วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

ยิ่งอยู่ยาวยิ่งสร้างวิกฤติ

ปัญหา สำคัญของประเทศที่ยังคาราคาซัง การรับรองข้อตกลงคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) จำนวน 3 ฉบับ เจอโรคเลื่อนมีพิรุธชอบกล

เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เดิมทีรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะต้องการจะสร้างสัมพันธภาพกับฮุน เซน นายกฯกัมพูชา เพื่อเอาชนะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แค่นั้น ก็เลยส่งรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณไปเจรจากับรัฐบาลกัมพูชา จะทั้งที่กัมพูชาหรือที่ฮ่องกงตามข่าวก็อีกเรื่อง แต่สิ่งที่คุณสุเทพรับปากเอาไว้ ทั้งที่คุณสุวิทย์ คุณกิตติไปลงนามรับรองแผนการพัฒนาเขาพระวิหารของกัมพูชาเอาไว้ เป็นเงื่อนไขที่ต่อเนื่องมาจากเอ็มโอยู 43 ลงนามกันไว้ตั้งแต่สมัยที่ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล ตามความต้องการของรัฐบาลกัมพูชา

แต่เผอิญว่า กองทัพไม่เห็นด้วย พันธมิตรไม่เห็นด้วย ไม่ยอมเสียดินแดนและอธิปไตยเด็ดขาด สุดท้ายรัฐบาลก็เลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะผ่านความเห็นชอบเจบีซีก็ไม่ได้ จะไม่ลงความเห็นก็ไม่ได้ กัมพูชารอทวงสัญญาอยู่ ทำให้การประชุมเจบีซีที่ประเทศอินโดนีเซียเลื่อนออกไปด้วยอย่างไม่มีกำหนด

ท้าย ที่สุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ออกมาประกาศจุดยืนของกองทัพ ถ้าจะมีการประชุมเจบีซีก็ต้องประชุมกันในประเทศไทยนี่แหละ ไม่ต้องไปพึ่งประเทศที่สาม คิดดูแล้วกัน กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แล้ว สุเทพ เทือกสุบรรณ จะทำอย่างไร จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ทางออกให้ ศิริโชค โสภา ไปยื่นตีความไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ดัง นั้น เชื่อได้ว่า ปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว จะขยายความขัดแย้งขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบตกอยู่ที่รัฐบาลจะผ่าทางตันอย่างไร จะเป็นโรคเลื่อนบ่อยๆคงไม่สง่างาม และสุดท้ายก็น่าจะถึงทางตันจริงๆ

คง จะเป็นที่มาของ ข่าวว่า รัฐบาลเชื่อหมอดู ตัดสินใจยุบสภาตามฤกษ์งามยามดีคือวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งกฎหมายลูกเสร็จเรียบร้อยแล้ว กกต.ก็ไม่มีข้ออ้างในการกดดันที่จะลาออกจากตำแหน่ง เพราะ ทุกอย่างพร้อม ทั้งกฎหมายและงบประมาณ ต้องจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย

เพราะความพยายามที่จะบิดเบือนในการแก้ไขปัญหาของประเทศไม่อยู่ในครรลองคลองธรรม เชือกเลยมารัดคอตัวเอง

ดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด คิดจะล้างไพ่ใช้วิธียุบสภาให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

วิธี การเอาตัวรอดของรัฐบาลก็เหลืออยู่ทางเดียวจริงๆ ไปตายเอาดาบหน้า ไปลุ้นเอาในสนามเลือกตั้ง ดีกว่าไม่มีสนามเลือกตั้งให้ต่อลมหายใจ ขืนรอให้อำนาจพิเศษมาชี้เป็นชี้ตาย คราวนี้ ประชาธิปัตย์รวมทั้งพรรคการเมืองอื่นๆคงตกงานไปนานกว่าเมื่อปี 2549 อาจไม่มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ

ภายใต้แผนบันไดสี่ขั้น หมากตัวไหนหมดความสำคัญจะถูกเขี่ยตกกระดาน สร้างหมากตัวใหม่ขึ้นมาเดินต่อไปและเวลานี้หมากตัวใหม่ก็ถูกกำหนดไว้เรียบ ร้อยแล้ว

จึงเป็นการดิ้นครั้งสุดท้ายของประชาธิปัตย์.


"หมัดเหล็ก"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น