วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

พ่อใหญ่ลา ลาออกอีกแย้ว
พล.อ.ชวลิตลาออก (อีกแล้ว)
http://www.dailyworldtoday.com/columblank.php?colum_id=51684
พล.อ.ชวลิตเป็นบุคลสำคัญไหม?


เป็น


พล.อ.ชวลิตเข้าพรรคเพื่อไทยมีความหมายไหม?


มี


พล.อ.ชวลิตออกจากพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องใหญ่ไหม?


ไม่แน่


เหตุใดจึงตอบว่าไม่แน่?

เพราะยังไม่ทราบว่า พล.อ.ชวลิตจะออกไปตั้งพรรคการเมือง ทำงานการเมืองต่อไป หรือว่าจะหยุดอยู่กับบ้านเพื่อเล่นกอล์ฟและเลี้ยงกล้วยไม้


พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นทรัพยากรทางการเมืองที่สำคัญคนหนึ่งแน่นอนสำหรับการเมืองไทย ไม่เพียงสำคัญเพราะเคยผ่านตำแหน่ง ผบ.ทบ., ผบ.สส. และนายกรัฐมนตรีมาแล้ว หากสำคัญเพราะ พล.อ.ชวลิตเป็นทหารใหญ่คนเดียวที่มีความคิดอ่านทางการเมืองสูง และเป็นนักประชาธิปไตยตัวยง


กล่าวกันว่าวันที่ พล.อ.ชวลิตนั่งอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ. และ ผบ.สส. นั้น (ขอประทานโทษ) ก้นท่านอยู่ห่างเก้าอี้นายกฯเพียงนิดเดียว จะย้ายก้นมานั่งเสียเมื่อไรก็ได้


แต่ท่านไม่ทำ

ไม่ทำเพราะเล็งเห็นอย่างที่นักประชาธิปไตยควรจะเล็งเห็นว่านั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง

ดังนั้น พล.อ.ชวลิตจึงรอจนถึงเวลาเหมาะสมก็ลาออกจากตำแหน่งราชการประจำมาตั้งพรรคการเมือง แล้วก็เดินทาง 200,000 กิโลเมตร ไปสู่เก้าอี้นายกฯ เรียกว่าเข้าตามตรอกออกตามประตู

แม้จะอยู่ในตำแหน่งนั้นไม่นานก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นเป็นวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย

บางคนมองว่า พล.อ.ชวลิต พ.ศ. นี้เป็นตะเกียงไร้น้ำมันแล้ว เข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ออกไปจากพรรคเพื่อไทย (ตามที่กำลังเป็นข่าว) ก็ไม่เกิดแรงกระเพื่อมใดๆ

แต่ผู้เขียนเห็นตรงกันข้าม ผู้เขียนเห็นว่า พล.อ.ชวลิตไม่เคยหมดน้ำยา พล.อ.ชวลิตไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน คนที่มีมันสมอง มีความคิดความอ่าน และมีจุดยืนอยู่ในสัมมาทิฐิ จะเป็นคนไร้น้ำยาได้อย่างไร

ต้องยอมรับว่า พล.อ.ชวลิตคิดปัญหายุทธศาสตร์ของชาติได้ ท่านเข้าใจและมองทะลุปัญหาดีกว่านักการเมืองอาชีพอย่างชวน หลีกภัย บรรหาร ศิลปอาชา หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรีรุ่นหลานอย่างอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

เพียงแต่ พล.อ.ชวลิตขาดเงิน

เมื่อขาดเงินแล้วก็ย่อมขาดอะไรอื่นอีกมาก เช่นเป็นต้นว่าขาดพรรค
ถ้าอยู่ในพรรคการเมืองอย่างเพื่อไทย ซึ่งท่านเดินกลับเข้าไปตอนที่พรรคใหญ่พรรคนี้กำลังซวดเซ เพราะขาดผู้ใหญ่และขาดมันสมอง แต่ท่านก็ไม่อาจเปล่งประกายได้มาก เพราะภายในพรรคมีความสลับซับซ้อน

แต่ถึงอย่างไรท่านก็ยังเป็นเงาทะมึนที่คนอื่น (ปฏิปักษ์) เกรงขามอยู่มิใช่น้อยเวลาท่านนั่งอยู่ในพรรค แนวคิดเรื่องนครปัตตานี (ไม่ใช่นครรัฐปัตตานี) ของท่านสามารถแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนได้ในระดับหนึ่งแน่นอน เรื่องอย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์คิดไม่เป็น

เวลานี้ พล.อ.ชวลิตตัดสินใจออกจากพรรคเพื่อไทย ใครต่อใครบอกว่าเพราะไม่อาจทนกับพฤติกรรมสมาชิกพรรคบางคนที่เคลื่อนไหวหมิ่นเหม่ต่อสถาบันสำคัญของชาติ แต่ผู้เขียนเห็นว่าไม่ใช่แค่นั้นหรอก จะต้องมีอะไรอย่างอื่นอีก

แต่เมื่อเราไม่รู้ว่าคืออะไร ก็ชอบที่เราจะยกให้ความเป็นส่วนตัวของท่านเสียก็ได้ คนเรามันมีเหตุ มีปัจจัย มีสิ่งแวดล้อม และมีเงื่อนไขชีวิตแตกต่างกัน

พล.อ.ชวลิตออกจากพรรคเพื่อไทย คนเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องด่าตามหลังก็ได้ แต่จะห้ามคนพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ช่วยตอกลิ่มความขัดแย้งเห็นจะห้ามไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าถ้า พล.อ.ชวลิตกับนายเสนาะ เทียนทอง และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ร่วมกันตั้งพรรค ย่อมทำให้พรรคเพื่อไทยทำสงครามกับพรรคใหม่ที่ว่านั้นได้มันกว่า

ดีกว่าให้พรรคเพื่อไทยสู้กับประชาธิปัตย์ตัวต่อตัว

เรื่องพรรค์นี้ต้องค่อยๆคิด ค่อยๆอ่าน
อย่าให้พวกเสื้อเหลืองบนสะพานมัฆวานฯหัวเราะเยาะเอาได้

***************************


http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น