วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

กอ.รมน. แฉอภิสิทธิ์เน่าเหม็น


นายทหารเอก  กรุงธน

          ฝ่ายทหารได้ใช้หน่วยงาน กอ.รมน.ออกสำรวจความคิดเห็นของประชาชน  และส่งหน่วยออกปฏิบัติการจิตวิทยาเพื่อสลายความคิดและสมานฉันท์ระหว่างฝ่ายเหลืองกับแดง  แต่ปรากฏว่าข้อสรุปล่าสุดเมื่อ  3 สิงหาคม  2553  ที่ฝ่ายทหารได้ทำรายงานเสนอ ผอ.รมน.(นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.รมน.โดยตำแหน่ง) ปรากฏว่าฉีกหน้านายอภิสิทธิ์ไม่มีชิ้นดี และจากข้อสรุปสำคัญคือประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าผู้ที่ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ตัวจริงนั้นมิใช่ใครอื่นแท้จริงคือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  ซึ่งเป็นรายงานที่น่าเชื่อถือเพราะสรุปจากการออกพื้นที่ของทหารหลายหน่วยและผู้รายงานคือ พล.ท.อักษรา  เกิดผล (ผอ.สนย.กอ.รมน.) ลูกชายของพลเอกสายผล  แกนนำฝ่ายเสื้อเหลืองแท้ๆ

          เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เห็นเนื้อแท้ของข้อสรุปรายงานฝ่ายทหาร  ผู้เขียนจะขอยกเนื้อความบางตอนที่สำคัญมาให้ท่านได้อ่านโดยไม่เพิ่มเติมเนื้อความหรือความเห็นใดๆ เพียงแต่ต้องปกปิดตัวเลขในเอกสาร  สถานที่  หรือชื่อบุคคลบางคน  เพื่อป้องกันไม่ให้รู้ว่าได้เอกสารนี้มาจากแหล่งข้อมูลใด  ดังนี้

                   1.2.1.2 ท่าที/ทัศนคติของประชาชน
                             1.2.1.2(1) ยังคงรักและให้ความนิยมในตัวของอดีต นรม.เป็นอย่างมากโดยในช่วงที่ผ่านมา  มวลชนกลุ่ม นปช.เคยมีการจัดกิจกรรมการเลี้ยงโต๊ะจีนในหมู่บ้านมาแล้ว 2-3 ครั้ง มีมวลชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก
1.2.1.2(2) เห็นว่ารัฐบาลควรเร่งยุบสภาเลือกตั้งใหม่  เนื่องจากเป็นวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตยที่ดีกว่าการแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆเข้ามาแก้ไขปัญหา  และเมื่อถึงเวลาการเลือกตั้งใหม่ ประชาชนจะกลับมาเป็นมิตรกันอีกครั้งหนึ่ง
1.2.1.2(3)เห็นว่ารัฐบาลมีความลำเอียง  โดยการให้ความสนใจประชาชนระดับชั้นกลางมากกว่าประชาชนระดับรากหญ้า
1.2.1.2(4) เชื่อว่ามวลชนกลุ่ม นปช.จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง  เนื่องจากความรู้สึกไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาลของประชาชน  ยังคงอยู่ในระดับเดิม  ประกอบกับข้อเรียกร้องต่างๆ ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล

                              1.2.2.2(1) เห็นว่า นรม.ไม่เหมาะสมที่จะดำรงอยู่ในตำแหน่ง  เนื่องจากมุ่งแต่ดำเนินการทุกวิถีทาง  เพื่อให้สามารถดำรงอยู่ในตำแหน่ง นรม.
                             1.2.2.2(2)ประชาชนส่วนใหญ่  มีแนวโน้มต่อต้านรัฐบาล  เนื่องจากเห็นว่ามีแต่คำพูด แต่มิได้ทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม  ผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนเห็นชัดเจน มีเพียงการปราบปรามประชาชนเท่านั้น  และ นรม.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะผู้สั่งการ


                              1.2.3.2(1) ประชาชนกว่าร้อยละ 90 ยังคงรักและให้ความนิยมในตัวของอดีต นรม.เป็นอย่างมาก รวมทั้งต้องการให้กลับมาเป็น นรม. อีกครั้งหนึ่ง  เนื่องจากเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
                             1.2.3.2(2) เห็นว่ารัฐบาลสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้เพียงประการเดียว คือ  การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว  เนื่องจากไม่มีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  อีกทั้งไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ เพื่อสร้างความปรองดองให้แก่คนในชาติ

                             1.2.4.2(1) เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีผลงานอันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม  จึงควรเร่งยุบสภาโดยเร็ว
                             1.2.4.2(2) เชื่อว่าแผนปรองดองแห่งชาติเป็นการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของรัฐบาลมากกว่าจะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติ

                             1.2.5.2(1) มีความชื่นชมในผลงานของอดีต นรม.เป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการสนับสนุนกองทุนเงินล้านให้แก่ทุกหมู่บ้าน
                             1.2.5.2(2) ต้องการให้ นรม.ยุบสภาเลือกตั้งใหม่โดยเร็วเพื่อที่จะได้ นรม.ที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง  และเมื่อผ่านการเลือกตั้งใหม่แล้วเชื่อว่าความปรองดองของคนในชาติก็จะเกิดขึ้นได้เอง  โดยไม่ต้องอาศัยการทำงานของคณะกรรมการสร้างความปรองดองคณะใดๆ ทั้งสิ้น

                             1.2.6.2(1) เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้  มิได้ทำหน้าที่ที่ควรกระทำ  แต่กลับมุ่งออกคำสั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหว  สลาย/จับกุมกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น
                             1.2.6.2(2) เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้บริหารงานแบบสองมาตรฐาน  โดยเห็นชัดเจนในเรื่องความแตกต่างของการดำเนินการต่อกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง  ระหว่างกลุ่ม นปช.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
                             1.2.6.2(3) เห็นว่า นรม.ไม่มีน้ำใจนักกีฬาใช้เล่ห์เหลี่ยม  เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง นรม.โดยมิได้ผ่านความเห็นชอบจากประชาชน  อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบและวุ่นวายมาจนถึงปัจจุบัน
                             1.2.6.2(4) ไม่รู้สึกโกรธแค้นทหารที่สังหารประชาชนเนื่องจากเห็นว่าเป็นการกระทำตามคำสั่งของ นรม.และประชาชนจะไม่รับรองความปลอดภัย หาก นรม.เดินทางไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่

1.2.7.2(1) เห็นว่ากลุ่ม นปช.มีสิทธิชอบธรรมในการเดินทางไปรวมตัวกันที่ กทม.เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย รวมทั้งรู้สึกเห็นใจมวลชนกลุ่ม นปช.ที่ถูกสังหาร แต่ไม่มีประชาชนในหมู่บ้านแห่งนี้ เดินทางมาร่วมชุมนุมที่ กทม.
                             1.2.7.2(2)เห็นว่าการพำนักอยู่ในประเทศไทยของ นรม. คือ ต้นเหตุความแตกแยกของคนไทย และ การเกิดความไม่สงบของบ้านเมืองในปัจจุบัน
                             1.2.7.2(3) รู้สึกไม่พอใจที่รัฐบาลนำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาแอบอ้าง  โดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าว  รัฐบาลเป็นผู้ที่ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์เสียเอง

1.2.2.1ท่าที/ทัศนคติของเจ้าหน้าที่รัฐ
1.2.2.1(1) เห็นว่าหน่วยเหนือควรทำความเข้าใจและคำนึงถึงประเด็นสำคัญในเรื่องกลไกของรัฐที่มีถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ จว.ข.ก.ซึ่งล้วนมีปฏิสัมพันธ์และอยู่ร่วมกับประชาชนในพื้นที่มาหลายชั่วอายุคน  จึงย่อมมีความรู้สึกผูกพันกันฉันญาติและเพื่อน  ดังนั้น  การกระทำใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรงต่อประชาชนในพื้นที่จึงนับเป็นความยากลำบากต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก
1.2.2.1(2) เห็นว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับ มวลชนกลุ่ม นปช.เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาบานปลายขึ้นได้

                   2. สนย.กอ.รมน.พิจารณาแล้ว  มีความเห็นดังนี้
                   2.1 ท่าที/ทัศนคติของประชาชนในภาพรวม  ประชาชนยังคงมีทัศนคติเชิงบวกต่อ อดีต นรม. และมีทัศนคติเชิงลบต่อรัฐบาล  อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่าการเลือกตั้งใหม่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างความสมานฉันท์

                   2.2 ข้อสังเกตสำคัญที่ตรวจพบในระหว่างตรวจเยี่ยมฯ คือ เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่บางส่วน  ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาล/หน่วยเหนือ ซึ่งถือเป็นบุคคลภายนอกพื้นที่ สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ดำเนินการด้วยความรุนแรงต่อมวลชนกลุ่ม นปช. ในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่ ต่างก็มีความสัมพันธ์ในอดีตกันมาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน  การทำร้ายคนในพื้นที่ด้วยกันเอง  จึงเป็นสิ่งที่ยากลำบากในการปฏิบัติ
                   2.3 เพื่อให้การดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่  และการวางแผนแก้ไขปัญหาของรัฐบาล  เป็นไปด้วยความรอบคอบและเหมาะสม  ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการ  จึงเห็นสมควรให้ สนย.กอ.รมน.แจ้งข้อมูลดังกล่าวให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทราบ  เพื่อพิจารณาใช้ประโยชน์ในการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา  สนับสนุนการบริหารงานของรัฐบาลต่อไป
ข้อสรุปของฝ่ายทหารเช่นนี้  แสดงชัดเจนว่าเกียรติยศของนายอภิสิทธิ์เกิดเน่าเหม็นไม่มีชิ้นดีแล้ว  และฝ่ายทหารก็น่าจะมีข้อสรุปชัดเจนแล้วว่า  รัฐบาลนายอภิสิทธิ์กลายเป็นชนวนระเบิดที่สร้างความแตกแยกของคนไทย

          ก็ยังไม่รู้ว่าทหารจะอุ้มนายอภิสิทธิ์อยู่ต่อไปเพื่ออะไรกัน
นายทหารเอกกรุงธน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น