วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

‘ณัฐวุฒิ’ลั่นนำสู้ต่อเตรียมเดินสายเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
http://www.dailyworldtoday.com/newsblank...ws_id=9780


ศาลให้ประกันตัวแกนนำคนเสื้อแดงแล้ว ตั้งเงื่อนไขห้ามยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ ห้ามออกนอกประเทศ คนเสื้อแดงแห่ต้อนรับแน่นเรือนจำ “ณัฐวุฒิ” ประกาศนำมวลชนสู้ต่อเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ขอเวลาอยู่กับครอบครัวไม่กี่วัน จากนั้นจะออกเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตจากการชุมนุม ลูกเมียพากันดีใจได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัว “ธิดา” ยันชุมนุมวันที่ 12 มี.ค. มีตามกำหนดเดิม ระบุแกนนำได้ประกันเป็นแค่จุดเริ่มต้น ต้องนำแนวร่วมที่อยู่ในเรือนจำออกมาให้หมด

คนเสื้อแดงได้รับข่าวดีเมื่อศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว 7 แกนนำ หลังเปิดการไต่สวนพยานไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา

ทั้ง 7 คนที่ได้รับการประกันตัวในข้อหาก่อการร้าย ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายขวัญชัย ไพรพนา, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และแนวร่วมอีก 1 คนคือ นายภูมิกิตติ สุขจินดาทอง

ศาลระบุมีข้อเท็จจริงให้เปลี่ยนคำสั่ง

ศาลระบุว่า หลังศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนแล้วเห็นว่ามีข้อเท็จจริงบางประการที​่จะให้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากคำสั่งเดิมได้ จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 600,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ศาลได้กำหนดเงื่อนไขการประกันตัวประกอบด้วย ห้ามมิให้กระทำการอันเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน อันจะทำให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาญาจักรหรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย และห้ามเดินทางออกนอกราชอาญาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล

ศาลอ่านคำสั่ง 2 รอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลต้องอ่านคำสั่ง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกอ่านไปได้นิดเดียวและพักลงจากบัลลังก์ประมาณ 15 นาที ก่อนขึ้นมาอ่านคำสั่งใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนั้นด้านนอกมีฝนตกหนักและกระแสไฟภายในศาลกระตุกเล็กน้อย

ทั้งนี้ จำเลยทั้ง 8 คนที่ได้รับการประกันตัวไม่ได้เดินทางมาศาล คงอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยศาลได้ออกหมายปล่อยตัวส่งไปยังเรือนจำเพื่อดำเนินการในเย็นวันเดียวกัน โดยมีแนวร่วมคนเสื้อแดงไปรวมตัวกันรอต้อนรับเป็นจำนวนมาก

ทนายตามยื่นประกันคดีอื่น

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน เปิดเผยว่า หลังได้รับประกันตัวในคดีก่อการร้ายแล้วได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวนายณัฐวุฒิ นพ.เหวง และนายวิภูแถลงที่ตกเป็นจำเลยคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อีกคนละ 200,000บาท และยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ประกันตัวนายยศวริศในคดีหมิ่นเบื้องสูงและปล้นอาวุธ

หวังแนวร่วมได้ประกันตัวด้วย

นายนรินพงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความ นปช. กล่าวว่า คดีความของคนเสื้อแดงอื่นๆมีข้อกล่าวหาและอัตราโทษเบากว่านี้ หวังว่าศาลจะใช้บรรทัดฐานของคดีก่อการร้ายเป็นตัวตั้งในการพิจารณาคดีอื่นและปล่อยตั​วแนวร่วมที่ยังอยู่ในเรือนจำออกมา

นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ศาลมีความเมตตา ส่วนเงื่อนไขต่างๆที่ศาลกำหนดนั้น แกนนำแต่ละคนมีวุฒิภาวะมากพอที่จะไม่ทำอะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว

“ธิดา” ยันวันที่ 12 มี.ค. ชุมนุมปรกติ

“เมื่อแกนนำได้รับความเป็นธรรมก็อยากขอให้มีความเป็นธรรมกับคนเสื้อแดงอีก 100 กว่าคนที่ยังอยู่ในเรือนจำ และคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตด้วย” นางธิดากล่าวพร้อมยืนยันว่า การชุมนุมในวันที่ 12 มี.ค. จะมีตามปรกติ แต่ยังไม่ยืนยันว่าแกนนำที่ได้ประกันตัวจะขึ้นเวทีด้วยหรือไม่ เท่าที่ดูเงื่อนไขของศาลไม่ได้ห้ามขึ้นเวที โดยจะหารือกันเพื่อดูความเหมาะสมก่อน

ต้องทวงความยุติธรรมให้คนตาย

นางธิดาย้ำว่า คนเสื้อแดงยังต้องเคลื่อนไหวต่อไปเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต​จากการสลายการชุมนุม และทำความจริงเหตุการณ์ให้ปรากฏ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป

“วันนี้แค่รุ่งอรุณของความยุติธรรม ยังมีคนที่อยู่ในเรือนจำอีกมาก และมีความจริงที่ยังไม่ได้ปรากฏอีกมาก เราไม่ได้สู้เพื่อแกนนำ นี่เป็นก้าวแรกที่เรามองเห็นแสงของความยุติธรรม เราต้องเคลื่อนไหวต่อ ต้องพยายามพิสูจน์ให้มากขึ้นว่าคนเหล่านั้นถูกป้ายสี แต่จะไม่ปกป้องคนทำผิด ใครผิดก็ว่าไปตามจริง แต่คนถูกป้ายสีต้องช่วยเหลือออกมา”

ภรรยาแกนนำกอดคอร่ำไห้ดีใจ

ทั้งนี้ หลังทราบคำสั่งศาลให้ประกันตัว นางธิดาและบรรดาภรรยาของแกนนำ นปช. ที่เดินทางไปฟังคำสั่งศาลได้กอดคอกันร่ำไห้ด้วยความดีใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำทั้ง 7 คนได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของแนวร่วมคนเสื้อแดงที่ไปรอต้อนรับและให้กำลังใจจำนวนมาก

“ณัฐวุฒิ” ประกาศเดินหน้าสู้ต่อ

นายณัฐวุฒิกล่าวปราศรัยผ่านโทรโข่งกับคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจว่า “ผมและพี่น้องทุกคนที่อยู่ในเรือนจำขอประกาศให้ทุกคนมั่นใจว่าการต่อสู้ของพวกเราเดิ​นมาถูกต้องแล้ว และจะต่อสู้ต่อไป พี่น้องครับผมกลับมาแล้ว และพร้อมจะต่อสู้ร่วมกับพวกท่าน จากนี้ไปขอเวลาอยู่กับครอบครัวนิดเดียว จากนั้นจะออกเยียวยาพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวพี่น้องที่เสียชีวิจจากการสล​ายการชุมนุมทุกคน และจะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่น้องที่อยู่ในคุกออกมาให้ได้ ไม่ว่าอิสรภาพของพวกผมจะอยู่นานแค่ไหน แต่จะร่วมต่อสู้ต่อไปเพื่อให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยที่จะทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนกับประเทศไทย พวกผมจะไม่ยอมทิ้งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแน่นอน”


นอกจากนี้นายณัฐวุฒิยังได้กล่าวขอบคุณศาล ทุกคน ทุกองค์กรที่ช่วยเหลือให้ได้รับอิสรภาพในครั้งนี้

ภรรยายืนยันให้การสนับสนุนสามี

นางสิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยานายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “ดีใจที่พี่เต้นได้ออกจากเรือนจำ เป็นครั้งแรกที่พี่เขาจะได้กอดลูกอย่างจริงๆจังๆเสียที ส่วนหลังจากนี้ไม่ว่าพี่เขาจะทำอะไรพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่”

ด้านนางกุลรัตน์ พิกุลทอง ภรรยานายก่อแก้ว กล่าวว่า “ดีใจค่ะ พ่อเขาจะได้อยู่กับลูกสักที ที่ผ่านมาเขาได้กอดลูกไม่เกิน 5 ครั้งเฉพาะช่วงที่เขาไปขึ้นศาล ตอนแรกทำใจไม่ได้เลย แต่เดี๋ยวนี้เข้มแข็งขึ้นมาก จากนี้ไปพี่เขาทำอะไรจะไม่ห้าม จะสนับสนุนทุกเรื่อง”

จับ “สุรชัย” ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง

ขณะที่แกนนำ นปช. 7 คนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน อายุ 68 ปี แกนนำกลุ่มแดงสยาม ที่เป็นแนวร่วมกับ นปช. ได้ถูกตำรวจเข้าจับกุมเมื่อคืนวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังถูกออกหมายจับในข้อหาดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตาม ป.อาญา มาตรา 112

ยืนยันไม่เคยคิดหลบหนี

นายสุรชัยเปิดเผยว่า ก่อนถูกออกหมายจับตำรวจไม่เคยออกหมายเรียก และไม่เคยได้เห็นหมายจับ เพียงรับทราบผ่านสื่อว่ามีการออกหมายจับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้หนีไปไหน ยังทำกิจกรรมทางการเมืองตามปรกติ

“ความจริงตำรวจไม่ต้องไปจับผมหรอก แค่โทรศัพท์ไปแจ้งผมก็มาแล้ว ส่วนเรื่องการประกันตัวต้องรอดูตำรวจว่าจะอนุญาตหรือไม่ หากให้จะยื่นประกันตัว”

นำตัวฝากขังไม่ให้ประกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 22 ก.พ. ตำรวจได้นำตัวนายสุรชัยไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขออนุญาตฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.-5 มี.ค. 2554 โดยให้เหตุผลว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น และต้องรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือพร้อมประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบ​ียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ตำรวจระบุในท้ายคำร้องที่ยื่นต่อศาลคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

เมื่อศาลพิจารณาคำร้องแล้วสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขัง

คดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการปราศรัยของนายสุรชัยเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2553 เวลา 18.30-21.00 น. ในงาน “เสวนาตาสว่างครั้งที่ 2 โดย 4 ส.” ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 6 ห้างอิมพิเรียล ลาดพร้าว โดยตำรวจได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะขอศาลออกหมายจับ

http://www.dailyworldtoday.com/newsblank...ws_id=9780

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น