขอเรียนให้คุณปู่ที่ก็เป็นประธาน กรธ. มีตำแหน่งส่งสูง กับทั้ง กรธ. ทั้งคณะได้ทราบ เพื่อประเมินผลกระทบที่จะเกิดจากร่างรัฐธรรมนูญของคุณปู่ และหาแนวทางรับมือหรือรับผิดชอบต่อสังคมต่อไป
ทั้งนี้ ขอโทษทุกท่านสำหรับความวุ่นวายเมื่อวานอีกครั้ง วันนี้เป็นวันหยุดวันจักรี ขอให้คุณปู่มีชัยรักษาสุขภาพกายและใจ และวางใจได้ว่าผมไม่ได้มีเบื้องหลังอะไรสนับสนุนนอกจากความหวังและกำลังใจจากพี่น้องนักเรียนและผู้ปกครองที่ห่วงใยการศึกษาเช่นเดียวกับผม ผมหวังว่าเราจะได้มีโอกาสได้พบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันประสา ปู่-หลานอีกครั้ง
ด้วยรัก เคารพและคิดถึง
พริษฐ์ ชิวารักษ์
6 เมษายน 2559
จดหมายฉบับเก่า
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1695086690751401&id=100007502595269
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น