วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555


ปาหี่ ควายเหลือง ชุมนุมเรือนแสน (สาหัส)

กลุ่มเรียกคืนอำนาจนักการเมืองฯจัดชุมนุมหน้าสโมสรทหารบก ออกแถลงการณ์จี้รัฐคืนอำนาจประชาชน ให้ทหารดูแลแทน

             เมื่อวันที่ 21 เม.ย.  กลุ่มเรียกคืนอำนาจจากนักการเมืองเนรคุณแผ่นดิน ประมาณ 200 คน ได้เดินทางมาชุมนุมบริเวณด้านหน้าสโมสรทหารบก โดยได้ตั้งเวทีปราศรัยบนรถหกล้อมที่จอดอยู่ริมฟุตบาท แต่ไม่มีการเดินทางเข้าไปในสโมสรทหารบกเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาต
           กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า โครงสร้างทางการเมืองของไทยมีความอ่อนแอไม่สะท้อนลักษณะที่เป็นจริงของสังคมไทยจนส่งผลกระทบถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกภาคส่วน ภาพความวุ่นวายจากการแย่งชิงอำนาจและการแสวงหาผลประโยชน์โดยนักการเมืองด้วยการอ้างทำเพื่อประชาชน เพื่อความเป็นธรรมมีให้เห็นทุกเมื่อเชื่อวันล้วนเกิดจากนักการเมืองด้อยคุณภาพ ขาตจิตสาธารณะ
          ทั้งนี้ทางกลุ่ขอเสนอเงื่อนไขการปรองดองคนไทยทั้งแผ่นดิน โดยการเรียกคืนอำนาจจากตัวแทนรัฐบาลและสมาชิกรัฐสภากลับคืนสู่ประชาชนเพื่อเป็นช่องทางในการปฏิรูปรัฐสภาและนำทรัพยากรของชาติมาดำเนินการเสียใหม่ให้เกิดเป็นผลประโยชน์กับคนทั้งชาติโดยส่วนรวม อันเป็นการสร้างการปรองดองคนไทยทั้งแผ่นดิน
      
          นอกจากนี้ยังมีการแจกใบปลิวระบุข้อความว่า “หยุดแพงทั้งแผ่นดิน...ลดราคาน้ำมันเชื่อเพลิงลง สินค้าอื่นๆ2,000รายการถูกลงด้วย...หยุดความเดือดร้อนของคนไทยทั้งแผ่นดิน...ไทยเป็นเศรษฐีน้ำมัน ประเทศไทยมีปิโตรเลียมเทียบเท่ากับน้ำมันดิบวันละ 120ล้านลิตร ต้องปฏิรูปปตท.คนไทยจะได้ใช้น้ำมันเชื่อเพลิงไม่เกินราคา19บาททั่วไทย”และมีข้อมูลราคาน้ำมันเบนซิน95เปรียบเทียบ คือ ไทย 48บาท/ลิตร มาเลเซีย19บาท/ลิตร อินโดนีเซีย31.70บาท/ลิตร พม่า24บาท/ลิตร

         นายสุขุม วงประสิทธิ เลขาธิการใหญ่กลุ่มเรียกคืนอำนาจฯกล่าวว่า ทางกลุ่มต้องการยื่นหนังสือต่อกองทัพบกขอให้เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนแทนนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าบุคคลเหล่านั้นไม่สามารถทำหน้าที่ดูแลประชาชนได้จริง แต่หากทางกองทัพไม่ยอมรับหนังสือของพวกเราก็ไม่เป็นไร ก็จะชุมนุมกันอย่างนี้ต่อไป
          “ทหารมีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนอยู่แล้ว เป็นเวลา80ปีแล้วที่เราเห็นนักการเมืองทั้งสว.สส.ผ่ายรัฐบาล สส.ฝ่ายค้านทำหน้าที่มาโดยที่ประชาชนยังคงจนอยู่ แล้วก็วนเวียนอยู่แค่เลือกตั้งใหม่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิวัติรัฐประหาร อยู่แค่นี้ อีกอย่างเราเห็นว่า การปรองดองนั้นไม่ใช่เป็นการปรองดองแค่ในรัฐสภา ทหาร ที่ถูกต้องต้องเป็นการปรองดองที่เกิดจากภาคประชาชนเพื่อให้ประชาชนทั้ง67ล้านคนอยู่ดีกินดี”นายสุขุมกล่าว
          นายสุขุม กล่าวว่า  การรวมตัวครั้งนี้ไม่มีกลุ่มการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง และทุกคนที่มารวมตัวครั้งนี้มีเจตนารมย์ร่วมกันที่ต้องการให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่านั้น ค่าใช้จ่ายก็รวมตัวกันเอง เหตุของการมรวมตัวที่หน้าสโมสรทหารบกอีกอย่างก็เพื่อ หากมีใครมาทำร้ายผู้ชุมนุม ทหารจะได้คุ้มครองพวกเราด้วย
         “พวกเราไม่มีสี ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง พวกเรามีเพียงความคิดเหมือนกันที่จะร่วมกันต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ผมเองก็เคยเป็นเสื้อแดงก็มาร่วมชุมนุมด้วย ผมไม่สนเรื่องสีเสื้อหรอก ขอให้เป็นการชุมนุมกลุ่มใดก็ได้ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาชนผมก็ไปร่วมหมด  และการชุมนุมครั้งนี้พวกเราก็จะชุมนุมไปเรื่อยๆยังไม่มีกำหนดเลิก”นายสุขุมว่า

          นายสุขุมกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จะมาร่วมชุมนุมด้วย ว่าเบื้องต้นคิดจะจัดเสวนาหัวข้อโอนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน โดยใช้พื้นที่ภายในสโมสรทหารบก ซึ่งพล.อ.ชวลิตที่มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของสภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง(สวพช.)ที่เป็นเครือข่ายของทางกลุ่มด้วย จึงจะเชิญมาร่วมเสวนา แต่ภายหลังทางกองทัพบกไม่อนุญาตจัดงานจึงยกเลิกไป







         ขณะที่ผลกระทบจากการชุมนุมดังกล่าวได้ส่งผลให้การจราจรบน ถ.วิภาวดีติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น