วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

'นิค นอตสติทซ์' หวิดโดนการ์ด กปปส.รวบ หน้าศาล รธน.


         นิค นอตสติทซ์ โดนอีก ถูก 3 การ์ด กปปส.พยายามเข้าล็อคตัว "ไปหาหลวงปู่" เจ้าตัว-เพื่อน ร้องเรียก ตร.ช่วย ล่าสุดอยู่ในที่ปลอดภัย
<--break- /><--break- />         7 พ.ค. 2557 นิค นอตสติทซ์ ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน ให้สัมภาษณ์ประชาไทว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ที่ผ่านมา ขณะที่เขานั่งสูบบุหรี่อยู่กับ โจนาธาน เฮด เพื่อนผู้สื่อข่าวต่างประเทศ บริเวณหน้าประตูศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อรอทำข่าวศาลวินิจฉัยคดีโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี มีชาย 3 คน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการ์ด กปปส. เนื่องจากมีสัญลักษณ์ กปปส. เดินตรงมาหาตนเอง และพูดด้วยสำเนียงใต้ว่า "ไปนิค ไปหาหลวงปู่" พร้อมเข้ามานั่งขนาบข้าง พยายามล็อคตัวเขา
         "เขาบอก 'เราเชิญไปหาหลวงปู่' ผมก็บอกว่า ผมไม่ไป ผมรู้คุณพยายามทำร้ายผม" นิคเล่าและว่า พอเขาลุกขึ้นยืน การ์ดทั้งสามยังพยายามเข้ามาดันเขา โจนาธาน เฮด จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากตำรวจทหาร 7-8 นายซึ่งอยู่บริเวณนั้น ห่างไปราวสิบกว่าเมตร
        นิค บอกว่า ขณะนี้ เขาอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้ว และยืนยันจะแจ้งความต่อไป ทั้งนี้ ทราบจากคนที่ยังอยู่ในบริเวณนั้นว่าหลังจากเขาออกมาแล้วก็ยังมีคนเข้าไปตามหาเขาในบริเวณศาล
       นิค กล่าวว่า เนื่องจากเขาเคยถูกทำร้ายร่างกายก่อนหน้านี้ เขาทราบดีว่าไม่ควรเข้าใกล้หรือเข้าไปในเขตของผู้ชุมนุม  วันนี้เขาก็อยู่ในบริเวณศาล ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ ยังคิดว่าน่าจะไม่เป็นไร แต่ก็เกิดเรื่องขึ้น
        ด้าน โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ แสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า ที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในบริเวณศาลสูงสุดของประเทศ ซึ่งคาดหวังว่าผู้สื่อข่าวควรจะได้ทำข่าวโดยปราศจากความกลัว

        ก่อนหน้านี้ (25 พ.ย.56) นิคเคยถูกการ์ดผู้ชุมนุมทำร้ายที่แยก พล.1 ระหว่างปฏิบัติการดาวกระจายของ กปปส. หลัง ชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส. และ อดีต ส.ส. ปชป. ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ไล่เขาออกจากจุดถ่ายภาพ 
       สำหรับ นิค นอสติทซ์ (Nick Nostitz) เป็นช่างภาพชาวเยอรมันที่ทำงานในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2536 ผลงานหนังสือภาพถ่ายที่สำคัญของเขาเช่น "Patpong: Bangkok's Twilight Zone" ตีพิมพ์เมื่อปี 2544 อธิบายถึงอุตสาหกรรมทางเพศในประเทศไทย นอกจากนี้ผลงานภาพถ่ายของเขายังปรากฏในนิตยสาร Stern และ Der Spiegel หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เขามีผลงานหนังสือภาพถ่าย Red vs Yellow Volume 1: Thailand's Crisis of Identity พิมพ์ในปี 2552 และ Red vs Yellow Volume 2: Thailand's Political Awakening พิมพ์ในปี 2554 และเขียนบล็อกในเว็บนวมณฑล (New Mandala) เว็บไซต์อภิปรายเรื่องสังคม การเมือง วัฒนธรรมในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียด้วย


วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"โจนาธาน เฮด" เขียนทวิตประจานความชั่ว การ์ด กปปส.ไปทั่วโลก เหตุรุมทำร้ายและอุ้มตัว "นิก นอสติทซ์" นักข่าวอิสระชาวเยอรมัน


             วันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิก นิก นอสติทซ์ นักข่าวอิสระชาวเยอรมัน เปิดเผยว่า ตนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็น "การ์ด" ประจำม็อบเวทีหนึ่ง รุมทำร้ายและพยายามลักพาตัวไปหาแกนนำม็อบ ระหว่างที่ตนกำลังทำข่าวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษาในคดีถวิล เปลี่ยนศรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อช่วงบ่ายวันนี้

            นายนอสติทซ์ ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ทางโทรศัพท์ว่า ตนกำลังยืนสูบบุหรี่กับนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวอาวุโสของสำนักข่าวบีบีซีจากสหราชอาณาจักร บริเวณทางเข้าศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 ทันใดนั้น มีการ์ด กปปส. กลุ่มหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์และเดินเข้ามาถามตนว่า ตนชื่อนิกใช่หรือไม่ ก่อนจะพูดจาข่มขู่ให้ตนไปกับพวกการ์ด โดยการ์ดอ้างว่าจะพาไปหาแกนนำ ตนจึงปฏิเสธ และพยายามเดินหนีเข้าไปในอาคารศาลรัฐธรรมนูญ

          นายนอสติทซ์ล่าวว่า ไม่ทันที่ตนจะเข้าไปในอาคารได้ กลุ่มการ์ดได้กรูเข้ามาทำร้ายและพยายามดึงตนขึ้นรถจักรยานยนต์ทันที ตนจึงร้องขอความช่วยเหลือ สร้างความตื่นตกใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และผู้สื่อข่าวต่างประเทศจำนวนมากที่กำลังรอทำข่าวอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายนอสติทซ์ะบุว่า ในช่วงแรกไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วย แต่สักพักหนึ่งตำรวจได้เข้ามากันตนออกจากกลุ่มการ์ด และสั่งให้พวกการ์ดปล่อยตน จากนั้นก็พาตนหลบหนีเข้าไปในศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ตนจะเดินทางออกจากศาลรัฐธรรมนูญทางประตูหลังเพื่อความปลอดภัย

           นักข่าวอิสระผู้นี้กล่าวด้วยว่าก่อนหน้านี้ตนถูกการ์ดกปปส.ทำร้ายโดยถูกกลุ่มการ์ดรุมชกต่อยขณะกำลังทำข่าวในม็อบกปปส.บนถนนราชดำเนินเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2556 ซึ่งในเหตุดังกล่าว นายชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส เป็นผู้ปราศรัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าทำร้ายนายนอตติซท์ โดยอ้างว่าเป็นนักข่าวเสื้อแดง

         นายนอสติทซ์ผย "ข่าวสด" ด้วยว่า ตนไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกทำร้ายโดยการ์ด ในพื้นที่ราชการและพื้นที่ศาลเช่นนี้ ตนมิได้อยู่บนท้องถนนหรือในกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนกรณีก่อนหน้านี้ อีกทั้งเหตุดังกล่าวยังเกิดขึ้นต่อหน้าผู้สื่อข่าวต่างชาติหลายคน

           นอกจากนี้นายนอสติทซ์กล่าวว่าตนรู้สึกหวาดผวาจากการคุกคามของการ์ดกปปส.อย่างมากและตนพยายามต่อสู้ขัดขืนก็เพราะตนรู้ดีว่าถ้าหากตนถูกจับตัวไป ตนก็จะตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายที่เคยถูกทรมานและรุมทำร้ายโดยการ์ดก่อนหน้านี้

          “ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้างมันน่ากลัวมากๆ”นายนอสติทซ์กล่าวพร้อมระบุว่าตนจะหาทางแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มการ์ดที่ทำร้ายตนในกรณีนี้ถึงแม้ตนจะไม่อยากดำเนินการใดๆก็ตาม เพราะรู้สึกว่าตนจะถูกเพ่งเล็งจากม็อบมากขึ้นหากตนแจ้งความ แต่ตนก็เห็นว่า ถ้าหากตนไม่พยายามดำเนินการใดๆ เลย กลุ่มการ์ดก็อาจจะมีพฤติกรรมเช่นนี้อีกในอนาคต และสถานการณ์ก็จะเลวร้ายลงอยู่ดี

            “ใจจริงผมไม่อยากแจ้งความอะไรเลยแต่ขณะเดียวกันผมก็ไม่อยากถูกทำร้ายแต่แรกเช่นกันผมแค่อยากที่จะทำหน้าที่สื่อมวลชนได้อย่างปลอดภัย”นายนอสติทซ์กล่าวย้ำ

              เวลา 18.30 น. ร.ต.อ.วิทยา คงทอง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ผู้รับแจ้งความจากนายนิก นอสติทซ์ เปิดเผยว่า นิกแจ้งความว่าเวลาประมาณ 14.30 น. ระหว่างยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีชายฉกรรจ์ 3 คนขี่รถจยย.เข้ามาหา ซึ่งเจ้าตัวมองออกว่าเป็นการ์ดกปปส. โดยเข้ามาถามว่า "ใช่นิกหรือไม่ ขอเชิญไปพบหลวงปู่หน่อย" ด้านนิกปฏิเสธว่าไม่ไป แต่กลับถูกการ์ดกปปส. กระชากตัวให้ขึ้นรถจยย.ไปกับการ์ดด้วย แต่ยนิกมีรูปร่างใหญ่และแรงเยอะกว่า ทำให้สะบัดตัวหลุดได้ และรีบเข้าไปขอความช่วยเหลือกับตำรวจจึงได้รับความปลอดภัย

             ร.ต.อ.วิทยา กล่าวต่อว่า นายนิกแจ้งว่าการ์ดกปปส. น่าจะมีแบล็คลิสต์รายชื่อคนที่ต้องการตัว ซึ่งนายนิกเชื่อว่าตัวเองเป็นหนึ่งในแบล็คลิสต์ด้วย และที่ปฏิเสธไม่ยอมไปกับการ์ดกปปส. เพราะทราบสรรพคุณของการ์ดกปปส. ดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่นำภาพใบหน้าการ์ดกปปส. มาให้นายนิกชี้ตัวแล้วว่าเป็นคนไหน แต่นายนิกแจ้งว่าจำรายละเอียดไม่ได้ เพราะตอนการ์ดเข้ามาหามีการอำพรางใบหน้าพอสมควร ทั้งใส่แว่นดำ มีผ้าปิดปากและผ้าโพกหัวค่อนข้างมิดชิด หลังจากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น