วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555


สร้างข่าว หาทุนแม่ยก อ้าวเฮ้......



            ต้องยอมรับว่า ทันทีที่ "แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" (พธม.) นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พิภพ ธงไชย มาลีรัตน์ แก้วก่า ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ และ พล.ร.ต.ประทีป ชื่นอารมณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวปฏิเสธนัดชุมนุมในวันเสาร์ที่ 21 เมษายน ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต

           ทำให้เกิดข้อสงสัยการนัดชุมนุมในวันดังกล่าวเป็น "กลุ่มไหน" และ "ใคร" เป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

           กลุ่มที่จัดทำกิจกรรมครั้งนี้ ความสำคัญแค่ไหน ถึงกับทำให้ "แกนนำพันธมิตร" ต้องออกมาแถลงข่าวปฏิเสธการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การจัดกิจกรรมของ "พันธมิตร"

           เพราะอย่างน้อยหนึ่งในรายชื่อการจัดทำกิจกรรมครั้งนี้ คือ "บวร ยสินทร" แกนนำกลุ่มราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน ครั้งหนึ่งเคยเป็น "แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"


          แต่เมื่อ "แกนนำพันธมิตร" รีบชิงแถลงปฏิเสธการทำกิจกรรมครั้งนี้ นั่นหมายความว่าเป็นการประกาศห้ามบุคคลอื่นใช้ชื่อ "พันธมิตร" ไปทำกิจกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต  เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า หากอยากเคลื่อนไหวต้อง "สร้างมวลชน" เอาเอง ห้าม "ชุบมือเปิบ" ดึงมวลชนของพันธมิตรไปเป็นเครื่องมือในการทำกิจกรรม โดยเฉพาะกิจกรรมทางการเมือง
เพราะการเคลื่อนไหว "ทางการเมือง" แต่ละครั้งต้องมี "เงินสนับสนุน" ยิ่งชุมนุมยืดเยื้อเท่าไหร่ นั่นหมายถึงต้องมี "ทุนหนา"


        ดังนั้นการจัดกิจกรรมที่โยงกับการเมืองแต่ละครั้งย่อมเป็นธรรมดาที่จะถูกมองว่ามี "นักการเมือง" หรือ "พรรคการเมือง" อยู่เบื้องหลัง

          ที่สำคัญ "แกนนำพันธมิตร" คงบวกลบคูณหารดูแล้วว่า หากออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวในขณะนี้ "จุดไม่ติด" ทั้งประเด็น ไม่อยากให้เข้าทางพรรคการเมืองบางพรรค และ "แกนนำพันธมิตรบางคน" ขณะนี้ "เครดิต" ไม่เหมือนในอดีต


        ที่สำคัญ "แนวร่วม" ต่างพากันแยกย้ายไปตั้งกลุ่มทำกิจกรรมกันใหม่ เช่น กลุ่มสยามสามัคคี, กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์, กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ


        เมื่อ "แกนนำพันธมิตร" แถลงไม่ได้นัดชุมนุมในวันเสาร์ที่ 21 เมษายนนี้ ทำให้ "บวร" ที่เคยเป็นแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาก่อน ต้องทำกิจกรรมในนาม "กลุ่มเรียกคืนอำนาจจากนักการเมืองเนรคุณแผ่นดิน"


         ซึ่งประกอบด้วย สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.), สมาพันธ์พลเมืองฐานราก (สพฐ.), องค์การโอนอำนาจทรัพยากรใต้ดิน เพื่อสร้างสรรค์การปรองดองแห่งชาติ (อทพช.), องค์การทรัพยากรทางทะเล เพื่อสร้างสรรค์การปรองดองแห่งชาติ (อททช.) โดยมี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาใหญ่ สวชพ.

          การจัดกิจกรรมครั้งนี้ มี น.ต.ถนิต พรหมสถิต เป็นประธาน, บวร ยสินทร รองประธาน, พายัพ ยังปักษี รองประธาน, พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส กรรมการ, พล.ร.ต.พัฒนะ จิรนันท์ กรรมการ และสุขุม วงประสิทธิ เป็นกรรมการและเลขาธิการ

          หลังจาก "แกนนำพันธมิตร" ชิงประกาศไม่ได้เรียกชุมนุม และ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผู้บัญชาการทหารบก ก็สั่งห้ามเข้าไปใช้พื้นที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต จัดกิจกรรมทางการเมือง


           ทำให้ "กลุ่มเรียกคืนอำนาจจากนักการเมืองเนรคุณแผ่นดิน" แถลงจุดยืนที่รัฐสภาและชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊ก ยืนยันจะใช้พื้นที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต จัดงานประชุมรัฐสภามหาชนต่อไป เพราะการจัดกิจกรรมได้แจ้งประชาชนไปหมดแล้ว หากเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ประชาชนสับสน

         แม้ "กองทัพบก" ประกาศห้ามเข้าไปใช้สถานที่ภายใน แต่ทาง "กลุ่มเรียกคืนอำนาจฯ" ยังยืนยันจะใช้พื้นที่ด้านนอกทำกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเช้าจรดค่ำ

         สำหรับ "กลุ่มเรียกคืนอำนาจจากนักการเมืองเนรคุณแผ่นดิน" มีเพียง "น.ต.ถนิต พรหมสถิต" และ "บวร ยสินทร" ที่อาจเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาในการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง โดย "น.ต.ถนิต" หรือ กัปตันถนิต เป็นกัปตันบริษัทการบินไทย เป็นคน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มขบวนการประชาธิปไตย ปักหลักประท้วงขับไล่รัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร" อยู่หน้าสวนลุมพินี และเป็น 1 ใน 41 คนที่ถูกแจ้งข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง  และที่เป็นข่าวโด่งดังคือ การร่วมนำม็อบบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล ช่วงรอยต่อคืนวันที่ 13-14 มกราคม 2549 เพื่อขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ต่อมาได้เข้ามอบตัวสู้คดี พร้อมยอมรับว่า ไปทำเนียบรัฐบาลและเป็นคนสั่งบุกจริง แต่ไม่ได้พังประตูเข้าไป เพราะประตูไม่ได้ล็อก และไม่ได้เข้าไป ไม่ได้พูดจายั่วยุปลุกให้เกิดการจลาจล


  
         ขณะที่ "บวร ยสินทร" เกิดที่กรุงเทพฯ เคยมีบทบาทสำคัญในศูนย์กลางนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) ยุคแรก เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มราษฎรอาสาปกป้องสถาบันฯ เคยเป็นแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่ม "นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์" แกนนำเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี เพื่อต่อต้านนิรโทษกรรม "ทักษิณ ชินวัตร"

         แม้จะเจอ "แกนนำพันธมิตร" เล่นบทเพื่อน(เคย)รักหักเหลี่ยมกลัวถูกชิงมวลชน จับตา "บวร" และคณะ ที่ยังเดินหน้าชุมนุมต่อจะเรียกมวลชนได้หลักแสนตามที่พูดหรือไม่  หรือเพียงแค่ตั้งใจสร้างข่าวหาทุนเท่านั้น !
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น