วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554


สังคมแห่งการปั่นแล้วยังปั่นกันไม่หยุด


คิดเหนือข่าว
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3042 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 28 เมษายน 2011
         โดย เรืองยศ จันทรคีรี
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=51993
         เริ่มมีสื่อและนักวิชาการจำนวนหนึ่งพูดถึง “Spin Doctors” อันเป็นความเกี่ยวเนื่องของการเล่นกับสื่อ เป็นลักษณะทำนองการปั่นข่าวหรือปั้นน้ำเป็นตัวอะไรในทำนองนั้น ไม่ได้สนใจหรือเกี่ยวข้องอะไรกับความถูก-ผิด หรือจริง-เท็จ?
คนพวกนี้เขายังถือให้เป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษชนิดใหม่ ใหม่ขนาดต้องใช้ศัพท์แสงว่า “Spin Doctors” ส่วนใหญ่กลุ่มคนพวกนี้มักจะเป็นนักการเมือง ทีมงานที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แต่บ่อยครั้งที่พวก Spin Doctors อาจจะไปปรากฏอยู่ในอาชีพอะไรก็ได้ที่หวังใช้ประเด็นของข้อมูลข่าวสารเอามาปั่นหรือปั้นแต่งให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายตัวเอง แล้วแน่นอนที่มันจะกลายเป็นคมหอกคมดาบย้อนเข้าหาเป้าหมายอันเป็น “ปฏิปักษ์” ที่พวก Spin Doctors มีธงตั้งเอาไว้เพื่อมุ่งทำลายล้างให้ได้?

เมื่อเราค้นลงไปในความหมายก็อาจจะเจอกับความหมายอื่นๆที่ใกล้เคียงกันเกี่ยวกับ “Spin” ยังอาจหมายความไปถึง “Public relations” ซึ่งเราก็คงเข้าใจกันในข่ายงานของการประชาสัมพันธ์ ประเด็น Spin ที่เป็น Public relations จึงยังมีความเป็นไปได้สำหรับอีกรูปแบบหนึ่งที่หลายคนคุ้นเคยกันดีในสมัยก่อน กระทั่งปัจจุบันก็มีการใช้กันอยู่ ได้แก่ “การโฆษณาชวนเชื่อ” เมื่อเป็นปฏิบัติการในขั้นนี้คนที่จะก้าวเข้ามารับผิดชอบในฐานะ Spin Doctors เห็นจะไม่ใช่มีชั่วโมงบินอย่างธรรมดาแน่นอน แตกต่างไปจากประสบการณ์ในระดับเท่าที่มีอยู่ของนักประชาสัมพันธ์ในองค์กรวิชาชีพเหมือนอย่างที่เราเข้าใจกัน

เพราะอย่างน้อยที่สุดการที่จะ Spin หรือปั่นอะไรออกมาในลักษณะล้างสมองสังคมต้องอาศัย Techniques ขั้นสูงอยู่หลายเพลงยุทธ์เลยทีเดียว ตั้งแต่การเลือกข้อเท็จจริงที่จะยกชูหรือเอ่ยอ้างขึ้นเพื่อสนับสนุนแนวทางของการ Spin ทางการข่าวที่ตั้งเป็นโจทย์เอาไว้ มืออาชีพเหล่านี้ยังต้องคอยลงทุนถึงขั้น “ซื้อข่าวเลวร้ายที่เป็นจุดอ่อนของคู่แข่งขันเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ของตัวเอง”

ศักยภาพเหล่านี้ในการ “สร้างประเด็น” ยังอาจวัดได้จากกระแสความสนใจของบรรดาสื่อต่างๆ ซึ่งพวก Spin Doctors อาจไม่จำเป็นต้องลงทุน “ซื้อไปเสียจนครบทุกสื่อ” เพราะหากประเด็นที่เขาปั่นขึ้นมามีความน่าสนใจก็อาจก่อเป็นกระแสในลักษณะ “จุดติด”

ปรากฏการณ์จุดติดนั้นเรายังสามารถมองย้อนกลับมาในสังคมไทยก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ดังจะเห็นว่าผลงานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนั้นประสบความสำเร็จสำหรับการเปิดสนามรบทางข้อมูลข่าวสาร เมื่อสามารถปั่นกระแสจนเกิดการ “จุดติด” จึงเกิดผลที่ต่อเนื่องสามารถโยงเข้าไปเกี่ยวข้องในปฏิบัติการอื่นๆเพื่อรุกรบ และกลายเป็นพลังสนับสนุนที่สำคัญในการขับไล่รัฐบาลร่วมกับฝ่ายกองทัพและอีกหลายอำนาจที่คอยเล่นบทบาทประสานงานอยู่เบื้องหลังด้วยความแยบยล?

เคยมีผู้ยกย่อง Edward Bernays ในฐานะ “บิดาแห่งการปั่น” เขาเคยมีผลงานเขียนถึงสถานการณ์ในหัวข้อเหล่านี้ เป็นกรณีที่กลุ่มกิจการทั้งยาสูบและเครื่องดื่มมึนเมาได้ใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างพฤติกรรมการบริโภคสินค้ากระทั่งกลายเป็นที่ยอมรับของสังคมอย่างกว้างขวาง เมื่อพิจารณาในด้านหนึ่งแล้วพวกที่เป็น Spin Doctors ยังเจาะทะลุจนเชี่ยวชาญถึงขั้นพระกาฬ เป็น “ยอดนักโฆษณาชวนเชื่อ” อีกด้วย และเป็นสถานะหนึ่งของพวกเขาในสังเวียนอาชีพเช่นนี้

พวก Spin Doctors ยังมีชั้นเชิงแพรวพราวในลักษณะการขุดหลุมฝังกับดักหรือขุดบ่อล่อปลาอะไรในทำนองนั้น มีประสบการณ์ที่ปั่นหรือตัดต่อซ่อนแฝงพวกข่าวลวง-ข่าวลือ-ข่าวเลว-ข่าวร้าย ให้เป็นเสมือนเงาที่อยู่ล้อมรอบข้อมูลข่าวสาร ซึ่งสังคมให้ความสนใจที่จะบริโภค ความชำนาญที่จะแฝงความชั่วร้ายเข้าไปในเนื้อหาสำหรับเหตุการณ์ต่างๆกระทำได้อย่างกลมกลืนจนผู้เสพข้อมูลข่าวสารนั้นๆไม่อาจแยกแยะได้ สังคมของ Spin Doctors จึงไม่แตกต่างไปจากการมอมเมาทางปัญญา ทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อบกพร่องลงไปในด้านวินิจฉัย

นี่จึงเป็นอีกมิติของยาพิษที่เกิดขึ้นอยู่ในสื่อใดหรือเมื่อไรก็ได้ถ้าหากเราไม่เลือกที่จะบริโภคด้วยความระมัดระวัง!

เรื่องของ Spin Doctors มีหลายคนถือให้เป็นการจัดการข่าวหรือ “การตลาดเชิงการเมือง” การนำเสนอข่าวสารตั้งแต่นักการเมืองไปจนถึงนักการทหารที่ยุ่งกับการเมือง กลายเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมขึ้นมา ทั้งยังเป็นไปได้สำหรับการเป็นส่วนสำคัญของ “ปฏิบัติการจิตวิทยาหรือปฏิบัติการเกี่ยวกับมวลชน”

เรื่องเหล่านี้ยังเป็นประเด็นเดียวกับยุทธการปล่อยข่าว ตีสี และใส่ไข่ เพื่อทำลายเป้าหมายหนึ่งๆ ...คาดว่าในความขัดแย้งและแตกแยกของสังคมไทยตลอดเวลาเกือบ 6 ปีผ่านมา กลุ่ม Spin Doctors ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อปั่นสังคมจนกระทั่งหลงทิศความถูกผิดกระเจิดกระเจิงมาถึงป่านนี้ เป็นอีกสิ่งที่สะท้อนถึงความเหี้ยมโหดในอีกลักษณะ ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมความดีอะไรใดๆทั้งสิ้น...

Spin Doctors ในหลายประเทศเป็นคนที่ทั้งเก่งกาจและมีความน่ากลัว แต่สำหรับสังคมไทย บุคลากรในลักษณะนี้ก็ไม่แตกต่างไปจากบรรดา “นักตอแหลมืออาชีพ” Spin Doctors แบบไทยจึงเหนือชั้นมากกว่าในหลายชาติบ้านเมือง คิดดูแล้วกันมันจะน่ากลัวสักขนาดไหน?

*******************************
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น