วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

จดหมายแฉ(ฉบับที่ 3)ของคุณชุติมา แสนสินรังษี
http://internetfreedom.us/thread-19720.html



[Image: index.php.jpeg]

โดย ณ รักคนเสื้อแดง เมื่อวันอังคาร ที่ 05 April 2011

****จดหมายฉบับที่ 3 ลงวันที่ 5 ธันวาคม 2553***

เรื่อง "ตาสว่างจะบังเกิด"

กราบเรียน คณะท่านนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฏีกา
และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน

ข้าพเจ้า น.ส.ชุติมา แสนสินรังษี ได้ทำหนังสือฉบับนี้ขึ้นด้วยความจริงทุกประการ โดยปราศจากความบังคับ ขู่เข็ญ หรืออคติใดๆ ต่อบุคคลใด หรือองค์กรใดๆทั้งสิ้น ข้าพเจ้าครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน ว่าเหตุใด ข้าพเจ้าจึงถูกออกหมายจับโดยพนักงานสอบสวน ทั้งที่ข้าพเจ้ามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับความผิดต่างๆเลย เชื่อได้ว่าต้องเป็นปัจจัยต่างๆดังที่ข้าพเจ้าจะได้บรรยายดังต่อไปนี้

1.ข้าพเจ้าปฎิบัติหน้าที่อยู่หน้าห้องประธานศาลรัฐธรรมนูญ นาย ชัช ชลวร ตั้งแต่ปฎิบัติหน้าที่ลูกจ้างชั่วคราวตามโครงการ จนหลังสุดในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญศาล เพราะท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญไว้ใจข้าพเจ้า มอบหน้าที่สำคัญน้อยใหญ่ทั้งใน และนอกเวลาราชการ และให้ความเป็นกันเองจนถึงที่สุึด ซึ่งบางขณะที่ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญประชุมลับในสถานที่ต่างๆ เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปเตรียมอาหาร ของว่าง ท่านก็ไม่ได้หยุดการหารือ จึงทำให้ข้าพเจ้าได้ทราบถึงประเด็นสำคัญระดับประเทศหลายครั้ง หลายครา ตัวอย่างเช่น ครั้งที่มีการประชุมนอกรอบที่โรงแรม ปาร์คนายเลิศ ข้าพเจ้าได้เห็นและได้ยินท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญ และท่าน เฉลิมพล เอกอุรุ นางพรทิวา ไสวสุวรรณวงษ์ พ.ต.สุรทัศน์ บุนนาค นายพศิษฐ์ ศักดาณรงค์ และเจ้าของโรงแรมชื่อแต๊ก กับผู้ช่วยชื่อประสิทธิ์ ได้หารือกัน โดยนายเฉลิมพล เอกอุรุ เสนอให้ยุบพรรคการเมืองให้ทั้งหมด 3 พรรค โดยท่านพูดในขณะที่นางพรทิวา เดินไปเข้าห้องน้ำ ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญเห็นด้วย ส่วนนายพศิษฐ์พูดว่า ให้ว่าไปตามถูกผิด ท่านประะานฯจึงมอบหมายให้นายพศิษฐ์ ติดต่อคณะตุลาการทุกท่าน หารือความคิดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยสั่งห้ามไม่ต้องตาม"ไอ้จุ๊ย"มันเป็นพวก"บรรหาร" เดี๋ยวก็มาป่วนจนเสียงแตก เป็นคำพูดของประธานศาลรัฐธรรมนูญสั่งกับนายพศิษฐ์ ส่วนท่านเฉลิมพล เอกอุรุ ก็พูดว่า พวกเสื้อแดงคงจะล้อมศาลเรา จะเอายังงัยกันดี....แต่ผมจะล็อบบี้เสียงตุลาการให้ยุบทั้ง 3 พรรคเอง เดี๋ยวคืนนี้เราเปิดห้องแล้วผมจะจัดการ ท่านประธานก็ช่วยอีกแรงก็แล้วกัน นางพรทิวาไม่ได้เดินกลับมา แต่ได้ไปเตรียมคำวินิจฉัยตามธง ได้ยินท่านประธานโทรศัพท์สั่งให้ไปทำที่ ทาวเวอร์ปาร์ค ครั้นพอตกดึก คณะตุลาการก็มาประชุมกันทุกท่านที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ ยกเว้น นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ และนายนุรักษ์ มาปราณีต จากนั้นก็มีการประชุมกันในห้องสวีท ข้าพเจ้าจัดเตรียมอาหารว่าง และน้ำชาเสิรฟ์แก่ตุลาการทุกท่าน มีมติยุบทั้ง 3 พรรค โดยท่านอุดมศักดิ์ มิติมนตรีพูดว่า ประสานไปที่ศาลปกครองแล้ว พรุ่งนี้ไปอ่านที่นั่นกันได้เลย นายพศิษฐ์ได้รับมอบหมายอะไรไม่ทราบ เพราะปิดประชุมห้องประชุมเล็ก ถัดจากนั้นนายพศิษฐ์ก็สั่งให้ข้าพเจ้ากลับบ้าน และไม่ต้องไปศาลปกครองในวันรุ่งขึ้น กำชับนักหนาว่า วันนี้ไม่รู้ไม่เห็นอะไร

2.จากนั้นข้าพเจ้าได้เห็นนายบุญนาค ทรวดทรง และนายวิจิตร พนักงานขับรถของท่านประธานเดินสวนกลับข้าพเจ้าบริเวณลิฟท์ด้านล่าง ข้าพเจ้าได้ยินได้เห็นว่าท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายพศิษฐ์ให้ต่อ โทรศัพท์ โดยใช้เครื่องของนายพศิษฐ์ ไปถึงนายพีระพันธ์ (กระทรวงยุติธรรม) และท่านประธานพูดจานัดแนะให้นายพีระพันธ์ กับนายพศิษฐ์ไปพบกัน โดยท่านประธานสั่งว่าอัดภาพและเสียงมาด้วย จากนั้นข้าพเจ้าก็ไปพบนายพีระพันธ์ พร้อมกับนายพศิษฐ์ ที่ร้านแพลทฟอร์มใกล้สถานีรถไปสามเสน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ข้อ1 ข้างต้น หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ที่ร้านอาหารเดิมประมาณ 20 นาฬิกา มีการปิดห้องคุยกัน 3 คน ประกอบไปด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในขณะนั้น นายพีระพันธ์ สารีรัฐวิภาค และนาย พศิษฐ์ ศักดาณรงค์ พูดคุยกันชั่วโมงเศษ วันนั้นเป็นวันเดียวกับที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประกาศ พรบ.ฉุกเฉินบางพื้นที่ เมื่อพูดคุยกันเสร็จ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินออกมาพูดกับข้าพเจ้าว่า ขอบคุณมากอุตสาห์เฝ้าหน้าห้องให้ แล้วจึงแยกย้ายกันกลับ

3.ข้าพเจ้าได้มีโอกาสติดตามท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนายพศิษฐ์ ศักดาณรงค์เดินทางไปยังห้องประชุมใหญ่กองทัพบก ตรงข้ามสนามมวยราชดำเนิน เพราะมีแฟ็กซ์ของฝ่ายทหาร เรียกหน่วยงานข้าราชการเข้าประชุม โดยขณะเดินทาง นายพศิษฐ์ พูดกับประธานว่า ไม่น่ามาเลย มีประชุมตุลาการอยู่ ท่านประธานกล่าวตอบว่า โอกาสทองมาแล้ว เขาเชิญประธานศาลรัฐธรรมนูญด้วย เดี๋ยวพี่จะหาทางโน้มน้าวไม่ให้อนุพงศ์ปฏิวัติ ปอยไปติดต่อ สรรเสริญ แก้วกำเนิด พี่เลิกประชุมกันแล้ว อยากขอพบเป็นการส่วนตัว จะได้บอกวันยุบพรรค ปอยว่าเขาจะเลิกคิดปฎิวัติมั๊ย นายพศิษฐ์ตอบว่าคือ 1 เลิกคิดปฎิวัติ 2 กลัวถูกนายกปลด ไม่ก็ไปประจำสำนักนายก ตรงนี้เดี๋ยวปอยกล่อมเอง ซึ่งเป็นไปตามที่วางแผนไว้ หลังพลเอกอนุพงศ์ เผ่้าจินดา ประชุมหัวหน้าหน่วยราชการเสร็จ นายพศิษฐ์ กับ สรรเสริญ แก้วกำเนิด เชิญท่านประธานขึ้นไปพบพลเอกอนุพงศ์ที่ห้องทำงาน โดยมี ทส.ชื่อปริญบอกให้ข้าพเจ้่ารออยู่หน้าห้องโดยทั้ง 3 คน คุยกัน 20 นาที เมื่อออกมา พลเอกอนุพงศ์พูดกับนายพศิษฐ์ว่าเป็นหลานพลโทวิทยา แล้วจึงเดินมาส่งที่ลิฟท์ และโค้งคำนับด้วยความสุภาพยิ่ง แต่ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญ พ.อ.สรรเสริญได้เดินมาส่งพวกเราทุกคนในรถ ขณะเดินทางกลับ ท่านประธานศาลพูดกับนายพศิษฐ์ว่า"ปอยกล่อมเก่งไม่ปฏิวัติแล้ว พี่ไม่หลุดเก้าอี้แล้ว ไม่งั้นฉิบหาย มานั่งได้แป๊บเดียว เดี๋ยวปอยก็นัดน้าตุ๋ยกับอภิสิทธิ์ บอกให้เตรียมพลิกขั้ว พี่จะคุมเสียงไม่ให้แตก เที่ยวนี้ผลงานชิ้นโบว์แดง ได้เป็นองคมนตรีแน่

4.ข้าพเจ้า ได้ยินได้เห็นท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายพศิษฐ์ให้อัดภาพและเสียงโดยพูด ว่า ปอยไปหลอกจรูญ กับสุพจน์ ให้มันรับเรื่องโกงข้อสอบ และอัดเด็กๆของพวกมันด้วย มันจะโค่นพี่ลงจากประธาน แล้วไปรวมหัวกับไอ้เชื้อโรคแล้วรีบเอามาให้พี่เร็วที่สุด ไม่ต้องไรท์ลงซีดี เีดี๋ยวพี่ให้คนทำด่วน แล้วหันสั่งข้าพเจ้าว่า ปุ๊กหยิบเครื่องอ่านตัวเล็กสิ ข้าพเจ้าจึงหยิบส่งให้ท่านประะาน แล้วเดินออกไปนอกห้อง

5. ข้าพเจ้าได้เห็นและได้ยินท่านประะานศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายพศิษฐ์ว่า พี่จะไปเมืองนอก ปอยช่วยไปวิ่งรางวัลสัญญา ธรรมศักดิ์ให้พี่หน่อย เอาแบบรับรองผล 100% นายพศิษฐ์บอกว่า"พี่ไม่ต้องเป็นห่วง"

6.ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนถ่านแบตเตอรี่กระเป๋าใบ หิ้วขนาดเล็กซึ่งภายในบรรจุกล้องอัดภาพและเสียงขนาดเล็ก ก่อนลงไปประชุมคณะกรรมการตุลาการเกือบทุกครั้ง

7.ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญพูดกับข้าพเจ้าเสมอว่า"ผมไว้ใจปุ๊กมาก อะไรที่ส่งเสริมได้ผมก็จะส่งเสริม ไม่ใช่มีแต่จรูญคนเดียวที่ส่งเสริมปุ๊ก ตั้งใจทำงานดีดี อย่าซุ่มซ่าม

8.ข้าพเจ้าได้ยินนายพศิษฐ์โทรศัพท์คุยกันกับท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายพศิษฐ์พูดว่า "พี่วิรัช กับวรวุชนัดปอยอีก เอางัยพี่" แล้วนายพศิษฐ์หัวเราะ แล้วพูดต่อว่า"โอเคครับพี่"นายพศิษฐ์นั่งนิ่งไปสักพักแล้วพูดต่อไปว่า"อย่า ทำเลยพี่ มันแรงไป" แล้วนั่งฟังโทรศัพท์ไปอีกพักหนึ่งแล้วพูดว่า"ปอยเอาอีกเครื่องโทรบอกชวนนท์ แล้วขอใช้ร้านพูดดี้ด่วน ถ้าพี่จะทำพี่สั่งคนมาทำเองแล้วกัน จากนั้นนายพศิษฐ์เดินไปร้าน พูดดี้กับข้าพเจ้า โดยมีชายผิวคล้ำรูปร่างสันทัดรออยู่ที่ชั้น 2 ห้องอาหารดังกล่าว นายพศิษฐ์ส่ายศรีษะ จากนั้นข้าพเจ้ากับนายพศิษฐ์จึงสั่งอาหารมารับประทานที่ชั้น 2เป็นห้องพิเศษไม่มีผู้อื่นอยู่ นายพศิษฐ์รับโทรศัพท์แล้วพูดว่า"พี่วุธ ไม่ต้องรับแถลงตอนนี้อยู่สภาใช่มั๊ยขับเองก็อย่างนี้แหละ"แล้วก็วาง จากนั้นข้าพเจ้าเห็นนาย วิรัช ร่มเย็น นายวรวุธ จึงทักทายและทานอาหารร่วมกันทานไปได้สักครู่นายพศิษฐ์สั่งให้ข้าพเจ้าเดินไป รอข้างล่าง ทั้งที่ข้าพเข้ายังรับประทานอาหารอยู่ ข้าพเจ้าจึงเดินไปรอข้างล่าง แล้วนายพศิษฐ์จึงโทรเรียกขึ้นไปอีกครั้งหนึ่ง โดยมอบโทรศัพท์และสูทสีเขียวของสถาบันพระปกเกล้า พร้อมสั่งข้าพเจ้าว่าเอาลงไปข้างล่าง ขณะนั้นทุกคนเพื่งเริ่มรับประทานอาหารไปได้สักพักโดยนายวรวุธมองหน้า ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงลงไปรอข้างล่างจากนั้นครึ่งชั่วโมงนายพศิษฐ์ก็โทรศัพท์อีก

9.ข้าพเจ้าได้ยินท่านประธานศาลฯสั่งเลขาธิการและนายพศิษฐ์ที่หน้าลิฟต์วีไอ พีชั้น 9 ก่อนลงประชุมคณะตุลาการว่าโครงการใหญ่ ลองช่วยไปดูหน่อยเด็กท่าน...(ขอไม่เอ่ยชื่อ)..อยากได้แบบเขาไม่มีกำไรเลย นายพศิษซ์หัวเราะและส่ายศรีษะ ส่วนท่านเลขาฯเกาศรีษะ แล้วนายพศิษฐ์พูดว่า"ใครดีใครได้ครับ ไม่รู้ดีจากอะไร ได้จากอะไร พี่ว่างัย" เลขาตอบว่ามันเป็นเรื่องของกรรมการ

10.ข้าพเจ้าเดินทางไปพบประธานศาลรัฐรรมนูญที่บ้านพร้อมนายพศิษฐ์ เวลานั้นข้าพเจ้ารออยู่ในรถ ส่วนนายพศิษฐ์เดินเข้าไปพบท่านประธานศาลฯในบ้านใช้เวลาประมาณ 20 นาที นายพศิษฐ์เดินออกมาขับรถตามท่านประธานไปที่ศาล นายพศิษฐ์ไปถึงก่อน ข้าพเจ้าจึงเตรียมกาแฟไว้ให้ท่านประธานขณะที่เดินเข้าไปในห้องท่านประธาน เพื่อเสิรฟ์กาแฟนั้นข้าพเจ้าได้ยินนายพศิษฐ์พูดกับท่านประะานว่ารายชื่อ สรรหาที่ล็อกไว้ ปอยให้คุณหญิงจารุวรรณที่ศาลปกครองแล้วเมื่อเช้าก่อนที่จะไปหาพี่ที่บ้าน พี่น่าจะให้โควต้าจรูญบ้าง ตุลาการคนอื่นๆบ้างเหมือนกัน ท่านประธานตอบว่า นี่เป็นอำนาจของประธานที่เป็นกรรมการสรรหาไม่ใช่พวกมัน ปอย 40 พอดีพี่จะวิ่งให้เองตั้ง 6 ปี แต่ปอยตอบว่าไม่เห็นอยากเป็นเลย จากนั้น 2-3วันข้าพเจ้าพบนายจรูญชั้น 9 ท่านถามข้าพเจ้าว่า"ปุ๊ก ชัชมันเตรียมชื่อสรรหาสว.เสร็จรึยัง พอรู้บ้างมั๊ย" ข้าพเจ้าตอบกลับไปว่า ไม่แน่ใจค่ะ ท่านจรูญพูดว่า ไปสืบให้หน่อย อย่าลืมน่ะผมช่วยคุณผ่านผู้เชี่ยวชาญฯ คนของผมเขาก็อยากเป็น..ช่วยกันบ้าง..แล้วก็เดินไป

**หมายเหตุผมคัดลอกมาแค่บางส่วนของจดหมายฉบับที่ 3 จากทั้งหมด 4 ฉบับ**
เขียนโดย หน่วยงานลับแดงใต้ดิน ที่ วันอังคาร, เมษายน 05, 2011

ที่มา:http://www.prachatalk.com/สังคม-การเมือง/จดหมายแฉ(ฉบับที่ 3)ของคุณชุติมา-แสนสินรังษี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น