‘สมชัย ศรีสุทธิยากร’ ระบุ กรณีเลือกตั้ง 2 ก.พ. โมฆะจะชัดเจนภายใน 27 ม.ค.นี้ ชี้ไม่ควรให้การจัดเลือกตั้งไปอยู่ภายใต้หน่วยงานราชการ เพราะไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะจัดเลือกตั้งได้เป็นกลาง ยกนิทานจันทรโครพ เทียบนางโมรายื่นดาบให้โจร
7 ม.ค.2558 สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอที่จะให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการจัดการเลือกตั้งว่า สิ่งสำคัญเราพูดถึงอำนาจหน้าที่ซึ่งกกต.มีอำนาจหน้าที่จัดการเลือกตั้งโดยตรง แต่กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาธิการ ไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ถ้าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนได้แต่จะเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งการจัดการเลือกตั้งไม่ใช่แค่ทำให้สำเร็จ แต่ต้องทำให้ดี สามารถคัดกรองคนดีมีคุณภาพเข้าสู่ระบบการเมือง ซึ่งกกต.มีประสบการณ์มา 16 ปี รู้ถึงเล่ห์กลที่ฝ่ายการเมืองจะใช้เพื่อให้ตัวเองได้รับเลือกตั้งเข้ามา ทำให้เชื่อว่าจะสามารถคัดกรองคนดีเข้ามาได้ แต่ถ้าจะให้กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงศึกษาฯจัดการเลือกตั้ง คงทำแค่ให้การเลือกตั้งสำเร็จและรับรองความชอบธรรมให้ฝ่ายการเมืองหรือได้คนทุจริตเข้าสู่การเมือง
สมชัย กล่าวอีกว่า หากจะใช้มหาดไทยและศึกษาฯ จัดการเลือกตั้ง ถามว่าทุกวันนี้ใครจะเป็นผู้ว่าฯ จะต้องได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองในพื้นที่หรือไม่ ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กล้าปฏิเสธหรือไม่ว่า ไม่ใช่หัวคะแนนนักการเมือง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็เป็นเครือญาตินักการเมือง ส่วนบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ก็ใช้เส้นสายนักการเมืองในการเติบโต ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ยังคงมีอยู่ก็ไม่ควรให้การจัดเลือกตั้งไปอยู่ภายใต้หน่วยงานราชการ เพราะไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าจะจัดเลือกตั้งได้เป็นกลาง
สมชัย กล่าวว่า แนวคิดที่จะให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมาจากคน 3 กลุ่ม 1. กลุ่มร้อนวิชา เป็นพวกอยากลองของใหม่เห็นว่าสิ่งที่เป็นอยู่มีปัญหา ทั้งที่เรื่องการเลือกตั้งไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาทดลองกัน การแก้ปัญหาต้องมองถึงทางออก คิดถึงอนาคต ไม่ใช่ทำอะไรเป็นการถอยหลังเข้าคลอง 2. กลุ่มบ้าอำนาจเป็นพวกนักการเมืองที่มองการณ์ไกลว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าสามารถเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะสามารถควบคุมการเลือกต้ังได้ และ 3.กลุ่มที่มีอำนาจในปัจจุบันซึ่งตนไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไร แต่กลุ่มนี้คิดที่จะใช้อำนาจที่มีอยู่ในปัจจุบัน ควบคุมกลไกต่าง ๆ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ไม่ได้มองระยะยาว
“จริงอยู่ว่าคนของกระทรวงมหาดไทยและศึกษาฯ เข้ามาช่วยจัดการเลือกตั้ง แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของกกต.ที่ใช้กลไกที่มีอยู่ในการดูแล จะไม่เหมือนกับแนวคิดใหม่ที่กกต.จะกลายเป็นเพียงผู้กำกับดูแลเท่านั้น การคิดใหม่ในเรื่องนี้ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนนิทานจันทรโครพ สปช.ท้ายสุดจะเหมือนนางโมราที่ยื่นดาบให้กับโจร สิ่งที่เราคิดว่าจะให้เกิดคือจัดการกับโจร คนทุจริต เราก็สร้างกลไกขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าฝ่ายโจรกลับได้ดาบนั้นไปแล้วเอาดาบนั้นมาทิ่มแทงเรา ก็เท่ากับว่าเรายื่นดาบให้กับโจร ดังนั้นการจะร่างอะไร ประสบการณ์ในอดีตต้องเป็นตัวชี้ ไม่ใช่แค่มองปัญหาในปัจจุบัน จึงอยากให้คนคิดมีสติ เพราะการสร้างกลไกขึ้นมาไม่ได้อยู่ครั้งเดียว แต่จะอยู่ไปเรื่อย ๆ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้คิดเพื่อ กกต.หรือหวงอำนาจ แต่คิดตามหลักสากล หน่วยงานที่จะจัดการเลือกตั้งจะเป็นหน่วยงานใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกกต.แต่ขอให้มีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้กำกับนักการเมืองหรือหน่วยราชการ เพราะประวัติศาสตร์ชี้แล้วว่าราชการประจำไม่อยู่ในฐานะที่จะไว้ใจว่าเป็นกลางทางการเมือง” สมชัย กล่าว
สมชัย ยังกล่าวถึงการให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งว่า ต้องไม่เป็นลักษณะเข้ามาร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างในปัจจุบัน เพราะทุกวันนี้องค์กรเอกชนไม่ได้มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง ทำให้การตรวจสอบเหมือนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและกลายเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น ขณะที่การจะให้เข้ามามีส่วนเป็นกกต.จังหวัดก็ต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการสรรหาที่มองว่าต้องได้หัวหน้าส่วนราชการมาเป็น กกต.เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งได้รับการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯหรือผู้กำกับ ซึ่งตรงนี้ทำให้ตนไม่ไว้ใจกกต.จังหวัดร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าจะสร้างกลไกที่ไว้ใจได้ต้องมีภาคประชาสังคมเข้ามาเป็นกกต.จังหวัดในสัดส่วนที่เป็นเสียงข้างมาก
ระบุ กรณีเลือกตั้ง 2 ก.พ. โมฆะจะชัดเจนภายใน 27 ม.ค.นี้
สำหรับ ความคืบหน้าในการฟ้องร้องค่าเสียหาย 3,000 ล้านบาทกับผู้ที่ทำให้การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ ว่า คณะทำงานของสำนักกฎหมายกกต.เสนอจะเสนอเรื่องดังกล่าวในวันที่ 20 มกราคมนี้ สมชัย กล่าวว่า “หากข้อมูลชัดเจนจะทราบว่าจะฟ้องใคร ข้อหาอะไร มูลค่าความเสียหายเท่าไหร่ แต่ถ้าข้อมูลยังไม่ชัดเจน จะให้รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม แต่ต้องไม่เกินวันที่ 27 มกราคม ซึ่งหลักคิดคือใครผิดก็ฟ้อง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น