ปฏิญญาสมัชชาประชาชนเสื้อแดงในอเมริกา :เจตนารมณ์และข้อเรียกร้องประชาธิปไตยแท้จริง | |
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์ 26 เมษานยน 2554 สมัชชาประชาชนเสื้อแดงไทยในอเมริกา แถลงว่า คนเสื้อแดงในอเมริกาทุกกลุ่มผนึกพลังร่วมประชุมในลักษณะสมัชชาประชาชนเมื่้อวันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา (ตามเวลาเช้าวันจันทร์ของประเทศไทย) ณ โรงแรม Double Tree Hotel เมือง Commerce ในนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชุมมีมติให้ประกาศเจตนารมณ์ 7 ประการ และข้อเรียกร้อง 5 ข้อ การประชุมมีคนเสื้แปแดงจากหลายรัฐส่งตัวแทนเข้าร่วม ส่วนรัฐที่เดินทางมาไม่ได้ด้วยตัวเอง ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านอินเตอร์เนตด้วยการ skype บรรยากาศที่ประชุมสมัชชาฯ เสรีภาพในการแสดงออก บางถ้อยคำที่หน้าห้องสมัชชา บรรยากาศการอภิปราย ส.ส.ดร.สุนัย จุลพงศธร อาจารย์จรัล ดิษฐาภิชัย ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง การประชุมเริ่มต้นด้วยตัวแทนสมาชิกในที่ประชุมกว่า 150 ท่านร่วมกันเปล่งเสียงอย่างกึกก้องส่งกำลังใจข้ามขอบฟ้ามายัง อาจารย์ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ว่า "อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้ - อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้ - อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้" จากนั้นประธานในที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมได้ทราบว่า การผนึกพลังของคนเสื้อแดงในสหรัฐอเมริกาทุกกลุ่มที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ สัมผัสได้จากสัญญาณต่างๆ ที่ส่งออกมาข่มขู่คุกคาม ประชาชนและคนเสื้อแดงในหลายรูปแบบ การประชุมใช้เวลา 6 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 14.00 น.ถึง 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในมหานครลอสแองเจลีส จึงมีมติร่วมกันดังที่บันทึกไว้ ณ ที่นี้คือ ก.เจตนารมณ์พลังมวลชนคนเสื้อแดงทุกกลุ่มในสหรัฐอเมริกา 1. ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน นั่นคือการปกครองเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน 2. ประชาชนคือเจ้าของประเทศและเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยในการขับเคลื่อนประเทศผ่านฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ประชาชนเป็นผู้คัดเลือกตัวแทนไปเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ด้วยขบวนการและวิธีการของการเลือกตั้ง ผู้ที่ประชาชนคัดเลือกเป็นตัวแทนไปเป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือตุลาการจะต้องให้สัตย์ปฎิญาณต่อประชาชนก่อนเข้ารับตำแหน่งว่า จะทำงานรับใช้ประชาชนสุดความสามารถตามหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรมโดยปราศจากการทุจริตและคดโกงใดๆ ประชาชนมีอำนาจในการปลด ถอดถอน ไล่ออก ตัวแทนที่เลือกเข้าไปทำงานขับเคลื่อนประเทศตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หากปฎิบัติตนไม่เป็นไปตามที่ให้สัตย์ปฎิญาณไว้กับประชาชน 3.รัฐธรรมนูญคือกฏหมายสูงสุดในการปกครองประเทศต้องร่างขึ้น และบัญญัติไว้เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อเสียงข้างมากในสภา (หรือรัฐสภา) ผู้แทนราษฏรเห็นด้วยกับสาระและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้น ให้ประกาศและนำมาใช้เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศได้เลย รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ต้องไม่มีบทบัญญัติที่ว่าด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 8 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550และมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา หากต้องนำเอารัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งที่มีอยู่แล้วมาปรับใช้ใหม่ บทบัญญัติที่ว่าด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในมาตราใดต้องลบล้างและยกเลิกไปเช่นเดียวกัน 4. รัฐบาลคือตัวแทนเสียงข้างมากที่ประชาชนเลือกให้เป็นผู้บริหารประเทศ จึงได้รับมอบฉันทานุมัติในการนำอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปบริหารขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนา ทำให้ประชาชนเป็นสุข นายกรัฐมนตรีคือผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ ทั้งนี้ผู้ที่สิทธิในการดำรงตำแหน่งสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต้องเป็นคนไทยและมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดเท่านั้น การแต่งตั้งรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบ หรือรอการอนุมัติจากผู้อื่นใดอีก เนื่องจากไม่มีอำนาจใดที่สูงกว่าอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศ ทั้งนี้รวมถึงการปรับเปลี่ยนโยกย้ายบุคคลในคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจสิทธ์ขาดของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น โดยไม่ต้องเสนอหรือรอความเห็นชอบจากผู้อิ่นใดเฉกเช่นเดียวกัน ผู้ใดบังอาจล้มล้างรัฐบาลที่ประชาชนเลือก เท่ากับล้มล้างอำนาจอธิปไตยของปวงชน มีโทษสถานเดียวให้ประหารชีวิต การสิ้นสุดวาระของรัฐบาลให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 5. สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (และสมาชิกวุฒิสภาหากจำเป็นต้องมี)ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น การเปิดประชุมสภา (รัฐสภา) ผู้แทนราษฏรเพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายในการบริหารประเทศ ตลอดจนโครงการและแผนปฎิบัติงานของรัฐบาล ก่อนนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความเจริญของประเทศ และความผาสุขของประชาชนไทย เป็นอำนาจของประธานสภา (รัฐสภา)ผู้แทนราษฏรตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนอื่นใดอีก เช่นเดียวกันกับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏรทั้งสมัยสามัญ และสมัยวิสามัญ ให้อยู่ในอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฏร โดยไม่ต้องรอหรือผ่านขั้นตอนอื่นใด 6. ทหาร ทหารเป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งในระบบการบริหารประเทศ มีหน้าที่ปกป้องประเทศและปฎิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เฉกเช่นหน่วยงานอื่นๆ ทหารมิได้มีอำนาจเหนือรัฐบาลหรือหน่วยงานใด การตัดสินว่าอะไรคือความมั่นคงของประเทศ หรืออะไรคือความไม่มั่นคง เป็นอำนาจและหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร หน้าที่ของทหารคือปฎิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล รัฐบาลมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการแต่งตั้งโยกย้าย ปลด ถอดถอน หรือไล่ออกทหารทุกระดับชั้น ที่ไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โดยไม่ต้องรอหรือขอความเห็นชอบจากผู้ใด 7. ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือผู้ที่อาสาเข้าไปทำงานกับรัฐบาลของประชาชน การเรียก ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐด้วยถ้อยคำอื่น คือการบ่งชี้ว่าประเทศไทยไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เพราะในระบอบประชาธิปไตยผู้ที่อาสาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรของรัฐ คือผู้อาสาเข้าไปรับใช้ประชาชน มิใช่รับใช้ผู้อื่น ประชาชนไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสและสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน ในการเสนอตัวเข้าแข่งขันและคัดเลือกเพื่อทำงานเป็น ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ การโยกย้าย ถอดถอน ไล่ออก หรือปรับเปลี่ยนสถานะของเจ้าที่รัฐชั้นผู้ใหญ่ระดับปลัดกระทรวงลงมาถึงระดับอธิบดีเป็นอำนาจสิทธิขาดของฝ่ายบริหาร ส่วนการปรับย้าย ถอดถอน ไล่ออก ปรับเปลี่ยนหรือเลื่อนตำแหน่งของลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับอธิบดีลงมา ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายลูก หรือตามข้อกำหนดของกฎกระทรวง แล้วแต่กรณี ให้ยกเลิกกฎระเบียบว่าด้วยการปกครองส่วนภูมิภาค และให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกผู้มีความรู้ความสามารถด้วยตนเอง มาบริหารงานส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นในทุกระดับชั้น ข.เจตจำนงแห่งข้อเรียกร้อง อนึ่งในขณะที่ประเทศไทยในปัจจุบันยังปกครองด้วยระบอบเผด็จการซ่อนรูป โดยใช้คำว่าประชาธิปไตยบังหน้า เราขอเรียกร้องผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในประเทศไทย และขอป่าวประกาศให้นานาประเทศได้รับรู้ถึงข้อเรียกร้องของเราดังนี้คือ 1. ให้ยกเลิก กฎหมายมาตรา 8 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 และมาตรา 112 ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ที่ทุกรัฐบาลนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปิดปาก จับกุม คุมขังประชาชน และนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคมด้วยเจตนาบริสุทธิ์ 2. ให้ปลดปล่อย นักโทษการเมืองทุกคน โดยปราศจากเงื่อนไข และยุติการไล่ล่า ยัดเยียดข้อหานานาประการกับประชาชนและนักการเมือง ผู้มีความคิดเห็นแตกต่างไปจากรัฐบาลและอำมาตย์ 3. ให้ยุติ การกระทำอันเป็นสองมาตรฐานที่ฝ่ายรัฐบาลและอำมาตย์ ร่วมมือกันเป็นขบวนการโดยใช้ฝ่ายตุลาการและองค์กรอิสระเป็นเครื่องมือและกลไกในการปราบปราม เข่นฆ่า และทำลายล้างประชาชนและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ตนได้คงอยู่ในอำนาจ เพื่อกอบโกย พล่าผลาญทรัพยากรของประเทศต่อไป 4.ให้มีการเลือกตั้ง อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อให้ได้ตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนมาบริหารประเทศ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดและการพังพินาศของประเทศไทย เพราะความอดทนของประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งคดโกงมาโดยตลอดได้เดินทางมาถึงจุดแตกหักแล้ว สงครามประชาชนคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากอำนาจอธิปไตยของประชาชน ในการเลือกตัวแทนของตนต้องถูกบดขยี่ คดโกงโดยฝ่ายปกครองและอำมาตย์อีกครั้ง ในกรณีการเลือกตั้งล่วงหน้าต้องนับคะแนนทันที ณ หน่วยเลือกตั้ง หลังจากเวลาที่กำหนดให้ลงคะแนนได้สิ้นสุดลง ในกรณีการเลือกตั้งนอกประเทศต้องนับคะแนนทันที ณ หน่วยเลือกตั้ง ณ สถานกงสุล ณ สถานฑูตหรือ ณ สถานเอกอัครราชฑูตแล้วแต่กรณี หลังจากได้รับบัตรลงคะแนนแล้ว และให้ประกาศผลการนับคะแนนให้คนไทยที่พำนักอยู่นอกประเทศ ให้รับรู้โดยทั่วกันก่อนส่งผลการลงคะแนนเลือกตั้งนอกประเทศกลับสู่ประเทศไทย 5. ให้ลงโทษ ผู้บงการ ผู้สั่งการ ผู้ปฎิบัติการ ตลอดจน ผู้ร่วมขบวนการทุกระดับชั้น ในการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างเหี้ยมโหด ระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตกว่า 90 ศพและบาดเจ็บกว่า 2,000 คน ผู้เกี่ยวข้องในการเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนมือเปล่า ที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมต้องถูกนำตัวมาพิจารณาลงทัณฑ์ให้สาสมกับความผิด โดยไม่มีการยกเว้นไม่ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องในการสังหารประชาชนจะยิ่งใหญ่เพียงใด และขอเรียกร้องให้รื้อฟื้นเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนในอดีต ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงเหตุการณ์สงกรานต์เลือดในปี 2552 มาพิจารณาไต่สวน และลงโทษทัณฑ์ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเฉกเช่นกัน ทั้งนี้ความผิดที่รัฐเป็นต้นเหตุให้เกิดการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ ที่เรียกร้องความเป็นธรรม ไม่ว่าในกรณีใดๆ ให้ถือเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน นักศึกษาและประชาชน ได้ถูกปราบปรามเข๋นฆ่า เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ผู้บงการและผู้ร่วมขบวนการในการพล่าผลาญชีวิตประชาชนยังคงลอยหน้าเสวยสุข เหยียบย่ำ ประชาชนตลอดมา ******** เรื่องเกี่ยวเนื่อง:สนทนาสถานการณ์การเมืองไทยในชิคาโก เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ชาวเสื้อเเดงชิคคาโก ไ้ด้ร่วมกันจัดงานประชุมหารือเเนวทางทางการเมืองของเมืองไทย โดยมีนักการเมือง เเละนักวิชาการร่วมพูดคุย คือ ดร.สุนัย จุลพงศธร ส.ส.เพื่อไทย ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เเละ อาจารย์จรัล ดิษฐาภิชัย อดีตกรรมการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายจำนวนมากจนล้นฮอล์ของร้านอาหารมณีไทย นครชิคคาโกเลยทีเดียว เ | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น