http://www.internetfreedom.us/thread-11958.html
รัฐประหารคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือจะเรียกว่าปฏิวัติ ตามประสาชาวบ้านก็ไม่ผิด
เราคนไทยด้วยกัน เกิดจากท้องพ่อ ท้องแม่ที่เป็นมนุษย์เด้วยกัน ผมเชื่อว่าไม่มีใครผู้ใดในนี้
เกิดจากท้องนางฟ้าเทวดาแน่นอน
การเคลื่อนกำลังออกมาเพื่อทำการรัฐประหาร แน่นอนว่า ทุกท่านรู้ดีว่าต้องพบกับเหตุการณ์เช่นไร
91 ศพที่ตายไป มันเป็นบทเรียนพอแล้วหรือยัง ที่จะให้พวกท่านคิดและไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนที่จะ
ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างผิดกฏหมายจากคนๆเดียว หรือคนกลุ่มเดียว
ยังจำกันได้ไหมทหารชั้นผู้น้อยทั้งหลาย เมื่อครั้ง เมษา และ พฤษภา 53 ที่ผ่านมา
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเศษๆ ท่านได้รับเงินพิเศษในเรื่องการเข่นฆ่าประชาชนคนละเท่าไหร่
แล้วคนที่สั่งการให้ท่านเข่นฆ่าประชาชนนำเงินภาษีของประชาชนไปเท่าไหร่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เงินประมาณ 6 พันล้านบาท ที่เบิกเงินไปจากรัฐบาล ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่ากระสุนปืน มีเจ้าที่ตำรวจและทหารปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลานั้นจริงประมาณ 2 หมื่นคน
เอาตัวเลข 6 พันล้านบาท ตั้ง แล้วหารด้วย2 หมื่นคน ถัวเฉลี่ยประมาณหัวละ 3 แสนบาท
พวกท่านลองคิดทบทวนย้อนกลับไปดูอีกครั้งหนึ่งว่าพวกท่านได้รับเงินจริงๆ คนละเท่าไหร่
เอากันให้ชัดๆ ท่านที่เป็นพลทหารท่านได้รับเงินรวมแล้วถึงหมื่นบาทหรือไม่
ท่านที่เป็นนายตำรวจระดับชั้นประทวนและสัญญาบัตร ลองถามตัวท่านเองซิว่า ท่านเหนื่อยและตรากตรำมามากเท่าไหร่ ตั้งแต่วันที่ม็อบเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ จนสิ้นสุดการสังหารโหด แต่ละท่านได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงคนละถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือไม่และทุกวันนี้ท่านได้รับกันครบตามจำนวนแล้วหรือยัง
เฉลี่ยตัวเลขกลับไปใหม่ สมมุติว่าพวกท่านได้รับครบกันทุกคนๆละหนึ่งหมื่นบาท ตัวเลขที่คูณแล้ว(10,000 บาท x 20,000 คน) ทั้งหมดจ่ายจริงแค่ 200 ล้านบาท (นี่ขนาดคิดว่าท่านได้รับครบตามจำนวนแล้ว ยังจ่ายจริงแค่ 200 ล้านบาท)
ท่านไม่สงสัยเลยหรือว่า เงินประมาณ 5 พัน 8 ร้อย ล้านบาท อยู่ที่ใคร?
หลังจากที่มีการแต่งตั้งผบ.ทบ.คนใหม่ ยังจำภาพที่นักข่าวสัมภาษณ์ท่านผบ.ทบ.คนใหม่ได้กันหรือไม่ ว่าท่านฯมีอาการหัวเสียและตวาดใส่นักข่าวว่าอย่างไรในวันนั้น
สิ่งที่ผมจะถามพวกท่านทั้งหลายก็คือ คำถามที่นักข่าวถามผบ.ทบ.นั้นคืออะไร จนเป็นเหตุให้ท่านผบ.ทบ.ถึงกับฟิวส์ขาด แสดงความไร้ซึ่งวุฒิภาวะได้เช่นนั้น
คำถามนั้น........”ท่านใช้งบประมาณในการปราบปรามม็อบเสื้อแดงไปเท่าไหร่ค๊ะ?”
จะเห็นได้ว่าแค่นักข่าวยิงคำถามเรื่องค่าใช้จ่ายไปแค่นั้น มันทำให้หมายเลข1 ของกองทัพไทย ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ความเป็นผู้นำขาดสะบั้น ไร้สติ เฉกเช่นอันธพาลที่รีดไถเงินจากบ่อน หรือซ่อง
ทั้งหมดมันแปลว่าอะไร ...นัยของมันก็คือนักข่าวสงสัย ผบ.ทบและพวก อมเงิน 5 พัน 8 ร้อย ล้านบาท ไปใช่ไหม ถึงได้ออกอาการเช่นนั้น
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ถ้าเกิดการปฏิวัติ ม็อบที่ออกมา ครั้งนี้ไม่มีใครสวมใส่เสื้อแดงอีกด้วย วันที่พวกเขาจะออกมาต่อต้าน ในจำนวนนั้นพวกที่ออกมาอาจจะไม่เคยเป็นเสื้อแดงมาก่อนปะปนกันอยู่ในนั้นด้วย ผมจะขอถามท่านที่รับราชการทั้งทหารและตำรวจทั้งหลาย
1. ท่านจะยอมเป็นขี้ข้ารับใช้ไอ้พวกฆาตกรโหดครั้งนี้อีกหรือไม่
2. ท่านคิดว่าคุ้มแล้วหรือ กับการรับจ้างฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ไม่มีทางสู้ในราคาแค่หนึ่งหมื่นบาท
3. ในครั้งนี้ ถ้าพวกฆาตกรกล้าทำอีก ท่านคิดหรือไม่ว่ามันจะฟาดเงินจากภาษีของประชาชนไปอีกกี่หมื่นล้านบาท
4. ท่านรู้หรือไม่ว่าเงินที่พวกมันเอามา เป็นเงินของใคร ของพ่อแม่พี่น้องของท่านหรือเปล่าที่เสียภาษีไป
5. ท่านเข้าใจคำว่า “ชาติ” ดีแค่ไหน ถ้าท่านเคยปฏิญาณไว้ว่าท่านจะปกป้องชาติ แต่กลับมาเข่นฆ่าประชาชน แสดงว่าท่านลืมคำปฏิญาณที่ให้ไว้หรือเปล่า เพราะชาติก็คือประชาชนนั่นเอง
จาก 5 ข้อที่กล่าวมานี้ ท่านตั้งคำถามให้ตัวเองและตอบให้ตัวเองเมื่อวันนั้นมาถึง เมื่อได้คำตอบแล้ว ท่านจะปฏิบัติอย่างไรเป็นสิทธิส่วนตัวของท่าน
ทางเลือกมีแค่เป็น โจรสวมเครื่องแบบ กับ เป็นประชาชนสวมเครื่องแบบทหารของชาติ ท่านต้องเลือก
ทางเลือกคนเรานั้น มีไม่มากนักที่ให้เลือกและอาจเลือกได้ครั้งเดียวในชีวิตที่ท่านเกิดมาเป็นคน
โปรดตรองดูสักนิด ถ้าแม้ว่าชีวิตนี้ท่านเกิดมาจากประชาชน
ลูกไพร่ก็ต้องเกิดเป็นไพร่เพราะเรามันสืบสันดานเดียวกัน ลูกไพร่มิอาจเป็นลูกนางฟ้าได้
เตรียมตัวเตรียมใจของท่านให้พร้อมเมื่อวันนั้นมาถึง ปากกระบอกปืนรถถังและเอ็ม 16 รวมทั้งพลซุ่มยิง RPG เล็งไปที่กองบัญชาการกองทัพบก
สาดใส่ลงไปตรงนั้น
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
คิว”ฆ่า” กำลังเดินทางมาถึงแล้ว
พวกท่านต้องเลือกเอาว่าท่านจะฆ่าใคร ระหว่างผู้มีพระคุณที่จ่ายภาษีชุบเลี้ยงท่านมา กับ โจรปล้นแผ่นดิน
การเป็น “คน” มันวัดกันอยู่แค่ตรงนี้
ชาวไพร่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เลือดไพร่ที่ตกทอดกันมา คงจะสำนึกได้ อะไรคือความดี อะไรคือความเลว
ลึกๆ คงอดคิดไม่ได้ว่า วันที่ปฏิวัติ คือวันที่สูญสิ้นอำนาจเผด็จการอย่างแท้จริง
เราคนไทยทั้งมวลอยากเห็นวีระบุรุษที่แท้จริง ลุกขึ้นมาสู้เคียงบ่า เคียงไหล่กับประชาชนเฉกเช่น
พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล อีกสักร้อย คนพันคน ผู้ที่ได้รับการสดุดีจากประชาชนเกินครึ่งประเทศ แต่เหรียญตราท่านไม่เคยได้รับ
โอกาสดีของพวกท่านเดินทางมาถึงแล้ว
ที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน คือพวกท่านนั่นเอง “ทหารของประชาชน”
เครดิตข้อเขียนตอนนี้ขอมอบแด่ คุณredthai 2010
ผู้เขียนเป็นเพียงสื่อกลางให้เท่านั้นครับ
เราคนไทยด้วยกัน เกิดจากท้องพ่อ ท้องแม่ที่เป็นมนุษย์เด้วยกัน ผมเชื่อว่าไม่มีใครผู้ใดในนี้
เกิดจากท้องนางฟ้าเทวดาแน่นอน
การเคลื่อนกำลังออกมาเพื่อทำการรัฐประหาร แน่นอนว่า ทุกท่านรู้ดีว่าต้องพบกับเหตุการณ์เช่นไร
91 ศพที่ตายไป มันเป็นบทเรียนพอแล้วหรือยัง ที่จะให้พวกท่านคิดและไตร่ตรองไว้ก่อน ก่อนที่จะ
ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างผิดกฏหมายจากคนๆเดียว หรือคนกลุ่มเดียว
ยังจำกันได้ไหมทหารชั้นผู้น้อยทั้งหลาย เมื่อครั้ง เมษา และ พฤษภา 53 ที่ผ่านมา
ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเศษๆ ท่านได้รับเงินพิเศษในเรื่องการเข่นฆ่าประชาชนคนละเท่าไหร่
แล้วคนที่สั่งการให้ท่านเข่นฆ่าประชาชนนำเงินภาษีของประชาชนไปเท่าไหร่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เงินประมาณ 6 พันล้านบาท ที่เบิกเงินไปจากรัฐบาล ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่ากระสุนปืน มีเจ้าที่ตำรวจและทหารปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลานั้นจริงประมาณ 2 หมื่นคน
เอาตัวเลข 6 พันล้านบาท ตั้ง แล้วหารด้วย2 หมื่นคน ถัวเฉลี่ยประมาณหัวละ 3 แสนบาท
พวกท่านลองคิดทบทวนย้อนกลับไปดูอีกครั้งหนึ่งว่าพวกท่านได้รับเงินจริงๆ คนละเท่าไหร่
เอากันให้ชัดๆ ท่านที่เป็นพลทหารท่านได้รับเงินรวมแล้วถึงหมื่นบาทหรือไม่
ท่านที่เป็นนายตำรวจระดับชั้นประทวนและสัญญาบัตร ลองถามตัวท่านเองซิว่า ท่านเหนื่อยและตรากตรำมามากเท่าไหร่ ตั้งแต่วันที่ม็อบเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ จนสิ้นสุดการสังหารโหด แต่ละท่านได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงคนละถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือไม่และทุกวันนี้ท่านได้รับกันครบตามจำนวนแล้วหรือยัง
เฉลี่ยตัวเลขกลับไปใหม่ สมมุติว่าพวกท่านได้รับครบกันทุกคนๆละหนึ่งหมื่นบาท ตัวเลขที่คูณแล้ว(10,000 บาท x 20,000 คน) ทั้งหมดจ่ายจริงแค่ 200 ล้านบาท (นี่ขนาดคิดว่าท่านได้รับครบตามจำนวนแล้ว ยังจ่ายจริงแค่ 200 ล้านบาท)
ท่านไม่สงสัยเลยหรือว่า เงินประมาณ 5 พัน 8 ร้อย ล้านบาท อยู่ที่ใคร?
หลังจากที่มีการแต่งตั้งผบ.ทบ.คนใหม่ ยังจำภาพที่นักข่าวสัมภาษณ์ท่านผบ.ทบ.คนใหม่ได้กันหรือไม่ ว่าท่านฯมีอาการหัวเสียและตวาดใส่นักข่าวว่าอย่างไรในวันนั้น
สิ่งที่ผมจะถามพวกท่านทั้งหลายก็คือ คำถามที่นักข่าวถามผบ.ทบ.นั้นคืออะไร จนเป็นเหตุให้ท่านผบ.ทบ.ถึงกับฟิวส์ขาด แสดงความไร้ซึ่งวุฒิภาวะได้เช่นนั้น
คำถามนั้น........”ท่านใช้งบประมาณในการปราบปรามม็อบเสื้อแดงไปเท่าไหร่ค๊ะ?”
จะเห็นได้ว่าแค่นักข่าวยิงคำถามเรื่องค่าใช้จ่ายไปแค่นั้น มันทำให้หมายเลข1 ของกองทัพไทย ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ความเป็นผู้นำขาดสะบั้น ไร้สติ เฉกเช่นอันธพาลที่รีดไถเงินจากบ่อน หรือซ่อง
ทั้งหมดมันแปลว่าอะไร ...นัยของมันก็คือนักข่าวสงสัย ผบ.ทบและพวก อมเงิน 5 พัน 8 ร้อย ล้านบาท ไปใช่ไหม ถึงได้ออกอาการเช่นนั้น
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ถ้าเกิดการปฏิวัติ ม็อบที่ออกมา ครั้งนี้ไม่มีใครสวมใส่เสื้อแดงอีกด้วย วันที่พวกเขาจะออกมาต่อต้าน ในจำนวนนั้นพวกที่ออกมาอาจจะไม่เคยเป็นเสื้อแดงมาก่อนปะปนกันอยู่ในนั้นด้วย ผมจะขอถามท่านที่รับราชการทั้งทหารและตำรวจทั้งหลาย
1. ท่านจะยอมเป็นขี้ข้ารับใช้ไอ้พวกฆาตกรโหดครั้งนี้อีกหรือไม่
2. ท่านคิดว่าคุ้มแล้วหรือ กับการรับจ้างฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ไม่มีทางสู้ในราคาแค่หนึ่งหมื่นบาท
3. ในครั้งนี้ ถ้าพวกฆาตกรกล้าทำอีก ท่านคิดหรือไม่ว่ามันจะฟาดเงินจากภาษีของประชาชนไปอีกกี่หมื่นล้านบาท
4. ท่านรู้หรือไม่ว่าเงินที่พวกมันเอามา เป็นเงินของใคร ของพ่อแม่พี่น้องของท่านหรือเปล่าที่เสียภาษีไป
5. ท่านเข้าใจคำว่า “ชาติ” ดีแค่ไหน ถ้าท่านเคยปฏิญาณไว้ว่าท่านจะปกป้องชาติ แต่กลับมาเข่นฆ่าประชาชน แสดงว่าท่านลืมคำปฏิญาณที่ให้ไว้หรือเปล่า เพราะชาติก็คือประชาชนนั่นเอง
จาก 5 ข้อที่กล่าวมานี้ ท่านตั้งคำถามให้ตัวเองและตอบให้ตัวเองเมื่อวันนั้นมาถึง เมื่อได้คำตอบแล้ว ท่านจะปฏิบัติอย่างไรเป็นสิทธิส่วนตัวของท่าน
ทางเลือกมีแค่เป็น โจรสวมเครื่องแบบ กับ เป็นประชาชนสวมเครื่องแบบทหารของชาติ ท่านต้องเลือก
ทางเลือกคนเรานั้น มีไม่มากนักที่ให้เลือกและอาจเลือกได้ครั้งเดียวในชีวิตที่ท่านเกิดมาเป็นคน
โปรดตรองดูสักนิด ถ้าแม้ว่าชีวิตนี้ท่านเกิดมาจากประชาชน
ลูกไพร่ก็ต้องเกิดเป็นไพร่เพราะเรามันสืบสันดานเดียวกัน ลูกไพร่มิอาจเป็นลูกนางฟ้าได้
เตรียมตัวเตรียมใจของท่านให้พร้อมเมื่อวันนั้นมาถึง ปากกระบอกปืนรถถังและเอ็ม 16 รวมทั้งพลซุ่มยิง RPG เล็งไปที่กองบัญชาการกองทัพบก
สาดใส่ลงไปตรงนั้น
อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
คิว”ฆ่า” กำลังเดินทางมาถึงแล้ว
พวกท่านต้องเลือกเอาว่าท่านจะฆ่าใคร ระหว่างผู้มีพระคุณที่จ่ายภาษีชุบเลี้ยงท่านมา กับ โจรปล้นแผ่นดิน
การเป็น “คน” มันวัดกันอยู่แค่ตรงนี้
ชาวไพร่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เลือดไพร่ที่ตกทอดกันมา คงจะสำนึกได้ อะไรคือความดี อะไรคือความเลว
ลึกๆ คงอดคิดไม่ได้ว่า วันที่ปฏิวัติ คือวันที่สูญสิ้นอำนาจเผด็จการอย่างแท้จริง
เราคนไทยทั้งมวลอยากเห็นวีระบุรุษที่แท้จริง ลุกขึ้นมาสู้เคียงบ่า เคียงไหล่กับประชาชนเฉกเช่น
พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล อีกสักร้อย คนพันคน ผู้ที่ได้รับการสดุดีจากประชาชนเกินครึ่งประเทศ แต่เหรียญตราท่านไม่เคยได้รับ
โอกาสดีของพวกท่านเดินทางมาถึงแล้ว
ที่พึ่งสุดท้ายของประชาชน คือพวกท่านนั่นเอง “ทหารของประชาชน”
เครดิตข้อเขียนตอนนี้ขอมอบแด่ คุณredthai 2010
ผู้เขียนเป็นเพียงสื่อกลางให้เท่านั้นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น