|
ลิเบียยอมถก-‘กัดดาฟี’ต้องอยู่
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=51217
ตริโปลี : รัฐบาลลิเบียพร้อมเจรจาเพื่อปฏิรูปการเมือง แต่ต้องไม่มีเงื่อนไขให้ “กัดดาฟี” ลงจากตำแหน่ง ด้านอิตาลี-ฝ่ายค้านยืนยันผู้นำลิเบียจะต้องลงจากอำนาจและออกนอกประเทศพร้อมครอบครัวจึงจะยอมเจรจาด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานคำแถลงของนายมุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลพร้อมเจรจาเพื่อปฏิรูปการเมือง เช่น จัดให้มีการเลือกตั้งหรือลงประชามติ แต่ต้องไม่มีเงื่อนไขให้ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ลาออกจากตำแหน่ง เพราะ พ.อ.กัดดาฟีเปรียบเหมือนวาล์วนิรภัยที่สร้างความเป็นเอกภาพให้กับชนเผ่าต่างๆและประชาชนในลิเบีย แต่รัฐบาลก็เห็นความสำคัญที่จะต้องนำพาประเทศเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยและการเมืองที่โปร่งใส
นายอิบราฮิมยังต้องการให้ชาวลิเบียเป็นผู้ตัดสินว่า พ.อ.กัดดาฟีควรอยู่หรือไป หรือตัดสินใจเลือกระบบการเมืองของตัวเอง ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจโดยชาติตะวันตก และยืนยันว่า พ.อ.กัดดาฟีไม่ได้มีตำแหน่งเป็นทางการที่จะต้องก้าวลง แต่เขาคือสัญลักษณ์ที่สำคัญของชาวลิเบีย
นายอิบราฮิมได้กล่าวหาผู้นำชาติตะวันตกว่าพยายามโค่นล้ม พ.อ.กัดดาฟีเพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัวหรือทางเศรษฐกิจ โดยนักการเมืองบางคนในชาติตะวันตกมีปัญหาส่วนตัวกับ พ.อ.กัดดาฟี และย้ำว่าทหารฝ่ายรัฐบาลไม่ได้โจมตีพลเรือนตามที่ถูกกล่าวหา
นายอับเดลาตี โอเบดี รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอิตาลี ได้หารือกับนายอาเม็ต ดาวูทอกลู รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ซึ่งนายดาวุทอกลูกล่าวว่า ตุรกีจะดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อยุติสถานการณ์ที่เจ็บปวด และสนับสนุนกระบวนการไปสู่โรดแม็พที่รวมถึงข้อเรียกร้องทางการเมืองของชาวลิเบีย โดยหวังว่าจะได้หารือกับผู้แทนของทรานซิชันแนล เนชันแนล เคาน์ซิล (Transitional National Council) ฝ่ายค้านสำคัญของลิเบีย เรื่องการหยุดยิง
แต่นายชามเซดดิน อับดุลเมลาห์ โฆษกของทรานซิชันแนล เนชันแนล เคาน์ซิล ปฏิเสธการทำข้อตกลงใดๆกับ พ.อ.กัดดาฟี โดยยืนยันว่า พ.อ.กัดดาฟีและครอบครัวจะต้องออกนอกประเทศก่อนที่จะมีการเจรจาใดๆเพื่อหาทางออก
ขณะที่สื่อในสหรัฐรายงานว่า บุตรชาย 2 คนของ พ.อ.กัดดาฟีเสนอที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย ซึ่งอาจรวมถึงการที่ พ.อ.กัดดาฟีจะลงจากอำนาจ
นายฟรังโก ฟรัตตินี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ไม่ยอมรับท่าทีของนายอิบราฮิม โดยกล่าวว่า ทางออกต่ออนาคตของลิเบียจำเป็นต้องมีเงื่อนไข นั่นคือระบอบปกครอง พ.อ.กัดดาฟีจะต้องออกจากอำนาจ และตัวเขารวมถึงครอบครัวจะต้องออกจากประเทศ
ส่วนกระทรวงการคลังสหรัฐได้ยกเลิกการคว่ำบาตรทางการเงินนายมุสซา คุสซา อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศลิเบีย หลังเขาประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับรัฐบาล พ.อ.กัดดาฟีและลี้ภัยไปที่อังกฤษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านกองกำลังพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ไม่สามารถปกป้องชาวเมืองมิซูราตาจากการโจมตีของกองกำลัง พ.อ.กัดดาฟีเมื่อวันจันทร์ได้ โดยมีผู้เสียชีวิต 5 คน ขณะที่กองกำลังฝ่ายต่อต้าน พ.อ.กัดดาฟี ซึ่งสู้รบกับทหารฝ่ายรัฐบาลมา 7 สัปดาห์แล้ว สามารถรุกคืบเข้าสู่เมืองเบรกาได้ แต่ก็ถูกตอบโต้อย่างหนักจนต้องถอยร่นออกจากเมือง
พ.อ.กัดดาฟีได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ในที่พักของเขาย่านบาบ เอล-อาซิซิยา ในกรุงตริโปลี ส่วนนายซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายคนที่ 2 ของ พ.อ.กัดดาฟี ซึ่งถูกมองว่าจะได้สืบทอดอำนาจต่อจากบิดาก่อนเกิดการชุมนุมประท้วง ได้ปรากฏตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงตริโปลี |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น