วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ล้มละลายตามด้วยฉ้อโกง โดย"คนดี้ดี" ไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ

ล้มละลายตามด้วยฉ้อโกง โดย"คนดี้ดี" 
ไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ
อีกหนึ่งของคนดี
FB กระปุก ออมสิน ๑๔ มิ.ย.๒๕๕๖ เวลา ๑๒๕๐ น.
"ลายออกซะแล้ว นักเคลื่อนไหวต้านนายกทักษิณ 5555555"

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ
ได้ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ข้อหา หลอกลวงและโกงเงิน 5 ล้านบาท
คดีที่ 1987/2555 ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ รัชดาฯ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.56 ที่ผ่านมา


----
รายละเอียดคดี 
หมายเลขคดีดำที่ อ ๑๙๘๗/๒๕๕๕
ข้อมูลรับฟ้อง
ความ- อาญา
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายศาลแขวง - โจทก์
นายไทกร พลสุวรรณ - จำเลย
ข้อหา- ความผิดฐานฉ้อโกง
หมายเลขแดง- อด ๗๒๓/๒๕๕๖
ใจความฟ้อง- ฉ้อโกง จำเลยได้บังอาจแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดความจริงอันควรบอก หลอกลวงผู้เสียหาย ได้เงินไปจำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท เหตุเกิดเมื่อระหว่างวันใดไม่ปรากฏชัดต้นเดือน ต.ค.๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๔ ธ.ค.๒๕๕๒
คำพิพากษา- พิพากษาจำคุก ๒ ปี, คืนเงิน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท
-----
ภาพจากพันทิป
http://pantip.com/topic/30606189
http://f.ptcdn.info/198/006/000/1371205377-1462556171-o.png


พฤติกรรมมิบันเบา ดูประวัติเก่าก่อนย้อนหลัง สัก ๑ ตัวอย่าง จากมติชน

อ้างถึง
ศาลล้มละลายสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด"ไทกร พลสุวรรณ" พยานสำคัญยุบไทยรักไทย-เด็ก"เทพเทือก"?
วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552 เวลา 23:03:32 น.
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิพทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด"ไทกร พลสุวรรณ" มือพิฆาตพรรคไทยรักไทย เป็นพยานปากสำคัญในการพิจารณาคดีของตุลาการรัฐธรรมนูญ ถูกกล่าวครหาเป็นเด็ก"สุเทพ เทือกสุบรรณ"


ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานว่า  มีประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์เด็ดขาด นายทัยกร หรือไทกร พลสุวรรณ(คดีหมายเลขแดงที่ ล. 7150/2551) ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาลงวันที่ 13 มกราคม 2552  เนื่องจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าหนี้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้ลูกหนี้ล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ นายทัยกรลูกหนี้ เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แล้ว

ลูกหนี้เลขประจำตัวประชาชน 3-4099-00364-88-1 อาชีพ ไม่ปรากฏแน่ชัด เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2511  มีภูมิลำเนาอยู่เลขที่ 139/2 หมู่ที่ 14  ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดเป็นต้นไป เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) จัดการและจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
(2) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สิน ซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
(3) ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้

อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเรื่องนี้ จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรมกรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานบังคับคดีซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งนี้ แต่ถ้าเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกิน 2 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไทกร อ้างตัวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอีสานเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2538 โดยระบุว่า เพราะศรัทธาและประทับใจ นายชวน หลีกภัย ซึ่งสมัยนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  ต่อมาได้ลาออกและได้จัดตั้งพรรคการเมืองของตนเองขึ้น ชื่อ "พรรคประชาชนไทย" แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

จากนั้นจึงก่อตั้งขบวนการประชาชนขึ้นมา ชื่อว่า ขบวนการอีสานกู้ชาติ เพื่อทำการต่อต้านระบอบทักษิณโดยเฉพาะ นายไทกรเป็นที่รู้จักขึ้นมา จากการเป็นผู้เปิดโปงการทุจริตและประพฤติมิชอบต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างในรัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์และไทยรักไทย หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 นายไทกรเป็นผู้มีบทบาทอย่างมากในการสืบหาหลักฐานที่พรรคไทยรักไทยจ้างวานพรรคเล็กเพื่อให้ลงเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 และเป็นพยานสำคัญในการพิจารณาคดีของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ  แต่ทางพรรคไทยรักไทยโต้กลับมาว่า นายไทกรใส่ความพรรคไทยรักไทยและสนิทสนมกับทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์

ปัจจุบัน นายไทกรยังคงดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่ในลักษณะการเคลื่อนไหวภาคประชาชน โดยมักจะเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะ ๆ และได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในจังหวัดขอนแก่น ปลายปี พ.ศ. 2550 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
----
ตามรอยหลายๆ คนเช่นแม่ ส.ส.พรรคแมงสาบ, ลิ้ม โกตั้บ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น