พล.อ.ชวลิตเป็นบุคลสำคัญไหม?
เป็น
พล.อ.ชวลิตเข้าพรรคเพื่อไทยมีความหมายไหม?
มี
พล.อ.ชวลิตออกจากพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องใหญ่ไหม?
ไม่แน่
เหตุใดจึงตอบว่าไม่แน่?
เพราะยังไม่ทราบว่า พล.อ.ชวลิตจะออกไปตั้งพรรคการเมือง ทำงานการเมืองต่อไป หรือว่าจะหยุดอยู่กับบ้านเพื่อเล่นกอล์ฟและเลี้ยงกล้วยไม้
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นทรัพยากรทางการเมืองที่สำคัญคนหนึ่งแน่นอนสำหรับการเมืองไทย ไม่เพียงสำคัญเพราะเคยผ่านตำแหน่ง ผบ.ทบ., ผบ.สส. และนายกรัฐมนตรีมาแล้ว หากสำคัญเพราะ พล.อ.ชวลิตเป็นทหารใหญ่คนเดียวที่มีความคิดอ่านทางการเมืองสูง และเป็นนักประชาธิปไตยตัวยง
กล่าวกันว่าวันที่ พล.อ.ชวลิตนั่งอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. นั้น (ขอประทานโทษ) ก้นท่านอยู่ห่างเก้าอี้นายกฯเพียงนิดเดียว จะย้ายก้นมานั่งเสียเมื่อไรก็ได้
แต่ท่านไม่ทำ
ไม่ทำเพราะเล็งเห็นอย่างที่นักประชาธิปไตยควรจะเล็งเห็นว่านั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
ดังนั้น พล.อ.ชวลิตจึงรอจนถึงเวลาเหมาะสมก็ลาออกจากตำแหน่งราชการประจำมาตั้งพรรคการเมือง แล้วก็เดินทาง 200,000 กิโลเมตร ไปสู่เก้าอี้นายกฯ เรียกว่าเข้าตามตรอกออกตามประตู
แม้จะอยู่ในตำแหน่งนั้นไม่นานก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นเป็นวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย
บางคนมองว่า พล.อ.ชวลิต พ.ศ. นี้เป็นตะเกียงไร้น้ำมันแล้ว เข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ออกไปจากพรรคเพื่อไทย (ตามที่กำลังเป็นข่าว) ก็ไม่เกิดแรงกระเพื่อมใดๆ
แต่ผู้เขียนเห็นตรงกันข้าม ผู้เขียนเห็นว่า พล.อ.ชวลิตไม่เคยหมดน้ำยา พล.อ.ชวลิตไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน คนที่มีมันสมอง มีความคิดความอ่าน และมีจุดยืนอยู่ในสัมมาทิฐิ จะเป็นคนไร้น้ำยาได้อย่างไร
ต้องยอมรับว่า พล.อ.ชวลิตคิดปัญหายุทธศาสตร์ของชาติได้ ท่านเข้าใจและมองทะลุปัญหาดีกว่านักการเมืองอาชีพอย่างชวน หลีกภัย บรรหาร ศิลปอาชา หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรีรุ่นหลานอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เพียงแต่ พล.อ.ชวลิตขาดเงิน
เมื่อขาดเงินแล้วก็ย่อมขาดอะไรอื่นอีกมาก เช่นเป็นต้นว่าขาดพรรค
ถ้าอยู่ในพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทย ซึ่งท่านเดินกลับเข้าไปตอนที่พรรคใหญ่พรรคนี้กำลังซวดเซ เพราะขาดผู้ใหญ่และขาดมันสมอง แต่ท่านก็ไม่อาจเปล่งประกายได้มาก เพราะภายในพรรคมีความสลับซับซ้อน
แต่ถึงอย่างไรท่านก็ยังเป็นเงาทะมึนที่คนอื่น (ปฏิปักษ์) เกรงขามอยู่มิใช่น้อยเวลาท่านนั่งอยู่ในพรรค แนวคิดเรื่องนครปัตตานี (ไม่ใช่นครรัฐปัตตานี) ของท่านสามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนได้ในระดับหนึ่งแน่นอน เรื่องอย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดไม่เป็น
เวลานี้ พล.อ.ชวลิตตัดสินใจออกจากพรรคเพื่อไทย ใครต่อใครบอกว่าเพราะไม่อาจทนกับพฤติกรรมสมาชิกพรรคบางคนที่เคลื่อนไหวหมิ่นเหม่ต่อสถาบันสำคัญของชาติ แต่ผู้เขียนเห็นว่าไม่ใช่แค่นั้นหรอก จะต้องมีอะไรอย่างอื่นอีก
แต่เมื่อเราไม่รู้ว่าคืออะไร ก็ชอบที่เราจะยกให้ความเป็นส่วนตัวของท่านเสียก็ได้ คนเรามันมีเหตุ มีปัจจัย มีสิ่งแวดล้อม และมีเงื่อนไขชีวิตแตกต่างกัน
พล.อ.ชวลิตออกจากพรรคเพื่อไทย คนเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องด่าตามหลังก็ได้ แต่จะห้ามคนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ช่วยตอกลิ่มความขัดแย้งเห็นจะห้ามไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าถ้า พล.อ.ชวลิตกับนายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ร่วมกันตั้งพรรค ย่อมทำให้พรรคเพื่อไทยทำสงครามกับพรรคใหม่ที่ว่านั้นได้มันกว่า
ดีกว่าให้พรรคเพื่อไทยสู้กับประชาธิปัตย์ตัวต่อตัว
เรื่องพรรค์นี้ต้องค่อยๆคิด ค่อยๆอ่าน
อย่าให้พวกเสื้อเหลืองบนสะพานมัฆวานฯหัวเราะเยาะเอาได้
*************************** |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น