วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ให้ ‘นิวัฒน์ธำรง’ นำแทนนายกฯ ดันเลือกตั้ง – พท.ออกแถลงการณ์ค้านคำวินิจฉัย

          7 พ.ค.2557  นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมรัฐมนตรีที่มีมติเห็นชอบให้ย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. พ้นจากตำแหน่ง ว่า รัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งจำนวน 10 คนนั้นมีบางส่วนพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ทางรัฐบาลเกิดประเด็นสงสัยทางกฎหมายว่าการดำรงตำแหน่งของรัฐมนตรีที่เปลี่ยนไปจากคณะรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ 1 นั้น จะมีการพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้จะให้คณะกรรมการกฤษฏีกาตีความ และสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ต่อไป
          อย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มอบหมายให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือ แนวทางต่อจากนี้ นอกจากนี้นายนิวัฒน์ธำรงค์จะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีและจะดำเนินการให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ โดยคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่จะทำหน้าที่รักษาการต่อไป ซึ่งจะร่วมกับ กกต.ในการกำหนดรายละเอียดวันเลือกตั้ง และเมื่อมีรัฐมนตรีชุดใหม่ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดการทำหน้าที่ ทั้งนี้ได้ต้องรอความชัดเจนในการหารือกับ ประธาน กกต. ช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ค.ต่อไป
         รายงานข่าวแจ้งว่า นายนิวัฒน์ธำรง เป็นรองนายกรัฐมนตรี อันดับสอง ที่อยู่ในลำดับรองจากนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกูล ที่พ้นตำแหน่งไปพร้อมนางสาวยิ่งลักษณ์ และที่สำคัญนายนิวัฒน์ธำรงเป็นรัฐมนตรีสายตรงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร   นอกจากนี้ความเสี่ยงทางการเมืองจากคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดในวันพรุ่งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ก็เป็นเพียงพยานในคดีเท่านั้น ไม่อยู่ในฐานะของผู้ถูกร้องเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์
         ทั้งนี้ รายชื่อรัฐมนตรีผู้เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 ในการลงมติแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี  ได้แก่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, .ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก, ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา, นายสันติ พร้อมพัฒน์, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
         ส่วน รายชื่อ ครม.ที่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อ มีดังนี้ 
  • 1. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ 
  • 2. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ 
  • 3. นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ 
  • 4. นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักฯและรมช.เกษตรฯ 
  • 5. นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.กระทรวงคมนาคม
  • 6.  นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ 
  • 7. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.กระทรวงพลังงาน 
  • 8. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย 
  • 9. นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม 
  • 10. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ 
  • 11. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง 
  • 12. นางเบญจา หลุยเจริญ รมช.คลัง 
  • 13. นายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่ยว 
  • 14. นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
  • 15. พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม 
  • 16. นายพ้อง ชีวานันท์ รมช.คมนาคม 
  • 17. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ 
  • 18. นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ 
  • 19. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รมช.มหาดไทย
  • 20. นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม 
  • 21. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ 
  • 22. นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข 
  • 23. นายสรวงศ์ เทียนทอง รมช.สาธารณสุข 
  • 24. นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม

        วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย นำโดยนายโภคิน พลกุล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายรัฐมนตรีพ้นสภาพเฉพาะตัว และให้คณะรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุมและลงมติโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี โดยมิชอบ ซึ่งล่าสุดทางพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมถึงผลการตัดสินที่ออกมา และได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเพื่อแสดงจุดยืนและท่าทีของพรรคต่อคำวินิจฉัยในครั้งนี้ โดยไม่ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ และให้ กกต. และรัฐบาล เร่งตรา พ.ร.ฏ.เลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
โดยแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย ระบุ 8 ข้อ ดังนี้ 
  • 1.     พรรคเพื่อไทยได้มีแถลงการณ์ถึงพี่น้องประชาชนและทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องว่า ประเทศจะเดินหน้าไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขได้ และจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เป็นอยู่ไม่ให้บานปลายจนเกิดกลียุคได้ ก็ด้วยการเลือกตั้งและการตั้งอยู่บนความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติของทุกฝ่าย และทุกองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
  • 2.      พรรคเพื่อไทยได้ย้ำและชี้ให้เห็นมาโดยตลอดว่า มีขบวนการสมคบคิดกันเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ล้มล้างการเลือกตั้ง มุ่งทำลายล้างฝ่ายประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยความร่วมมือของพรรคการเมืองบางพรรค กปปส.และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ด้วยการไม่ยอมรับการเลือกตั้ง การเสนอให้มีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง การกลั่นแกล้งรัฐบาลที่ยึดหลักประชาธิปไตยตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ด้วยการยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคทุกคนเป็นเวลา 5 ปี จนถึงการใช้ทุกกระบวนการเพื่อทำลายนายกรัฐมนตรีตั้งแต่นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์จนถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยไม่สุจริต
  • 3.      พรรคเพื่อไทยขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า พรรคอาสาเข้ามารับใช้ประชาชนด้วยจิตสำนึกที่เคารพในอำนาจของประชาชน ด้วยการนำเสนอนโยบายต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนมีความผาสุก มุ่งมั่นทำงานทุกอย่างให้เป็นไปตามนโยบาย  แม้จะถูกขัดขวางและใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอดโดยขบวนการสมคบคิดดังกล่าว พรรคเชื่อมั่นในวิจารณญาณของพี่น้องประชาชนที่ต้องการเห็นประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนบนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ความเที่ยงธรรมและความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน
  • 4.      พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า ตราบใดที่ขบวนการสมคบคิดยังดำเนินต่อไป จะมีการละเมิดหลักการประชาธิปไตยและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างไม่จบสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรัฐประหารในรูปแบบใหม่เพื่อสร้างระบอบการปกครองใหม่ที่ทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะเห็นประเทศก้าวหน้าไปบนวิถีทางประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม พี่น้องประชาชนจะได้เห็นความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ กปปส.และองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ที่จะไม่ให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 และให้มีนายกฯ และคณะรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
  • 5.      พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการใช้อำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญก็ดี ป.ป.ช.ก็ดีที่กระทำต่อรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ล้วนเป็นไปด้วยความเร่งรัด เร่งรีบ ผิดปกติ ไม่ให้โอกาสอ้างอิงพยานและรับฟังคำพยานได้เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น และบ่อยครั้งสอดคล้องกับการแถลงของ กปปส. และฝ่ายที่ต้องการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้และที่ผ่านมาได้วางบรรทัดฐานนอกเหนือจากตัวบทกฎหมายและเจตนารมณ์ของบทบัญญัติรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง จนทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้ และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ก็ไม่เป็นไปตามมาตรา 181 ที่บัญญัติว่าคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ตามมาตรา 180 ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ นั่นคือถ้ายังมีสภาผู้แทนราษฎรอยู่ก็ไปเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่แล้วมีคณะรัฐมนตรี แต่ถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องไปเลือกตั้งจนได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป 
  • 6.      พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและความถูกต้องเที่ยงธรรมทั้งหลาย ร่วมกันต่อต้านขบวนการสมคบคิดดังกล่าวโดยใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม การร้องเรียน แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีและการต่อต้านโดยสันติวิธีทุกรูปแบบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 69 เพื่อมิให้การดำเนินการของขบวนการสมคบคิดบรรลุผล
  • 7.      พรรคเพื่อไทยขอให้อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกพรรคทุกคน ชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ และความมุ่งหมายของขบวนการสมคบคิดที่ต้องการทำลายระบอบประชาธิปไตย และร่วมมือกับพี่น้องประชาชนเพื่อต่อต้านขบวนการดังกล่าวอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสันติสุขของสังคมต่อไป
  • 8.      พรรคเพื่อไทยขอย้ำอีกครั้งว่า กกต.และรัฐบาลต้องเร่งรัดให้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2557  และขอให้ทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่ายร่วมมือกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยสุจริต  เพื่อเป็นทางออกของความขัดแย้ง  ดังที่ปฏิบัติกันในนานาประเทศและประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น