วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ผบ.ทบ.วอนผู้ชุมนุมอย่าบีบทหารเลือกข้าง

ผบ.ทบ.วอนผู้ชุมนุมอย่าบีบทหารเลือกข้าง

รองโฆษกกองทัพบก เผยแถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. วอนผู้ชุมนุมอย่าบีบให้เลือกข้าง ขอทุกฝ่ายหาทางออกอย่างสันติโดยเร็ว หลังคปท.บุกเข้ากองทัพบกเรียกร้องทหารออกมาสนับสนุน
29 พ.ย.2556 หลังจากที่เครือข่ายต้านระบอบทักษิณมีการเรียกร้องและปราศรัยให้กองทัพออกมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายมาโดยตลอด จนกระทั้งวันนี้เวลา 12.30 น. ตามรายงานของคมชัดลึกออนไลน์ ระบุว่าผู้ชุมนุม กลุ่มเครือข่ายนักศึกษา ประชาชน ปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายนำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่ม คปท.และนายอุทัย ยอดมณี แกนนำกลุ่มคปท. พร้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันผลักดันประตูของกองทัพบกจนพังลง โดยทหารกองรักษาการณ์ที่อยู่บริเวณประตูด้านหน้าหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับผู้ชุมนุม จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากได้ทยอยเดินเท้าเข้ามาภายในกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมกับได้นำรถขยายเสียงเข้ามาปราศรัย เพื่อขอยื่นหนังสือเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และกองทัพประกาศจุดยืนต่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ และเรียกร้องให้ยืนเคียงข้างประชาชน
ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น. เนชั่นทันข่าว รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วยพ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบกฝ่ายต่างประเทศ ร่วมกันอ่านคำแถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยพ.อ.วินธัย กล่าวว่า กองทัพบกยังคงเป็นกองทัพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและประชาชนอยู่เสมอ โดยติดตามสถานการณ์และเตรียมดูแลช่วยเหลือประชาชน หากมีการบาดเจ็บหรือสูญเสียจากสถานการณ์การชุมนุมที่อาจมีแนวโน้มก้าวไปสู่ความรุนแรง กองทัพบกขอให้การชุมนุมของทุกฝ่ายเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้กรอบกฎหมาย และอย่าได้พยายามแบ่งฝ่าย หรือดึงกองทัพให้ตกเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะกองทัพบกถือว่าประชาชนทุกคนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นทั้งรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชนทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันแสวงหาทางออกอย่างสันติให้ได้โดยเร็ว
"สำหรับภารกิจงานป้องกันและเทิดทูนสถาบัน กองทัพบกพยายามอย่างเต็มที่ โดยใช้หลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ในการดำเนินการจึงอยากให้ทุกฝ่ายไม่ควรนำสถาบันมาเป็นเงื่อนไขในความขัดแย้งทางการเมือง เพราะประชาชนทุกคนคือคนไทยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยกันทั้งสิ้น หากทุกฝ่ายเร่งปลุกระดมมวลชนให้เกิดอารมณ์ที่รุนแรงหรือไม่พอใจกันในวงกว้าง ต่อไปจะไม่สามารถควบคุมหยุดความรุนแรงได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้ถึงช่วงเดือนแห่งความสุขของคนไทย วันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม อาจทำให้พระองค์ทรงไม่สบายพระทัยได้ ที่คนไทยด้วยกันขาดความสามัคคีต้องมาต่อสู้กันเอง ทหารทุกคนจะอยู่ในบทบาทที่เหมาะสมและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ ทุกคนมีความห่วงใยในสถานการณ์อย่างแท้จริง ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับของทางราชการ อย่าได้มองและมีทัศนคติในเชิงลบต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำงานตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง"พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขอให้ผู้ชุมนุมได้เข้าใจ และขอให้ระมัดระวังในการใช้วาจาที่สุภาพเหมาะสมต่อเจ้าหน้าที่ในแต่ละโอกาสด้วย กองทัพบกคงยึดถือและปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ได้ทรงพระราชทานไว้ เมื่อพ.ค. ปี 2535 อยู่ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนทุกคนได้ทำความเข้าใจ ลดความเกลียดชังซึ่งกันและกันทุกพวก ทุกฝ่าย ทุกสี ขอให้สนับสนุนให้ผู้นำของตนร่วมกันหาทางออกให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งประชาชนจะต้องไม่ทำร้ายกันเอง สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครชนะหรือแพ้ แต่ที่พ่ายแพ้คือประเทศชาติ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในกองทัพบก ยืนยันว่า ดีอยู่แล้ว โดยได้มีการวางมาตรการดูแลเป็นระดับ แต่ที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้มีท่าทีหรือแนวโน้มที่จะมีความรุนแรง หรือพยายามที่จะเข้ามาในพื้นที่ด้านใน แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยน กองทัพบกก็มีมาตรการในการรองรับด้วยการเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยเป็นลำดับ แต่บางครั้งการแสดงกำลังอาจจะส่งผลในเชิงทำนองยั่วยุได้ ดังนั้นการดำเนินการใดๆก็ตามจะต้องคำนึงถึงความจำเป็นที่เหมาะสมจริงๆ ทั้งนี้หากสถานการณ์มีแนวโน้มที่เปลี่ยน เราก็จะต้องมีการเพิ่มระดับ โดยเฉพาะความเข้มงวดให้มากขึ้น ส่วนกรณีที่มีการมองว่า กองทัพบกยินยอมให้กลุ่มผุ้ชุมนุมเข้ามาในกองทัพนั้น ทางกองทัพไม่อยากใช้ความรุนแรง และเราไม่ได้มองกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอริราชศัตรูหรือฝ่ายตรงข้าม แต่เขาคือพี่น้องคนไทย กลุ่มผู้ชุมนุมคือผู้ที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง ดังนั้นการเข้ามาชุมนุมโดยไม่ใช้ความรุนแรงอาจมีโอกาสเป็นไปได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตามต่อไปจะต้องมีความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวเนชั่นรายงานว่าภายหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางกลับในเวลา 14.30 น.นั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารประจำส่วนสนับสนุนกองบัญชาการกองทัพบก (สสน.)ได้ส่งกำลังทหารช่างประมาณ 10นาย เข้ามาซ่อมประตูรั้วด้านหน้ากองทัพบกที่ได้รับเสียหาย โดยมีมวลชนบางส่วนที่สัญจรผ่านด้านหน้าบก.ทบ.เข้ามาช่วยทหารซ่อมประตู พร้อมให้คำแนะนำ เนื่องจากมีอาชีพเป็นช่าง ขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกกองบัญชาการที่มีผู้ชุมนุมเดินทางเข้ามานั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) และเจ้าหน้าที่กองพันสุนัขทหารนำสุนัขทหารเดินสำรวจวัตถุอันตรายในบริเวณดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังได้นำรั้วลวดหนามมาวางบริเวณประตูทางเข้า-ออก เพื่อเสริมความปลอดภัยภายในกองทัพบกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น