จับตาคดียึดสนามบิน ( จากรัฐบาลโจร กลัวไส้โผล่ ) ข่าวสดเช้านี้
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7386 ข่าวสดรายวัน
http://www.internetfreedom.us/thread-13845.html
จับตาคดียึดสนามบิน
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ความ เป็นม็อบมีเส้นนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่รัฐบาลเส้นใหญ่ก็ยังกลัวๆ เกรงๆ ม็อบนี้อยู่ ทั้งที่ทุกวันนี้อยู่ในสภาพแตกคอกัน ฝ่ายม็อบมีเส้นเปิดเวทีด่ารัฐบาล ด่านายกฯ ด่ารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสาดเสียเทเสีย
ไม่เว้นผู้นำทัพบก แม่ทัพภาค 2 ด่ากราดไม่มีชิ้นดี จนบางคนฟังแล้วอาจจะหลงเชื่อว่าทหารยุคนี้ไร้ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิแล้ว!?
ข้อบ่งชี้ล่าสุดที่ว่า รัฐบาลถูกม็อบมีเส้นจิกหัวด่าก็ยังไม่กล้าหือ ก็คือ เหตุการณ์ที่พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. ต้องลาออกจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรยึดสนามบิน
นายตำรวจระดับนี้ มีหัวจิตหัวใจนักสู้ ทำคดียึดสนามบินมาอย่างไม่สะท้านต่อแรงเสียดทานใดๆ
ทุ่มเทจริงจัง เงินทองค่าใช้จ่ายควักเองจนกระเป๋าฉีก
อุตส่าห์เดินหน้าจนมาถึงจุดที่กำลังจะสรุปสำนวนส่งอัยการอยู่แล้ว จู่ๆ ลาออก ย่อมมิใช่ประเด็นถอดใจ
แต่น่าจะเป็นเพราะมีกับดักร้ายแรงรออยู่ จนไม่อาจเสี่ยงต่อไปได้!
โดยทั้งหมดนี้น่าคิดว่า ทำไมรัฐบาลไม่ปกป้องพนักงานสอบสวนในคดีนี้
ไม่ได้หมายความว่าจะให้ใช้อำนาจรัฐบาลในทางที่ผิด
เพราะคดียึดสนามบินนั้น พยานหลักฐานโจ่งแจ้ง ไม่ต้องกลั่นแกล้งอะไรใครเลย เพียงแต่กล้าทำตรงไปตรงมา
เลยสงสัยว่า แค่ช่วยคุ้มครองให้พนักงานสอบสวนทำคดีไปตามปกติ
ทั้งที่รัฐบาลโดนม็อบมีเส้นเล่นใต้เข็มขัดตลอด กลับไม่ช่วยสนับสนุน!
แล้วที่ต้องจับตามองต่อไปสำหรับคดีนี้ ต้องเฝ้าระวังกันให้ดี
อาจมีปรากฏการณ์ที่ยิ่งกว่า 2 มาตรฐานเกิดขึ้นอีกในประเทศนี้
เพราะล่าสุดในวันที่พล.ต.ท.สมยศเซ็นใบลาออกนั้น เป็นวันเดียวกับที่ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมด จัดเข้าแฟ้มส่งไปยังผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แฟ้มคดีนี้แหละที่ต้องจ้องกันอย่างห้ามกะพริบตา!
จะส่งถึงมืออัยการเมื่อไร ขณะที่วันเวลาทางคดีมันกระชั้นเข้ามาทุกที
อย่าให้เกิดเรื่องอัปยศ
ประเภทส่งฟ้องไม่ทัน ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด อะไรทำนองนั้น!?
หรือว่าอิทธิฤทธิ์ของคนมีเส้นนั้น ทำให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนเห็นลางร้ายของคดีนี้
จนไม่อาจนั่งรอให้ตัวเองเลือดสาดคาเก้าอี้
http://www.internetfreedom.us/thread-13845.html
จับตาคดียึดสนามบิน
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ความ เป็นม็อบมีเส้นนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่รัฐบาลเส้นใหญ่ก็ยังกลัวๆ เกรงๆ ม็อบนี้อยู่ ทั้งที่ทุกวันนี้อยู่ในสภาพแตกคอกัน ฝ่ายม็อบมีเส้นเปิดเวทีด่ารัฐบาล ด่านายกฯ ด่ารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสาดเสียเทเสีย
ไม่เว้นผู้นำทัพบก แม่ทัพภาค 2 ด่ากราดไม่มีชิ้นดี จนบางคนฟังแล้วอาจจะหลงเชื่อว่าทหารยุคนี้ไร้ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิแล้ว!?
ข้อบ่งชี้ล่าสุดที่ว่า รัฐบาลถูกม็อบมีเส้นจิกหัวด่าก็ยังไม่กล้าหือ ก็คือ เหตุการณ์ที่พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. ต้องลาออกจากหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรยึดสนามบิน
นายตำรวจระดับนี้ มีหัวจิตหัวใจนักสู้ ทำคดียึดสนามบินมาอย่างไม่สะท้านต่อแรงเสียดทานใดๆ
ทุ่มเทจริงจัง เงินทองค่าใช้จ่ายควักเองจนกระเป๋าฉีก
อุตส่าห์เดินหน้าจนมาถึงจุดที่กำลังจะสรุปสำนวนส่งอัยการอยู่แล้ว จู่ๆ ลาออก ย่อมมิใช่ประเด็นถอดใจ
แต่น่าจะเป็นเพราะมีกับดักร้ายแรงรออยู่ จนไม่อาจเสี่ยงต่อไปได้!
โดยทั้งหมดนี้น่าคิดว่า ทำไมรัฐบาลไม่ปกป้องพนักงานสอบสวนในคดีนี้
ไม่ได้หมายความว่าจะให้ใช้อำนาจรัฐบาลในทางที่ผิด
เพราะคดียึดสนามบินนั้น พยานหลักฐานโจ่งแจ้ง ไม่ต้องกลั่นแกล้งอะไรใครเลย เพียงแต่กล้าทำตรงไปตรงมา
เลยสงสัยว่า แค่ช่วยคุ้มครองให้พนักงานสอบสวนทำคดีไปตามปกติ
ทั้งที่รัฐบาลโดนม็อบมีเส้นเล่นใต้เข็มขัดตลอด กลับไม่ช่วยสนับสนุน!
แล้วที่ต้องจับตามองต่อไปสำหรับคดีนี้ ต้องเฝ้าระวังกันให้ดี
อาจมีปรากฏการณ์ที่ยิ่งกว่า 2 มาตรฐานเกิดขึ้นอีกในประเทศนี้
เพราะล่าสุดในวันที่พล.ต.ท.สมยศเซ็นใบลาออกนั้น เป็นวันเดียวกับที่ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมด จัดเข้าแฟ้มส่งไปยังผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แฟ้มคดีนี้แหละที่ต้องจ้องกันอย่างห้ามกะพริบตา!
จะส่งถึงมืออัยการเมื่อไร ขณะที่วันเวลาทางคดีมันกระชั้นเข้ามาทุกที
อย่าให้เกิดเรื่องอัปยศ
ประเภทส่งฟ้องไม่ทัน ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด อะไรทำนองนั้น!?
หรือว่าอิทธิฤทธิ์ของคนมีเส้นนั้น ทำให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนเห็นลางร้ายของคดีนี้
จนไม่อาจนั่งรอให้ตัวเองเลือดสาดคาเก้าอี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น