วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

จิตวิปริต หลงผิด เสพติดอำนาจ ชาติหายนะ

โดย มหากมล
            ครรลองประชาธิปไตย
        ไม่เฉพาะคนไทยจิตใจปกติ ชาวนานาอารยประเทศก็ยังงง และประหลาดใจรูปสัตว์ที่มีคุณูปการต่อคน สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง ทำเป็นเหมือนถูกจับให้ใส่เสื้อสีต่าง ๆ ผูกไท ติดป้าย โชว์ริมถนนที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในช่วงมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยได้ใช้สิทธิของตนเลือกผู้แทนมาทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ ด้านบริหาร ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย ที่ทั่วโลกยอมรับกันว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด ที่จะนำพาประเทศให้เกิดสันติสุข และนำความเจริญรุ่งเรืองและอยู่ดีกินดีมาให้ประชาชนที่ใช้สิทธิเลือกผู้แทนของเขามา

ถ้าคิดว่าสัตว์เลวร้าย จิตใจคนยิ่งเลวร้ายกว่า

            นสพ.ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวว่า สังคมไทยควรเลิกใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ในการดูถูกเหยียดหยาม สัตว์หลายชนิดที่ถูกนำมาเป็นตัวละครทางการเมืองไทย ล้วนเป็นสัตว์ที่มีคุณค่า และไม่ใช่ตัวแทนของสิ่งเลวร้าย เช่นตัวเงินตัวทอง ก็ช่วยรักษาระบบนิเวศวิทยา ควายก็ใช้ไถนา สุนัขใช้ให้เฝ้าบ้าน ลิงช่วยเก็บมะพร้าว เสือก็ช่วยรักษาความสมดุลของป่า อย่าเอาแต่สิ่งไม่ดีมาเปรียบเทียบเปรียบเปรยด่ากัน ควรเอาสิ่งที่ดีที่มีอยู่ออกมาพูดยกย่องบ้าง เชื่อว่าป้ายโหวตโนและป้ายหาเสียงของบางพรรคที่มีการนำสัตว์มาเป็นสัญลักษณ์จะไม่ได้ช่วยให้คนเลือกหรือไม่เลือกใคร ถ้าเอาหัวสุนัขมาใส่ให้คนดี เชื่อว่าคนก็จะเลือกเพราะความดีของคนคนนั้น ถ้าคิดว่าสัตว์เลวร้าย จิตใจคนยิ่งเลวร้ายกว่า และเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า บ้านเมืองไหนปฏิบัติต่อสัตว์อย่างไร คนก็จะเป็นแบบนั้น นี้คือคำพูดของคุณหมอที่มีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่มีเมตตาธรรม มองเห็นสรรพสัตว์เป็นเพื่อนร่วมโลกที่มีคุณค่า ไม่เหมือนกับกลุ่มคนจิตวิปริต หลงผิด บางกลุ่มแสดงออกให้เห็นถึงจิตใจที่เลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์

 หลงผิดคิดไม่ชอบ ไม่เคารพกฎหมาย

           กลุ่มคนพวกนี้ไม่ใช่ผู้ปกครอง ผู้บริหารบ้านเมือง แต่สามารถชี้นำ มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไทย โดยใช้วิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระเบียบ ประเพณี ศีลธรรมอันดีงามของสังคมได้ แม้รัฐธรรมนูญที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า เป็นกฎหมายสูงสุด ก็ยังลุแก่อำนาจให้ฉีกทิ้งได้

            ใช่! รู้แล้วใช่ไหม เจ้าพ่อสันติอโศก เป็นคนไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของหมู่สงฆ์ บวชพระไม่พอใจฝ่ายธรรมยุตินิกาย ก็หนีมาพึ่งพระฝ่ายมหานิกาย อยู่ฝ่ายมหานิกายเห็นว่าตัวเองเลิศก็ตั้งตัวเป็นศาสดาเสียเอง สุดท้ายถูกศาลลงโทษ เฉไฉว่าได้ลาออกจากมหาเถรสมาคมแล้ว แค่นี้ก็บอกตัวตนโพธิรักษ์ได้ว่าเป็น คนหลงผิด ขณะนี้มีฐานะเรียกตัวเองว่าสมณะ แต่มีสิทธิเลือกตั้งได้ นี่คือตัวอย่างของคนจิตใจวิปริต หลงผิด ที่ทำให้บ้านเมือง ชาติ ศาสนา หายนะอยู่จนทุกวันนี้ ได้สาวกโรคจิตสุดยอดแห่งความวิปริต

              ใคร ๆ ที่ได้สัมผัสและติดตามพฤติกรรมของพลตรีจำลอง ศรีเมือง มหาสาวกคนสำคัญของโพธิรักษ์ จะสังเวชในพฤติกรรมผิดปกติ (Abnormal) ตามหลักจิตวิเคราะห์ ไม่ว่าสำนักของ ซิกมันด์ ฟรอย หรือใครก็ตาม ความผิดปกติของเขาคล้าย ๆ กับว่าจะเป็นคนมีธรรมะอยู่อย่างสงบ ปฏิบัติตามขนบธรรมเนียม ประเพณี เคารพกฎหมาย แต่ไม่ใช่ กลับเป็นคนอยากใหญ่ อยากมีอำนาจ ตั้งพรรคการเมือง ได้เป็นผู้ว่า กทม. มีตำแหน่งใหญ่โตทางการเมือง แต่เขาก็ยังไม่พอใจ เพราะจิตใจของเขาเต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา มานะทิฏฐิ อยากเป็นนายก หรือสูงกว่านั้น ทำทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม สามารถปิดถนนราชดำเนินได้ก็แล้วกัน ละเมิดกฎหมายจนชาชิน ไม่มีใครทำอะไรเขาได้

                   แสดงว่าคน ๆ นี้ ชี้นำและมีอิทธิพลต่อมือที่มองไม่เห็นได้อย่างผิดปกติจริง ๆ คนที่ชอบเลี้ยงสุนัขหรือแกล้งสร้างภาพก็ไม่รู้ ทำไมจิตใจจึงไม่มีคุณธรรมของความเป็นผู้ใหญ่ คือ พรหมวิหาร 4 ตามหลักพุทธศาสนาเลย น่าอเนจอนาถใจ เขาคงจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ไปจนตาย เพราะเขา เข้าลักษณะเป็นคนโรคจิตครับ มหาสาวกอีกคนของโพธิรักษ์ คือ แป๊ะลิ้ม ไม่อยากจะบรรยาย เอาเป็นว่าบ้านเมืองไทยมีความ สับสน วุ่นวาย อยู่ขณะนี้ก็เพราะมีผู้ใหญ่ หลงผิด เสพติดอำนาจ ยัง คลั่งไคล้ หลงใหล เชื่อเขาอยู่ ตราบใดที่ผู้ใหญ่ในในบ้านเมืองยังรับเอาคนโรคจิตพวกนี้เป็นพันธมิตร ทำให้มีอิทธิพลต่อ ความคิด ความเชื่อของพวกเขาอยู่ ขอฟันธงได้เลยว่า คนบ้า โรคจิต หลงผิดเหล่านี้จะพาชาติบ้านเมืองไทยหายนะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ต้องได้ชดใช้กรรมแน่

              มีนักวิเคราะห์การเมืองชาวตะวันตกท่านหนึ่งงุนงงสงสัยกับการล้มเหลวของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่ถอยหลังจนกลายเป็นเผด็จการสมบูรณ์แบบ เชื่อว่าประเทศที่ประชาชนได้รับการศึกษาสูงจำนวนมาก การปกครองระบอบประชาธิปไตยน่าจะพัฒนาไปได้ไกลและก้าวหน้ามากกว่านี้ โดยเฉพาะประเทศไทย ชนชั้นปกครอง พวกอำมาตย์ นักการเมือง นักธุรกิจ ล้วนมีการศึกษาสูง แต่ชอบระบอบเผด็จการ คำนึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว พวกพ้อง วงศ์ตระกูล เรียกได้ว่าเรียนสูงแต่ สติปัญญามืดบอดเพราะขาดคุณธรรม มีโมหะครอบงำจิตใจ ยากที่จะเห็นความจริงตามที่เป็นจริง ชาวบ้านการศึกษาไม่สูงแต่ตาสว่าง ไม่มีอวิชชาปิดบังตา มองเห็นรูปสัตว์ผูกเนคไทริมถนนจึงรู้สึกสังเวช สลดใจ

                คนระดับผู้นำ ผู้บริหารประเทศกับพวกพันธมิตรที่คิดว่า ประชาชนโง่เง่าเต่าตุ่น โปรดระวัง นอกจากพวกคุณไม่เห็นคุณค่าของคน ของสัตว์แล้ว ยังมีจิตวิปริต หลงผิด เสพติดอำนาจ จิตใจของพวกคุณยังถือได้ว่ามีจิตเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์อีก คงไม่นานเกินรอ กรรมที่พวกคุณกระทำให้แก่ประเทศชาติ ประชาชนอย่างเจ็บปวดเช่นนี้ พวกคุณจะต้องได้รับการชดใช้กรรมนั้นอย่างสาสมแน่นอน...
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น